xs
xsm
sm
md
lg

ติ๊กต็อกหวังดีล 3 ฝ่าย ‘ไบต์แดนซ์-ออราเคิล-วอลมาร์ต’ เคลียร์ข้อกังวลของสหรัฐฯ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


โลโก้ติ๊กต็อก (TikTok) ในคัลเวอร์ซิตี้ เทศมณฑลลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา วันที่ 21 ส.ค. 2020-แฟ้มภาพซินหัว
สำนักข่าวซินหัวรายงาน,20 ก.ย. — เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (19 ก.ย.) ติ๊กต็อก แพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เน้นสร้างและแบ่งปันคลิปวิดีโอแสดงความหวังว่าข้อตกลงของไบต์แดนซ์ บริษัทแม่ของจีน ที่ทำร่วมกับบริษัทออราเคิลและวอลมาร์ต จะ “แก้ไขข้อกังวลด้านความปลอดภัยของฝ่ายบริหารสหรัฐฯ รวมถึงคลี่คลายข้อถกเถียงเกี่ยวกับอนาคตของติ๊กต็อกในสหรัฐฯ ได้”

บริษัทติ๊กต็อกที่มีสำนักงานใหญ่ในลอสแองเจลิสออกแถลงการณ์เมื่อบ่ายวันเสาร์ (19 ก.ย.) ซึ่งทิ้งช่วงหลายชั่วโมงภายหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวว่าเขาได้อนุมัติข้อตกลงระหว่างทั้งสามฝ่ายแล้ว

ติ๊กต็อกเปิดเผยรายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับข้อตกลงสามฝ่ายที่เสนอให้กับผู้มีอำนาจเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (14 ก.ย.) และเพิ่งได้รับการอนุมัติจากทำเนียบขาว โดยกล่าวว่า ออราเคิลจะกลายเป็น “ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้” ส่วนวอลมาร์ตจะมีบทบาทในการเป็น “หุ้นส่วนทางการค้า”

วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่าทรัมป์ได้กำหนดระยะเวลาให้ติ๊กต็อกคลี่คลายข้อกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติจนถึงวันที่ 12 พ.ย. “ถ้าพวกเขาทำได้ ข้อห้ามในคำสั่งนี้อาจถูกยกเลิก” รอสส์กล่าว

ทั้งนี้ ตัวแทนติ๊กต็อกกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ว่า (18 ก.ย.) ทางบริษัทไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ และรู้สึกผิดหวังที่กระทรวงจะบล็อกการดาวน์โหลดและอัปเดตแอปพลิเคชันตั้งแต่วันอาทิตย์(20 ก.ย.)เป็นต้นไป

เมื่อวันเสาร์ (19 ก.ย.) กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกมาแสดงการคัดค้านกับการที่สหรัฐฯ จะบล็อกการดาวน์โหลดแอปวีแชทและติ๊กต็อก พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดการกลั่นแกล้งดังกล่าวโดยทันทีและปกป้องกฎระเบียบระหว่างประเทศ

กระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวในแถลงการณ์ว่าสหรัฐฯ ได้ใช้อำนาจรัฐกดดันบริษัททั้งสองแห่งครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยเหตุผลที่ไม่มีหลักฐานรับรอง ซึ่งทำให้กิจกรรมทางธุรกิจของพวกเขาหยุดชะงักอย่างร้ายแรง ทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนระหว่างประเทศในสภาพแวดล้อมการลงทุนของสหรัฐฯ และส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจโลกและการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินโดยทั่วไป

แถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเกิดขึ้นหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ออกคำสั่งผู้บริหารเมื่อวันที่ 6 ส.ค. กำหนดห้ามพลเมืองสหรัฐฯ ทำธุรกรรมใดๆ ร่วมกับบริษัทไบต์แดนซ์ โดยมีผลในอีก 45 วันนับจากออกคำสั่ง อีกทั้งยังมีคำสั่งคล้ายคลึงกันมุ่งเป้าไปที่วีแชท ซึ่งบริษัทเทนเซนต์ของจีนเป็นเจ้าของด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น