ซินหวา/เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์--เครื่องบินขับไล่เทคโนโลยีหลบหลีกเรดาร์ หรือ สเตลท์ J-20 ปฏิบัติการซ้อมรบในทะเลเป็นครั้งแรก โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเตรียมความพร้อมด้านการต่อสู้ของทัพอากาศจีน ท่ามกลางกระแสความขัดแย้งในช่องแคบไต้หวัน และการแข่งขันอาวุธในภูมิภาค
ทั้งนี้ เครื่องบินขับไล่สเตลท์ J-20 ซึ่งพัฒนาโดยจีน ได้เข้าประจำการหน่วยสู้รบเมื่อสามเดือนที่แล้ว
เมื่อวันพุธ(9 พ.ค.)ที่ผ่านมา กองทัพอากาศแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) ได้ประกาศการซ้อมรบของเครื่องบินขับไล่รุ่นล่องหน J-20 โดยมิได้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาและสถานที่
พลเอก อาวุโส เสิ่น จิ้นเคอ เปิดเผยผ่านไมโครบล็อกของทัพฟ้ามังกร ว่าการซ้อมรบในทะเลครั้งนี้ ได้จำลอง “สถานการณ์สู้รบจริง” เพื่อยกระดับความสามารถการต่อสู้ของกองทัพอากาศ เพื่อปกป้องอธิปไตยดินแดน ความมั่นคง และบูรณาภาพดินแดน
นักวิเคราะห์ทางการทหารของหน่วยงานในปักกิ่ง โจว เฉินหมิง ชี้ว่าการฝึกซ้อมรบทางทะเล เป็นการส่งสารเตือนไต้หวัน นับเป็นความเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่อง หลังจากที่เมื่อไม่นานมานี้ จีนได้ซ้อมปฏิบัติการเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ใกล้เกาะไต้หวัน และการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงในช่องแคบไต้หวันเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ปักกิ่งถือไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของตน ที่จะต้องกลับมารวบดินแดน และจีนอาจใช้กองกำลังเข้ายึดครองดินแดนหากจำเป็น ขณะนี้ความสัมพันธ์ระหว่างไทเปและปักกิ่ง ย่ำแย่ลงตั้งแต่ประธานาธิบดีหญิงของไต้หวัน นาง ไช่ อิงเหวิน แห่งพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า หรือดีพีพี ซึ่งมีความโน้มเอียงสนับสนุนอิสรภาพดินแดน ได้ขึ้นสู่อำนาจเมื่อปี 2016
หลี่ เจี๋ย นักวิเคราะห์ทางทหารในปักกิ่ง กล่าวว่า สำหรับ J-20 รุ่น โฮมเมดของจีน เป็นเครื่องบินขับไล่เทคโนโลยีสเตลท์รุ่นที่ 5 ปฏิบัติการด้วยความเร็วเหนือเสียงและหลบหลีกได้เหนือชั้นกว่าฝูงเครื่องบินขับไล่รุ่นที่ 3 อย่าง F-16 และ Mirage 2000 ที่กองทัพไต้หวันมีอยู่ในมือ แต่คู่ต่อสู้ที่แท้จริงของ J-20 คือ F-22 ของสหรัฐฯ และ F-35A ในญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
สหรัฐฯได้อัดฉีดเพิ่มเครื่องบินขับไล่ในฐานทัพของตนในญี่ปุ่นเมื่อปลายปีที่แล้ว