เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - วานนี้ (12 มิ.ย.) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีนและสิงคโปร์ได้พบปะพูดคุยและเห็นพ้องทำงานร่วมกันตามแผน “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ของจีน ส่งสัญญาณการปรับปรุงสายสัมพันธ์ที่เคยมึนตึงเพราะปัญหาทะเลจีนใต้
หลังจากการประชุมร่วมกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีฯ จีน ณ กรุงปักกิ่ง เป็นเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง นายวิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีฯ ของสิงคโปร์ออกมากล่าวว่า สิงคโปร์และจีนจะเสริมสร้างความร่วมมือตามแผนการขยับขยายการค้าระดับโลก “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Initiative) โดยเฉพาะการสนับสนุนเส้นทางคมนาคมขนส่งจากนครฉงชิ่งทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คำแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีการจับตามองกรณีนายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ ไม่ได้ปรากฏตัวในการประชุมสุดยอดหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ซึ่งจัดขึ้นที่นครหลวงปักกิ่งเมื่อเดือนก่อน โดยหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นผลจากความไม่พอใจของจีนต่อจุดยืนของสิงคโปร์ในประเด็นข้อพิพาททะเลจีนใต้
นอกจากนั้นในเดือนพ.ย. ปีก่อน ฮ่องกงได้จับยึดรถถังเก้าคันบนเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่มีต้นทางจากสิงคโปร์และปลายทางที่ไต้หวัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการประท้วงจากปักกิ่งกรณีสายสัมพันธ์ทางการทหารอันยาวนานระหว่างสิงคโปร์และไต้หวัน
อย่างไรก็ดี ในการเยือนจีนครั้งที่สองและการพบกับหวังเป็นครั้งที่สี่ของปี นายบาลากริชนันกล่าวว่า สิงคโปร์จะดำเนินบทบาทผู้สนับสนุนทางการเงินแก่แผนการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ขณะเดียวกันทั้งสองชาติจะร่วมมือกันในโครงการสาธารณูปโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ และแอฟริกา
รัฐมนตรีฯ สิงคโปร์ยังเรียกร้องให้มีการเจรจาเกี่ยวกับความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่ปักกิ่งเป็นผู้หนุนหลัง แม้ก่อนหน้านี้สิงคโปร์จะเอนเอียงหาข้อตกลงคู่แข่งอย่างความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) มากกว่า
ด้านรัฐมนตรีฯ หวังกล่าวว่า “จีนให้ความสำคัญกับอิทธิพลอันมีลักษณะเฉพาะของสิงคโปร์ในกิจการระดับภูมิภาค” ซึ่งสอดคล้องกับบทบาทกาวใจเชื่อมจีนกับอาเซียนของสิงคโปร์
ทั้งนี้ ในช่วงต้นเดือนก่อนจีนและอาเซียนได้เห็นตรงกันในกรอบการทำงานว่าด้วยระเบียบปฏิบัติกรณีข้อพิพาททะเลจีนใต้ โดยหวังกล่าวว่า เพื่อเดินหน้าการเจรจาระเบียบฯ นั้น จีนและอาเซียนควรเสริมสร้างความไว้วางใจต่อกัน เพิ่มความร่วมมือ ตลอดจนขจัดการแทรกแซงทั้งจากภายในและภายนอกภูมิภาค
