สื่อต่างประเทศรายงาน (25 ต.ค.) เกาะไหหลำทางตอนใต้ของจีนกำลังเป็นสวรรค์แห่งการช้อปปิ้งปลอดภาษี นักท่องเที่ยวชาวแผ่นดินใหญ่ที่กระตือรือร้นที่จะเลือกซื้อสินค้าต่างอดทนรอเยียวยาจิตใจด้วยการจับจ่าย
"ฉันกำลังคิดเรื่องการช้อปปิ้งครั้งใหม่" เจิ้ง หรง วัย 34 ปีผู้ตรวจสอบบัญชีจากปักกิ่ง กล่าวถึงการรอคอยเดินทางไปไห่หนาน "ฉันต้องการซื้อกระเป๋า Bottega Veneta รวมทั้งเสื้อโค้ทและเสื้อแจ็คเก็ตดาวน์จาก Moncler ก่อนที่อากาศจะหนาว"
การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาทำให้การใช้จ่ายฟุ่มเฟือยส่วนใหญ่ของโลกเข้าสู่ภาวะชะงักงัน และจีนเป็นเศรษฐกิจหลักเพียงแห่งเดียวที่คาดว่าจะเติบโตในปีนี้ แบรนด์ระดับไฮเอนด์จึงพึ่งพาผู้บริโภคชาวจีนเช่นคุณเจิ้ง มากกว่าที่เคยเป็นมา โดยใช้อีคอมเมิร์ซและผลักดันการเปิดร้านในขณะที่ในประเทศอื่น ๆ ส่วนใหญ่แผนดังกล่าวถูกเลื่อนหรือลดขนาดลง
ผู้บริโภคละทิ้งการเดินทางไปต่างประเทศตามปกติ สถานที่ต่างๆ เช่น มิลานและปารีส ส่งผลให้เซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของประเทศจีน ได้เริ่มเข้ามาแทนที่ฮ่องกงในฐานะแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวในประเทศ
Prada กล่าวว่ายอดขายในประเทศจีนของกลุ่มเพิ่มขึ้น 60% ในเดือนมิถุนายนและ 66% ในเดือนกรกฎาคม ในขณะที่ LVMH LVMH.PA ตั้งข้อสังเกตว่าในหลายสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ประเทศปิดกั้น เป็นช่วงเวลาที่ Louis Vuitton และ Dior ทำยอดขายในจีนมากกว่าสองเท่า
"จีนแผ่นดินใหญ่กลายเป็นสถานที่ที่กำลังซื้อทั้งหมดถูกกักไว้" เมาโร่ มัคจิโอนี ซีอีโอประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของรองเท้าสนีกเกอร์หรูหราและเครื่องแต่งกายแบรนด์ Golden Goose ของอิตาลีซึ่งมีร้านค้า 21 แห่งในจีนแผ่นดินใหญ่กล่าวฯ และว่า นอกจากนี้ยังเปิดร้านค้าบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชั้นนำของจีนเมื่อเดือนกันยายน และมีแผนจะเปิดร้านใหม่ในไห่หนานเร็ว ๆ นี้
การใช้จ่ายที่หรูหราในจีนเพิ่มขึ้นถึงระดับใหม่สำหรับบางแบรนด์ McKinsey & Company กล่าวว่าสัดส่วนราวครึ่งหนึ่งของการใช้จ่ายทั่วโลกสำหรับแบรนด์ระดับไฮเอนด์ในปี 2020 คือลูกค้าชาวจีน โดยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 37% เทียบกับปีที่แล้ว
Bain & Company บริษัทที่ปรึกษาในอุตสาหกรรม กล่าวว่านักท่องเที่ยวชาวจีนในต่างประเทศขาดหายไปนั้นยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยส่วนขาดหายไปของตลาดสินค้าหรูหราซึ่งยังหายไปถึงสองในสาม เพราะการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยทั่วโลกคาดว่าจะลดลงมากถึง 35% เทียบจากปีที่แล้ว หรือราว 3 แสนล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ประเทศจีนยังเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อสูง ใจถึง พึ่งได้ จากตัวเลขร้านค้าสำหรับแบรนด์หรูชั้นนำเพิ่มขึ้น 4% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 ในขณะที่แบรนด์เครื่องสำอางเพิ่มขึ้น 8% (ตามรายงานของที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ Savills)
“ ฉันสามารถเห็นศักยภาพที่ต่อเนื่องของตลาดจีน” ไมเคิล นอรซา รองประธานบริหารของ Ferragamo SFER.MI แบรนด์อิตาลี กล่าวถึงศักยภาพตลาดร้านค้าในจีน โดยมีจุดประสงค์เพื่อปิดบางส่วนในยุโรปและเปิดเพิ่มเติมในจีน
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนพยายามที่จะกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ ด้วยการลดภาษีนำเข้าในปี 2018 ทำให้แบรนด์หรูสามารถลดราคาในจีนได้ อาทิ ล่าสุด ไห่หนานได้ขยายปริมาณการช้อปปิ้งปลอดภาษีเป็น 100,000 หยวน (14,650 ดอลลาร์) จาก 30,000 หยวน
เรื่องที่จีนแตกต่างจากหลาย ๆ ประเทศอีกเรื่องคือ มีกำลังซื้อจากผู้บริโภคหรูหราจำนวนมากที่มีอายุระหว่าง 25-35 ปีซึ่งมักเป็นลูกคนเดียวของครอบครัวและได้รับเงินจากพ่อแม่ที่รักและตามใจ
ผู้ซื้อชาวจีนอายุน้อยก็ชอบอีคอมเมิร์ซและแบรนด์ที่ดีที่สุดของโลกก็เริ่มลุยการขายออนไลน์ในจีน เพิ่มประสบการณ์การช้อปปิ้งหรูหราทางอินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับบรรดาสินค้าลอกเลียน
ขณะนี้บริการต่าง ๆ เช่นการสตรีมสดทำให้แบรนด์หรูสามารถเชื่อมต่อกับผู้ซื้อได้โดยตรงมากขึ้น Maggioni จาก Golden Goose ก็ทำร้านค้าออนไลน์ที่แบรนด์สามารถเข้าถึงผู้ซื้อในเมืองจีนได้ถึง 100 เมือง
ตลาด Tmall ของอาลีบาบา มีแบรนด์ดัง 50 แบรนด์รวมถึง Giorgio Armani และ Alexander Wang มาเปิดร้านบนแพลตฟอร์มหรูหราในปีนี้ และอีก 20 แห่งที่คาดว่าจะเข้าร่วมภายในสิ้นปีนี้ทำให้มีจำนวนเพิ่มเป็น 220 ร้าน
ตอนนี้ การซื้อสินค้าแบรนด์หรูทางออนไลน์โดยตรงจากเจ้าของแบรนด์ไม่ใช่เรื่องยากแล้ว สังเกตจากการเจาะตลาดที่มากขึ้นซึ่งมาพร้อมกับการนำเสนอออนไลน์ ยิ่งเมื่อแบรนด์ต่าง ๆ เห็นตัวเลขยอดซื้อ พวกเขาก็คงจะต้องยิ่งเร่งความเร็วขึ้นในการหันเหมาทางทางออนไลน์นี้