พูดถึงเรื่องมองโกลก็สมควรต้องเขียนถึงบุคคลที่มีนามข้างต้น เพราะวันนี้ตรงกับวันเกิดของเขาพอดี( ๒๓ กันยายน ๑๒๑๕- ๑๙ กุมภาพันธ์ ๑๒๙๔)
กุบไลข่าน เป็นหลานชายของจอมจักรพรรดิเจ็งกิสข่าน-เฉิงจี๋ซือหาน成吉思汗Chéng jí si hán = Genghis Khan ( ๓๑ พฤษภาคม ๑๑๖๒- ๑๘ สิงหาคม ๑๒๒๗)
เจ็งกิสข่าน หรือเตมูจิน-เถี่ยมู่เจิน铁木真Tiě mù zhen เริ่มสร้างตนเองจากชนเผ่าเร่ร่อนในทะเลทรายโดยเป็นเด็กกำพร้าที่บิดาถูกลอบสังหาร
เตมูจินถูกศัตรูจับไปเป็นเชลยและถูกทรมานสุดแสนสาหัสด้วยวิธีการต่างๆ นานาแต่เขาก็รอดชีวิตมาได้และสามารถรวบรวมสมัครพรรคพวกผนึกกำลังเข้มแข็งขึ้นจนตั้งเป็นชนเผ่ามองโกลและขยายอาณาจักรกว้างใหญ่ไพศาลมากยิ่งขึ้นด้วยวิธีดุดันเหี้ยมโหดตามแบบฉบับของนักรบที่นิยมความรุนแรง
หลังจากที่เจ็งกิสข่านจบชีวิตลงในทะเลทรายเมื่ออายุได้ประมาณ ๖๕ ปี โดยทิ้งภารกิจยิ่งใหญ่ให้ลูกหลานรับภาระต่อไปที่จะสร้างอาณาจักรให้ใหญ่โตที่สุดเท่าที่กองทัพม้าจะแล่นตะบึงไปถึง
ชาวมองโกลทำสถิติสร้างมหาราชอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ไพศาลที่สุดบนโลกมนุษย์โดยมีดินแดนในครอบครองประมาณ ๓๐ ล้าน (สามสิบล้าน)ตารางกิโลเมตร ซึ่งยังไม่มีชนเผ่าใดๆ ทำได้เทียบเท่า
เจ็งกิสข่านเสียชีวิตก่อนที่จะยึดแผ่นดินจีนตามที่หมายมั่นไว้แต่หลานชายของเขากุบไลข่านทำได้สำเร็จและนำชาวมองโกลเข้ามาปกครองหลังกำแพงเมืองจีนได้ยาวนานเกือบหนึ่งศตวรรษเพราะเขาเชื่อฟังที่ปรึกษาซึ่งให้ข้อคิดว่า
“ยึดดินแดนได้บนหลังม้าแต่มิอาจปกครองผู้คนได้บนหลังม้า”
กุบไลข่านดำเนินนโยบายการปกครองโดยใช้วิธีอะลุ้มอล่วยให้ กับชาวฮั่น汉Hànซึ่งเป็นเจ้าของแผ่นดินจีนตามสมควร
เมื่อสิ้นรัชกาลของกุบไลข่านซึ่งยาวนานประมาณสามสิบห้าปี ฮ่องเต้ชาวมองโกลองค์ต่อๆ มาเริ่มหลงใหลกับอำนาจเผด็จการโดยปกครองแบบกดขี่ขูดรีดด้วยวิธีการโหดเหี้ยมสารพัด
ที่ใดมีการกดขี่ ที่นั่นย่อมมีการต่อต้าน
นี่คือสัจธรรมที่เป็นจริงแท้ในทุกดินแดนทั่วโลก เพราะมนุษย์ทุกชาติทุกภาษาไม่ว่าจะเกิดอยู่ที่ใดก็ตาม ถ้าหากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ปกครองก็จะเกิดการต่อต้านเริ่มจากอารยะขัดขืนทีละนิดทีละหน่อยแล้วบานปลายกลายเป็นการต่อสู้ด้วยสารพัดวิธี
การที่มีผู้คนใช้อาวุธห้ำหั่นกันไปทั่วโลก โปรดลองพินิจพิจารณาดูให้ดีมีที่มาจากการที่มีชาติอภิมหาอำนาจที่ชอบอ้างตนเป็นนักบุญแต่แข่งกันผลิตอาวุธสารพัดออกมาให้ฆ่ากันนั่นเอง เวรกรรมแท้ๆ
กุบไลข่าน เป็นหลานชายของจอมจักรพรรดิเจ็งกิสข่าน-เฉิงจี๋ซือหาน成吉思汗Chéng jí si hán = Genghis Khan ( ๓๑ พฤษภาคม ๑๑๖๒- ๑๘ สิงหาคม ๑๒๒๗)
เจ็งกิสข่าน หรือเตมูจิน-เถี่ยมู่เจิน铁木真Tiě mù zhen เริ่มสร้างตนเองจากชนเผ่าเร่ร่อนในทะเลทรายโดยเป็นเด็กกำพร้าที่บิดาถูกลอบสังหาร
เตมูจินถูกศัตรูจับไปเป็นเชลยและถูกทรมานสุดแสนสาหัสด้วยวิธีการต่างๆ นานาแต่เขาก็รอดชีวิตมาได้และสามารถรวบรวมสมัครพรรคพวกผนึกกำลังเข้มแข็งขึ้นจนตั้งเป็นชนเผ่ามองโกลและขยายอาณาจักรกว้างใหญ่ไพศาลมากยิ่งขึ้นด้วยวิธีดุดันเหี้ยมโหดตามแบบฉบับของนักรบที่นิยมความรุนแรง
หลังจากที่เจ็งกิสข่านจบชีวิตลงในทะเลทรายเมื่ออายุได้ประมาณ ๖๕ ปี โดยทิ้งภารกิจยิ่งใหญ่ให้ลูกหลานรับภาระต่อไปที่จะสร้างอาณาจักรให้ใหญ่โตที่สุดเท่าที่กองทัพม้าจะแล่นตะบึงไปถึง
ชาวมองโกลทำสถิติสร้างมหาราชอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ไพศาลที่สุดบนโลกมนุษย์โดยมีดินแดนในครอบครองประมาณ ๓๐ ล้าน (สามสิบล้าน)ตารางกิโลเมตร ซึ่งยังไม่มีชนเผ่าใดๆ ทำได้เทียบเท่า
เจ็งกิสข่านเสียชีวิตก่อนที่จะยึดแผ่นดินจีนตามที่หมายมั่นไว้แต่หลานชายของเขากุบไลข่านทำได้สำเร็จและนำชาวมองโกลเข้ามาปกครองหลังกำแพงเมืองจีนได้ยาวนานเกือบหนึ่งศตวรรษเพราะเขาเชื่อฟังที่ปรึกษาซึ่งให้ข้อคิดว่า
“ยึดดินแดนได้บนหลังม้าแต่มิอาจปกครองผู้คนได้บนหลังม้า”
กุบไลข่านดำเนินนโยบายการปกครองโดยใช้วิธีอะลุ้มอล่วยให้ กับชาวฮั่น汉Hànซึ่งเป็นเจ้าของแผ่นดินจีนตามสมควร
เมื่อสิ้นรัชกาลของกุบไลข่านซึ่งยาวนานประมาณสามสิบห้าปี ฮ่องเต้ชาวมองโกลองค์ต่อๆ มาเริ่มหลงใหลกับอำนาจเผด็จการโดยปกครองแบบกดขี่ขูดรีดด้วยวิธีการโหดเหี้ยมสารพัด
ที่ใดมีการกดขี่ ที่นั่นย่อมมีการต่อต้าน
นี่คือสัจธรรมที่เป็นจริงแท้ในทุกดินแดนทั่วโลก เพราะมนุษย์ทุกชาติทุกภาษาไม่ว่าจะเกิดอยู่ที่ใดก็ตาม ถ้าหากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ปกครองก็จะเกิดการต่อต้านเริ่มจากอารยะขัดขืนทีละนิดทีละหน่อยแล้วบานปลายกลายเป็นการต่อสู้ด้วยสารพัดวิธี
การที่มีผู้คนใช้อาวุธห้ำหั่นกันไปทั่วโลก โปรดลองพินิจพิจารณาดูให้ดีมีที่มาจากการที่มีชาติอภิมหาอำนาจที่ชอบอ้างตนเป็นนักบุญแต่แข่งกันผลิตอาวุธสารพัดออกมาให้ฆ่ากันนั่นเอง เวรกรรมแท้ๆ