สื่อในฮ่องกง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงาน(21 เม.ย.) นายกรัฐมนตรีหญิงแห่งเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิลออกมาร่วมขบวนเรียกร้องให้จีนเปิดเผยข้อมูลมากขึ้นกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ตอกย้ำถึงความไม่สบายใจของผู้นำยุโรปที่สนิทกับจีนและไปเยือนจีนบ่อยที่สุดท่านนี้เกี่ยวกับความโปร่งใสของจีนเรื่องเปิดเผยข้อมูลต้นตอโควิด-19
ขณะนี้หลายชาติกำลังกดดันจีนเรื่องการเปิดเผยข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับต้นตอการแพร่ระบาดโควิด-19 ด้านจีนยืนกรานไม่ยอมให้สหรัฐฯส่งผู้แทนมาเยือนห้องทดลองไวรัสในอู่ฮั่น
สองบิ๊กชาติยุโรป ฝรั่งเศสและเยอรมนี เรียกร้องให้จีนเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มากขึ้นแต่ก็ไม่ได้เออออห่อหมกเห็นตามผู้นำมะกันที่ออกมาชี้ถึงความเป็นไปได้ระหว่างไวรัสฯและห้องทดลองไวรัสในอู่ฮั่น ด้านจีนปฏิเสธข้อกล่าวหาฯของผู้นำสหรัฐฯโดนัลด์ ทรัมป์
ผู้นำหญิงเหล็กเมืองเบียร์ แมร์เคิล พูดในวันจันทร์(20 เม.ย.) กล่าวความเชื่อของตนว่า “ยิ่งจีนมีความโปร่งใสเกี่ยวกับต้นตอไวรัสมากเท่าไหร่ ทุกคนในโลกก็จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับไวรัสตัวนี้กันได้ดีขึ้น”
นอกจากนี้ นายกฯแมร์เคิลตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามกรณีรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาการแห่งเยอรมนี นาย เกิร์ด มูลเลอร์ (Gerd Mueller) กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า
“จีนต้องเปิดเผยอย่างหมดเปลือกเกี่ยวกับวิกฤตที่โลกกำลังเผชิญอยู่โดยเฉพาะต้นตอไวรัส”
ส่วนข้อกล่าวหาของสหรัฐฯที่หาว่าจีนปิดบังข้อมูลต้นตอของไวรัส นาย มูลเลอร์ กล่าวว่า “จีนควรเปิดตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยแลกเปลี่ยนกับนานาชาติเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสในอู่ฮั่นอย่างรวดเร็ว”
การออกโรงพูดถึงประเด็นการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสของผู้นำเยอรมนีครั้งนี้เกิดท่ามกลางศึกวิวาทะระหว่างสถานทูตจีนในกรุงเบอร์ลินกับหนังสือพิมพ์รายใหญ่สุดของเยอรมนีคือ Bild ที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับระบบการเมืองจีน ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่ายสื่อที่โฟกัสเรื่องภายในประเทศรายนี้แทบไม่เคยทำมาก่อน
ในสัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอมมานูเอล มาครง แสดงทีท่าสงสัยเรื่องความโปร่งใสของจีน ในบริบทความแตกต่างระหว่างโลกประชาธิปไตยตะวันตกและระบอบเผด็จการเบ็ดเสร็จจีน
ในวันอังคาร(21 เม.ย.) โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน นาย เกิ่ง ส่วง แถลงว่าจีนกำลังขยายความร่วมมือกับนานาชาติด้านการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเปิดเผย โปร่งใส และรับผิดชอบ
“จีนและเยอรมนีมีการแลกเปลี่ยนและพูดคุยกันอย่างใกล้ชิดมาตลอดทั้งด้านแบ่งปันประสบการณ์การป้องกันและควบคุมโรคระบาด ส่วนเรื่องต้นตอไวรัสนั้น จีนขอยืนยันอีกครั้งว่าเป็นประเด็นวิทยาสตร์ที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์เป็นผู้รับผิดชอบศึกษา” โฆษก เกิ่ง กล่าว พร้อมย้ำว่ารัฐบาลจีนไม่ได้ปิดบังข้อมูลหรือกั๊กการรายงานข้อมูลสู่สาธารณะ
ด้านกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ เช่น ศาสตราจารย์ ติง ชุน แห่งภาควิชายุโรปศึกษา มหาวิทยาลัยฟู่ตัน นครเซี่ยงไฮ้ ชี้ว่าจีนยืนยันต้นตอไวรัสเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ไม่ใช่การเมือง
“องค์การอนามัยโลกได้เข้าไปไต่สวนในอู่ฮั่นแล้วโดยมีผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯร่วมทีมด้วย เราควรหยุดทำประเด็นนี้ให้เป็นเรื่องการเมืองได้แล้ว” ติง กล่าว
หยวน จื้อหมิง หัวหน้าคณะกรรมาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำสถาบันไวรัสวิทยาเมืองอู่ฮั่น (Wuhan Institute of Virology) กล่าวกับสื่อของรัฐจีนว่า “ไม่มีทางอย่างแน่นอนที่ไวรัสแพร่จากสถาบันของเรา” พร้อมกับปฏิเสธเรื่องกระแสสงสัยว่า “คนไข้หมายเลขศูนย์” ที่ติดเชื้อโควิด-19 เป็นคนในสถาบัน
คลิป: จีนโต้สหรัฐอเมริกา “ศัตรูคือไวรัส ไม่ใช่จีน” : การแถลงของโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน นาย เกิ่ง ส่วง ปฏิเสธข้อกล่าวหาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ชี้ถึงความเป็นไปได้ระหว่างไวรัสฯและห้องทดลองไวรัสในอู่ฮั่น และหาว่าจีนกั๊กข้อมูลฯ พูดความจริงไม่หมดเปลือก...โฆษกจีนย้ำภารกิจสำคัญเร่งด่วนที่สุดขณะนี้คือ การป้องกันละควบคุมโรคระบาด และร่วมมือกับนานาชาติมากกว่าที่จะมานั่งโจมตีจีน และหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ....
