xs
xsm
sm
md
lg

New China Insights : เขตการค้าเสรีเกาะไหหลำกับการเติบโตใหม่ที่น่าจับตา

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพมุมสูงของเกาะไหหลำ เมืองไหโค่วทางตอนเหนือตั้งอยู่ตรงข้ามกับมณฑลกวางเจาแผ่นดินใหญ่ และเมืองทางตอนใต้ที่สำคัญอีกเมืองซานย่า เมืองแห่งการท่องเที่ยว ที่มา Baidu.com
โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล
มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ วิทยาลัยนานาชาติ กรุงปักกิ่ง (UIBE)

ในบทความนี้ผู้เขียนอยากจะมาบอกเล่าสู่กันฟังในเรื่องของการพัฒนาเกาะไหหลำ เป็นเกาะที่มีอยู่ทางใต้สุดของจีน ในด้านของการปกครอง เกาะไหหลำมีระดับเป็นมณฑล เมืองหลวงคือไห่โค่ว เมืองหลักที่แห่งที่มีชื่อและมีนักท่องเที่ยวไปจำนวนมากคือเมืองซานย่า ปัจจุบันเกาะไหหลำคือเขตเศรษฐกิจพิเศษและเขตทดลองการค้าเสรีใหม่ของจีน เกาะไหหลำมีลักษณะภูมิอากาศที่ร้อนชื้น ฝนตกชุกจะคล้ายคลึงกับประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกาะไหหลำมีพื้นที่ 35,000 ตารางกิโลเมตร ประชากรบนเกาะทั้งหมด 9.44 ล้านคน เกาะไหหลำมีอ่าวทั้งหมด 68 อ่าว ปัจจุบันพื้นที่สีเขียวของเกาะไหหลำยังมีจำนวนมากอยู่คิดเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมด

เกาะไหหลำถือเป็นเกาะที่มีความใหญ่อันดับสองของจีนรองจากเกาะไต้หวัน ประชากรที่พำนักอยู่บนเกาะปัจจุบันเป็นชาวฮั่นส่วนใหญ่ ที่เหลือมี 30 กว่าชนกลุ่มน้อยของจีนกระจายตัวอยู่ ดังนั้นเกาะไหหลำถือเป็นเกาะที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมีความโดดเด่น

หลังจากการแนะนำข้อมูลพื้นฐานของเกาะไหหลำไปแล้ว ผู้เขียนขอกล่าวถึงด้านเศรษฐกิจของเกาะไหหลำ เนื่องจากลักษณะพิเศษของที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ทำให้เกาะไหหลำมีความต่างจากแผ่นดินใหญ่อยู่บ้าง โดยเฉพาะด้านการบริการและการท่องเที่ยวในช่วงปีหลังๆมานี้เกาะไหหลำถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว ซานย่าเป็นที่รู้จักของคนจีนทั้งประเทศเพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะลที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของจีน อุตสาหกรรมหลักของเกาะไหหลำได้แก่ การท่องเที่ยว การบริการสมัยใหม่และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีใหม่ ทั้งนี้เพราะเกาะไหหลำถูกต้องเป็นมณฑลทดลองการค้าเสรีแบบใหม่และเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษอยู่ด้วย ทางรัฐบาลวางแนวทางยุทธศาสตร์ให้เกาะไหหลำพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตร การแพทย์ ด้านไอทีและบูรณาการกับการบริการในด้านต่าง การค้าระหว่างประเทศ การให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีและการลงทุนที่โดดเด่นและดึงดูดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การเปิดรับแรงงานจากต่างชาติที่มีความสามารถ สามารถเข้าทำงานในหน่วยงานรัฐของจีนได้ มีความมั่นคงและให้ความสะดวกในการขอวีซ่า

เกาะไหหลำมีนิคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสร้างใหม่ 5 แห่ง ในปีที่แล้วมีบริษัทเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาลงทุน 566 บริษัท เติบโตจากปีก่อน 48.6 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2019 มูลค่าเศรษฐกิจของเกาะไหหลำมีจำนวน 5.3 ล้านล้านหยวน ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ 2014 การเติบโตเฉลี่ย 8 เปอร์เซ็นต์ ด้านของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของเกาะไหหลำในปัจจุบัน ภาคเกษตรกรรมมีสัดส่วน 20 เปอร์เซ็นต์ ภาคอุตสาหกรรมการผลิตมีสัดส่วน 20 เปอร์เซ็นต์และภาคบริการมีสัดส่วน 60 เปอร์เซ็นต์ ตัวเลขที่น่าจับตามองคือการเติบโตด้านการใช้จ่ายบริโภคในภาคบริการของเกาะไหหลำ ใน 5 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยที่ 5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี โดยเฉพาะปี 2019 การเติบโตของรายได้ของสินค้าและบริการปลอดภาษีเติบโตเพิ่มจากปีก่อนถึง 30 เปอร์เซ็นต์ การลงทุนโดยตรงของต่างชาติในเกาะไหหลำมีจำนวนเพิ่มขึ้นตลอดใน 5 ปีที่ผ่านมา โดยปี 2019 รับการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ 1.5 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐ เพิ่มจากปีก่อน 106 เปอร์เซ็นต์ ประเทศที่ลงทุนในเกาะไหหลำส่วนใหญ่90 เปอร์เซ็นต์มาจากเอเชีย ส่วนการลงทุนจากยุโรปและอเมริกามีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

แผนการพัฒนาเขตการค้าเสรีเกาะไหหลำที่จีนมีเป้าหมายที่จะปลุกปั้น แบ่งเป็นการเติบโต 4 ขั้นบันได มีดังต่อไปนี้
-ปี 2020 พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นและจัดตั้ง กำหนดพื้นที่ควบคุมทางศุลกากร
-ปี 2025 เริ่มดำเนินงานจริงพร้อมกันทั้งเกาะ เน้นที่การค้าและการลงทุนเปิดเสรี
-ปี 2035 พัฒนาและปรับปรุงนโยบายให้สอดคล้องกับการปฎิบัติและสถานการณ์จริง ให้เสรีทางการค้า การลงทุน การเงินระหว่างประเทศและการขนส่งสินค้าอย่างเต็มขั้น
-ปี 2050 เขตเศรษฐกิจพิเศษเกาะไหหลำเป็นเขตการค้าเสรีระดับโลกและได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ

การตัดสินใจของรัฐบาลจีนในครั้งนี้ที่จะปลุกปั้นและเนรมิตเกาะไหหลำให้กลายเป็น เกาะแห่งการเปิดเสรีอย่างเต็มรูปแบบ ในทางปฎิบัติในระยะการทดลองสามารถบริหารจัดการได้ง่าย เนื่องจากที่ตั้งแยกออกจากแผ่นดินใหญ่ ระบบการจัดการใหม่ที่สะดวกและง่ายกว่า ไม่ได้รับข้อจำกัดทางนโยบายเหมือนกับแผ่นดินใหญ่ที่การเปิดสู่ต่างชาติต้องไปในทิศทางเดียวกัน นักวิชาการจีนผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า การเปิดเสรีของเกาะไหหลำในครั้งนี้ถือเป็นศักราชใหม่แห่งการพัฒนาของจีน หากมองย้อนกลับไปจีนประสบความสำเร็จอย่างมากในเซินเจิ้นเพราะลงมือทำในสิ่งใหม่และพัฒนาอย่างไม่หยุดหย่อน แนวคิดเช่นเดียวกันกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งที่เกาะไหหลำ

ห้างปลอดภาษีที่เกาะไหหลำ ชาวจีนเดินซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยกันแน่นขนัด ที่มา Xinhua.com
ยุทธศาสตร์อีกอย่างที่สำคัญของเกาะไหหลำ คือมีที่ตั้งใกล้กับฮ่องกงและมาเก๊า หลายคนอาจจะคิดว่าเกาะไหหลำจะมาแทนที่ฮ่องกงหรือไม่ จริงๆแล้วจีนไม่ได้มองเช่นนั้น จีนมองว่าการพัฒนาของเกาะไหหลำจะมาเป็นตัวเสริมซึ่งกันและกันกับมาเก๊าและฮ่องกง เพราะโดยพื้นฐานอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของทั้งสามพื้นที่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว ผู้เขียนเห็นว่าในผู้นำจีนยุคใหม่นี้เน้นพัฒนา“กลุ่มเมือง”ซึ่งเราจะเห็นได้ทั่วไปในประเทศจีน การเชื่อมโยงเมืองต่างๆควบรวมและพัฒนาไปด้วยกัน เป้าหมายคือลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มศักยภาพในพื้นที่นั่นเอง

โดยเฉพาะเกาะไหหลำมีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวและบริการ การตั้งเกาะไหหลำเป็นเขตปลอดภาษีสินค้าที่ให้สิทธิพิเศษสูงสุดในจีนขณะนี้ อย่างเช่น คนจีนไปเกาะไหหลำท่องเที่ยวซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยในเกาะสามารถเข้าไปเลือกซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยและถือเข้าแผ่นดินใหญ่ได้สูงสุดที่ 1 แสนหยวนหรือเกือบ 5 แสนบาท จากช่วงก่อนให้โควต้าเพียงคนละ 3 หมื่นหยวนเท่านั้น ทำให้ช่วงนี้เกาะไหหลำกลายเป็นสวรรค์นักช็อปจีนไปอีกที่ โดยไม่ต้องเดินทางออกนอกประเทศให้หน่อย คนจีนที่ผู้เขียนรู้จักหลายคนมองว่าเกาะไหหลำจะพัฒนาไปได้อีกไกลด้วยการเอื้อประโยชน์ทางนโยบาย หลายคนเริ่มที่จะอยากจะไปจัดตั้งบริษัทการค้าหรือหาช่องทางการค้าอื่นๆที่เกาะไหหลำ ที่สำคัญคืออสังหาริมทรัพย์ การไหลเวียนของเงินทุนต่างชาติที่เกาะไหหลำจะเปิดเสรีอีกเช่นกันในอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น