xs
xsm
sm
md
lg

อาลีบาบาประกาศสถิติเทศกาล 11.11 ยอดรวม 2.2 ล้านล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อาลีบาบา สรุปยอดรวมเทศกาลชอปปิ้ง 11.11 ตลอดช่วงระยะเวลาจัดงาน 11 วัน มียอดขายจากทุกช่องทาง 498,200 ล้านหยวน (ราว 2,278,000 ล้านบาท) เติบโตขึ้น 26% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา พบเทรนด์การไลฟ์สตรีมขายของได้รับความนิยมสูง

เจียง ฟาน ประธานบริหารของเถาเป่า และทีมอลล์ กล่าวว่า ในปีนี้เทศกาล 11.11 มีความสำคัญกว่าทุกๆ ปีในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา เพราะทุกภาคส่วนผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทางอาลีบาบา ต้องเตรียมความพร้อมของอีโคซิสเต็มในปีนี้ให้รองรับได้มากที่สุด

“นวัตกรรมถือเป็นหัวใจสำคัญของงาน 11.11 จนทำให้งานนี้กลายเป็นมหกรรมชอปปิ้งระดับโลกในปัจจุบัน มหกรรม 11.11 เกิดขึ้นได้ก็เพราะผู้บริโภค ร้านค้า และพันธมิตรในอีโคซิสเต็มของเรา และที่ขาดไม่ได้คือการสนับสนุนจากสังคม อาลีบาบาจะเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อนำเสนอบริการต่างๆ ที่ช่วยสนับสนุนร้านค้าและแบรนด์ทุกระดับ ในการเดินทางไปสู่ความสำเร็จในเศรษฐกิจดิจิทัลนี้” 

โดยสถิติจำนวนคำสั่งซื้อสูงสุดต่อวินาทีอยู่ที่ 583,000 คำสั่งซื้อต่อ 1 วินาที ที่โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลต้องดำเนินการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์มด้านเทคโนโลยีของอาลีบาบามีความยืดหยุ่นและแข็งแกร่ง จนสามารถรองรับปริมาณคำสั่งซื้อมหาศาลได้อย่างไม่มีปัญหา ในขณะที่เครือข่ายขนส่งของไช่เหนียว ได้ขนส่งพัสดุมากกว่า 2,320 ล้านชิ้น ตามคำสั่งซื้อทั้งหมดในช่วง 11 วันของการจัดงาน

นอกจากนี้ Taobao ยังเห็นเทรนด์ที่น่าสนใจขึ้นเกิดขึ้น และเติบโตอย่างมากในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ต่อเนื่องมายังเทศกาลชอปปิ้ง 11.11 คือ การที่ร้านค้าหันมาใช้วิธีการไลฟ์สตรีมมิ่ง ควบคู่ไปกับการขายสินค้า ทำให้ผู้บริโภคสามารถสอบถามรายละเอียด และโต้ตอบได้ทันที ส่งผลให้ยอดขายสินค้าหลายชนิดเติบโตเพิ่มมากขึ้นกว่า 30 ช่อง และทำยอดขายรวมได้เกิน 100 ล้านหยวน

แน่นอนว่าเทรนด์ดังกล่าวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในตลาดจีนเท่านั้น เพราะในไทยเราได้เห็นเทรนด์การไลฟ์ขายของกันเป็นเรื่องปกติแล้ว ที่แพลตฟอร์มเข้ามาช่วยคือการพัฒนาระบบให้สามารถบริหารจัดการสินค้า และจัดส่งได้รวดเร็วขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสในการทำอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน ด้วยการที่ปัจจุบันยังไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ ทำให้เกิดพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าที่น่าสนใจ อย่างการที่กลุ่มลูกค้าผู้หญิง จะเลือกซื้อสินค้าในกลุ่มเครื่องสำอางนำเข้า โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อุปกรณ์ดูแลผิวหน้า นมผงสำหรับทารกและเด็ก ชุดบำรุงผิวหน้า และแผ่นมาสก์หน้า ในขณะที่กลุ่มผู้ชายจะเลือกซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตขึ้นในจีนเป็นหลัก

สำหรับสถิติน่าสนใจที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาล 11.11 ครั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มงานเทศกาลในวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จนถึง 00.35 ของวันที่ 11 พฤศจิกายน มีแบรนด์ที่สามารถทำยอดขายได้เกิน 1 พันล้านหยวนไปถึง 13 แบรนด์ และอีก 342 แบรนด์ที่มียอดขายเกิน 100 ล้านหยวน ซึ่งรวมถึงแบรนด์ใหญ่อย่าง แอปเปิล ลอรีอัล ไฮเออร์ ไนกี้ หัวเว่ย ไมเดีย เสียวหมี่ และอาดิดาส

โดยมีแบรนด์ใหม่ราว 357 แบรนด์ ที่ทำยอดขายได้สูงสุดในแต่ละหมวดหมู่ และมีกว่า 1,800 แบรนด์ที่ทำยอดขาย ณ เวลานี้ได้มากกว่ายอดรวมในปีที่ผ่านมา ซึ่งในจำนวนนี้ 94 แบรนด์เติบโตเกิน 1000%

ส่วน 10 อันดับประเทศที่ใช้จ่ายในช่วงเทศกาล 11.11 มากที่สุด คือ สหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่มียอดขายจากทุกช่องทางมากที่สุด และประเทศที่มียอดขายเป็นอันดับต้นๆ คือ ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลี นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร ทั้งนี้ ภายในเทศกาลครั้งนี้มีร้านค้า และผู้ขายกว่า 300,000 รายมาจากประเทศกำลังพัฒนา


กำลังโหลดความคิดเห็น