เอเจนซี/ซินหัว — เมื่อวันอาทิตย์ (20 ก.ย.) ผู้พิพากษาสหรัฐฯ มีคำสั่งชั่วคราว ระงับคำสั่งฝ่ายบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กรณีการแบนวีแชท (WeChat) แอปพลิเคชันรับส่งข้อความ โซเชียลมีเดีย และบริการชำระเงินผ่านโทรศัพท์สัญชาติจีน ซึ่งมีกำหนดบังคับใช้เมื่อคืนวันอาทิตย์ (20 ก.ย.)
ลอเรล บีเลอร์ ผู้พิพากษาศาลแขวงซานฟรานซิสโก ได้ออกคำสั่งชั่วคราวก่อนมีการพิพากษา (Preliminary injunction) ซึ่งระบุว่าคำสั่งแบนวีแชทนั้นอาจละเมิดสิทธิ์ของผู้ใช้ในสหรัฐฯ ตามบทบัญญัติเพิ่มเติมที่ 1 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกา ว่าด้วยการปกป้องสิทธิของผู้ใช้งาน
กลุ่มพันธมิตรผู้ใช้งานวีแชทในสหรัฐฯ (USWUA) และผู้ใช้แอปพลิเคชันอื่น โต้แย้งว่าวีแชทเป็นแอปฯ ที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้สำหรับผู้ใช้ในสหรัฐฯ โดยเฉพาะชุมชนที่พูดภาษาจีนและชาวอเมริกันเชื้อสายจีน
ทั้งนี้ ทรัมป์ออกคำสั่งฝ่ายบริหารห้ามบุคคลหรือบริษัทอเมริกันทำธุรกรรมกับวีแชท เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ซึ่งเดิมทีมีกำหนดบังคับใช้ช่วงดึกของวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา กลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นองค์การนอกภาครัฐ ตัดสินใจต่อสู้เพื่อสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของผู้ใช้วีแชททั้งหมดในประเทศ โดยได้ยื่นฟ้องคณะบริหารของทรัมป์กรณีการออกคำสั่งดังกล่าว ซึ่งเรื่องได้เข้าสู่กระบวนพิจารณาของศาลเมื่อวันที่ 17 ก.ย.
เมื่อวันศุกร์ (18 ก.ย.) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ประกาศห้ามทำธุรกรรมกับวีแชท “ส่งผลให้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ไม่สามารถดาวน์โหลดหรืออัปเดตวีแชท รวมถึงใช้แอปฯ ดังกล่าวเพื่อจ่ายหรือรับเงิน นอกจากนั้นการที่สหรัฐฯ ยกเลิกการจัดเก็บข้อมูลและการคัดลอก (Caching) เนื้อหา ทำให้แม้ทางเทคนิคผู้ใช้จะมีแอปฯ วีแชทอยู่ในมือ แต่พวกเขาก็อาจไม่สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้” ผู้พิพากษาบีเลอร์ระบุ
หลังการพิจารณาคดี 3 ครั้ง ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลาสามวันติดต่อกัน ผู้พิพากษาบีเลอร์ได้ตัดสินใจระงับคำสั่งแบนวีแชทของคณะบริหารทรัมป์ในที่สุด