เกมจับผิดภาพเครื่องบินรบจีนลองภูมิรมต.กลาโหมไต้หวันจนหน้าแตกยับเยิน

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - เจ้ากระทรวงกลาโหมไต้หวันถึงกับเหวอ เจอนักกฎหมายลองภูมิกลางสภานิติบัญญัติ ให้เล่นเกมจับผิดภาพเครื่องบินรบรุ่นใหม่ล่าสุดที่ปักกิ่งซุ่มพัฒนาขึ้นมา

ไชน่า ไทม์ส หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นไต้หวัน ระบุว่า ในระหว่างการประชุมสภานิติบัญญัติ เมื่อต้นเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา นายไช่ ซื่ออิ้ง นักกฎหมายจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ได้แสดงภาพเครื่องบินรบล่องหนสองลำของปักกิ่ง และซักถามความแตกต่างจากนายเฝิง ซื่อควน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม และนายฟั่น ต้าเหวย เสนาธิการกองทัพอากาศไต้หวัน

ภาพหนึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ล่องหนที่มีส่วนปีกสองคู่ ส่วนอีกลำเป็นเครื่องบินขับไล่ล่องหนที่มีส่วนปีกขนาดใหญ่คู่เดียวตรงกลางลำ โดยเฝิงและฟั่นตอบว่าเครื่องบินทั้งสองลำคือ เครื่องบินขับไล่ล่องหน รุ่นเจ-20 (J-20) ซึ่งเพิ่งเปิดตัวสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกในนิทรรศการการบินนานาชาติครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ณ เมืองจูไห่ มณฑลกวางตุ้ง เมื่อสัปดาห์ก่อน

อย่างไรก็ดี คำเฉลยจากนักกฎหมายไช่ได้ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงทางการทหารทั้งสองต้องใบ้กินกลางวงประชุม เพราะในความเป็นจริง เครื่องบินที่มีส่วนปีกสองคู่คือ รุ่นเจ-20 ส่วนเครื่องบินที่มีส่วนปีกคู่ใหญ่ตรงกลางคือ รุ่นเจ-31 (J-31)

นายไช่เดินหมากตัวต่อไปด้วยคำถามที่ว่า “เครื่องบินรบของไต้หวันในเวลานี้ มีความสามารถพอจะต้านทานเครื่องบินขับไล่ล่องหน เจ-20 ของปักกิ่งได้หรือไม่”

“หากเปรียบเทียบกับเจ-20 เราจะเชื่อมั่นศักยภาพของเครื่องบินรบ เอฟ-16เอส ที่เพิ่งอัพเกรดมาใหม่ได้หรือเปล่า” ไช่ถาม “คุณมั่นใจใช่ไหม หลังจากเราทุ่มเงินไปกว่า 110,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวันกับเครื่องบินรบเหล่านี้”

ด้านรัฐมนตรีฯ เฝิง ตอบกลับว่า เขามั่นใจอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ไต้หวันวางแผนซื้อเครื่องบินขับไล่ รุ่นเอฟ-16วี (F-16v) จากสหรัฐอเมริกาภายในปี 2565 เพื่อเสริมเขี้ยวเล็บกองบินเอฟ-16 ที่มีอยู่

สถานีโทรทัศน์ซันหลิน อี-เทเลวิชั่น ได้รายงานข่าวตำหนิเฝิงอย่างรุนแรงในกรณีดังกล่าว ระบุว่าเขา “โง่เง่าเกินไป” ที่จะแยกแยะความแตกต่างของเครื่องบินรบสองลำ และสร้าง “ความอับอายขายขี้หน้า” เป็นอย่างมาก

ไชน่า ไทม์ส รายงานว่า เฝิงซึ่งเป็นอดีตทูตทหารอากาศถูกสั่งระงับการเป็นสมาชิกพรรคก๊กมินตั๋งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากไม่ได้ชี้แจงพรรคฯ ว่าเขาตอบรับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารงานของคู่แข่งอย่างพรรคดีพีพี ซึ่งสนับสนุนให้ไต้หวันแยกตัวเป็นอิสระจากจีนแผ่นดินใหญ่

นอกจากนั้นเฝิงยังตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะออกมาประกาศว่าไม่ส่งเสริมนโยบายแยกตัวฯ ดังกล่าว หลังเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นานในเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา