บลจ.เกียรตินาคินภัทร เตรียมขายกองทุนเปิดเคเคพี EXPANDED TECH - HEDGED กองทุน Feeder Fund ที่เน้นลงทุนในกองทุนรวมหลักเพียงกองทุนเดียวโฟกัสกลุ่มเทคโนโลยี ตลอดจนบริการสื่อสาร และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยในประเทศแถบทวีปอเมริกาเหนือ หวังเพิ่มทางเลือกในการกระจายการลงทุน
นายยุทธพล ลาภละมูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด (บลจ.เกียรตินาคินภัทร) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 12-20 ตุลาคม 2563 บลจ.เกียรตินาคินภัทร จะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเคเคพี EXPANDED TECH - HEDGED (KKP EXPANDED TECH – HEDGED : KKP TECH-H) ซึ่งเป็นกองทุน Feeder Fund ที่เน้นลงทุนในกองทุนรวมหลักเพียงกองทุนเดียวคือ iShares Expanded Tech Sector ETF โดยกองทุนนี้จะลงทุนในหุ้นของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้นของบริษัทในกลุ่มบริการสื่อสาร (Communication Service) และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary) ในประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นแบบระยะยาว และต้องการกระจายการลงทุนในหุ้นที่อยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี สามารถรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในหุ้นของบริษัทในกลุ่มดังกล่าวในต่างประเทศได้
ทั้งนี้ กองทุน KKP TECH-H จะป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเกือบทั้งหมด คือไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนให้แก่ผู้ลงทุน
“ด้านมุมมองการลงทุน บลจ.เกียรตินาคินภัทร มองว่า การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นต่างประเทศในช่วงเดือนกันยายนนี้ เป็นจังหวะในการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ที่แม้จะปรับตัวขึ้นมากแล้วในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ผลประกอบการของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในไตรมาส 2 ที่ประกาศออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ประมาณการกำไรของกลุ่มเทคโนโลยีถูกปรับเพิ่มขึ้นและมีอัตราการเติบโตในปีนี้เป็นบวก สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรม นอกจากนี้ หากมองในมุมการลงทุนระยะยาว หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มบริการสื่อสารมีโอกาสเติบโตสูงในระยะยาว เนื่องจากเป็นหนึ่งใน Mega Trend ที่ขับเคลื่อน (Driver) ผลักดันการเติบโตและการพัฒนาเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันและอนาคต จากการเป็นส่วนประกอบหลักในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้เข้าถึงและบริหารจัดการข้อมูลจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สร้างรูปแบบธุรกิจและช่องทางการขายสินค้าและให้บริการแบบใหม่จากความฉลาดของบริการแบบดิจิทัลโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่ ช่วยเพิ่มศักยภาพการผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคในด้านความก้าวหน้าและความเร็วของเทคโนโลยีการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้ ทาง บลจ.เกียรตินาคินภัทร มองว่าการแบ่งส่วนเงินลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศในกลุ่มเทคโนโลยีจะเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนไทยได้มีส่วนร่วมกับการเติบโตตามแนวโน้มใหญ่ระยะยาวของโลก ที่อาจหาได้น้อยจากในประเทศ” นายยุทธพล กล่าว
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจสามารถขอรับหนังสือชี้ชวนและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร.0-2305-9559 หรือธนาคารเกียรตินาคินภัทรทุกสาขา หรือ KKP Contact Center 0-2165-5555 หรือ https://am.kkpfg.com หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง
ข้อมูลกองทุน PHATRA EXPANDED TECH:
เปิดเสนอขายตั้งแต่วันที่ 12-20 ต.ค.2563 เวลา 08.30-16.30 น.
มูลค่าขั้นต่ำในการซื้อ 1,000 บาท
ค่าธรรมเนียมการขาย/สับเปลี่ยนเข้า : ปัจจุบันยกเว้น
คำเตือน : การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
เนื่องจากกองทุนมีการลงทุนในต่างประเทศกองทุนอาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงในเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม รวมถึงความเสี่ยงที่เกิดจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องของประเทศที่กองทุนไปลงทุน ด้วยกองทุนจะทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเกือบทั้งหมด โดยไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ กองทุนจึงอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนในส่วนที่ไม่ได้ทำการป้องกันความเสี่ยงไว้ ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ นอกจากนี้ การทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าวอาจมีต้นทุน ซึ่งทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน กองทุนมีนโยบายการลงทุนเฉพาะเจาะจงในหมวดอุตสาหกรรมจึงมีความเสี่ยงและความผันผวนของราคาสูงกว่ากองทุนรวมทั่วไปที่มีการกระจายการลงทุนในหลายอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.ภัทร ได้ตามอัตราส่วนที่กำหนด โดย บลจ.ภัทร จะจัดระบบงานที่ป้องกันธุรกรรมที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์อันอาจเกิดจากนโยบายการลงทุนที่เปิดให้มีการลงทุนในกองทุนรวมภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทจัดการเดียวกัน