ยกแรกรัฐบาลรุ่นเก๋าผู้นำหญิงไต้หวัน เจอจีนสวนหมัดหนัก อุปสรรครุมเร้า

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - รัฐบาลไต้หวันชุดใหม่ภายใต้การนำของนางสาว ไช่ อิงเหวิน เผชิญปัญหาและอุปสรรครอบด้าน นับตั้งแต่ประธานาธิบดีหญิงคนแรกแห่งเกาะมังกรน้อย จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า หรือ ดีพีพี ซึ่งมีนโยบายเชิดชูเอกราชไต้หวัน ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 พ.ค. พ.ศ. 2559

นอกจากนั้น คณะรัฐมนตรี ที่ได้รับการแต่งตั้งก็ไม่เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างที่ผู้นำหญิงปรารถนา  และยังพายเรือกันไปคนละทิศทาง ตั้งแต่เริ่มออกจากท่าอย่างแทบไม่น่าเชื่อ

เริ่มกันที่ด่านอรหันต์แรกยากจะฝ่า คือพญามังกร ซึ่งถือว่าเป็นไต้หวันเป็นเพียงมณฑลหนึ่งของตน ตบหน้าฉาดใหญ่ ต้อนรับการเข้าทำงานของรัฐบาลไทเปเหมือนเป็นเมียน้อย โดยบีบให้มีฐานะในสมัชชาสาธารณสุขโลก ( ดับเบิล ยูเอช เอ) แค่ผู้สังเกตการณ์ กดหัวให้ต้องยอมรับ “หลักการจีนเดียว” อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงเมื่อปลายเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา

จากนั้น อีกไม่กี่วัน พรรคก๊กมินตั๋ง หรือพรรคชาตินิยม ซึ่งเคยผูกขาดการปกครองไต้หวันมานาน 8 ปีสมัยประธานาธิบดี หม่า อิงจิ่ว แต่ชาวมังกรน้อยมองว่า เอาใจพญามังกรมากเกินไป จึงจับให้มาเป็นฝ่ายค้าน ก็ได้ยึดโพเดี่ยมในรัฐสภาประท้วงรัฐบาล โดยกล่าวหาว่า กำลังนำผลประโยชน์ของชาติไปขายให้แก่สหรัฐฯ

เรื่องเลวร้ายยังไม่หมด เพราะเมื่อต้นเดือนนี้เอง เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันท่าอากาศยานนานาชาติของไต้หวัน ซึ่งเป็นประตูเปิดสู่โลก ทำให้เที่ยวบินล่าช้ากว่า 200 เที่ยว ผู้โดยสารติดค้าง 30,000 คน และไฟฟ้าดับ

บรรดานักวิเคราะห์ระบุว่า นอกจากแรงกดดันจากปักกิ่งและพรรคฝ่ายแค้นแล้ว ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภาอย่างถล่มทลายเมื่อเดือนม.ค. ที่ผ่านมา ยังกลายเป็นโซ่เกียรติยศ ที่หนักอึ้ง เพราะประชาชนคาดหวังว่า รัฐบาลชุดใหม่จะสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ที่ตกต่ำได้

ประธานาธิบดีไช่เคยตั้งเป้าหมายว่า จะมีทีมงาน ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่และมีความสามารถ แต่สุดท้ายกลับเป็นตรงกันข้าม หลังจากบุคคลเหล่านั้นไม่สนใจตำแหน่งในรัฐบาล

คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี หลิน เฉวียน อดีตรัฐมนตรีคลัง วัย 64 ปี เมื่อนับอายุรวมกันแล้ว แก่กว่ารัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรี หลิว เจ้าเซวียน 3 ปี โดยรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีหลิว ซึ่งอดีตประธานาธิบดีหม่าแต่งตั้ง เมื่อขึ้นดำรงตำแหน่งในปี พ.ศ. 2551 ได้รับฉายาว่า “ ครม. หนึ่งพันปี”

นายกรัฐมนตรีหลินได้แต่งตั้งนาย หลี่ ซือกวง นักวิชาการด้านวิศวกรรมโยธา วัย 57 ปี เป็นรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ สร้างความงุนงงแก่สาธารณชน แม้แต่นายหลี่เองถึงกับบอกว่า เป็น “บิ๊ก เซอร์ไพรส์”

ด้านนายหลี่ การให้สัมภาษณ์ของเขาที่ว่า จะเปิดการเจรจากันใหม่ หากข้อตกลง 23 ฉบับ ที่จีนและไต้หวันลงนามร่วมกันในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ไม่เป็นที่ยอมรับ ถูกพรรคก๊กมินตั๋งจวกทันทีว่า ผิดสัญญา ที่ประธานาธิบดีไช่ ให้ไว้ระหว่างหาเสียงว่า จะยึดมั่นข้อตกลง ที่ทำไว้แล้ว

นาย หวัง คุนอี้ อาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและยุทธศาสตร์ศึกษา ประจำมหาวิทยาลัยตั้นเจียง ชี้ว่า คนเหล่านี้ให้อาวุธที่เหมาะมือแก่พรรคก๊กมินตั๋งในการโจมตีทีมงานของประธานาธิบดีไช่

รัฐบาลปักกิ่งได้ตัดช่องทางการติดต่อสื่อสาร ข้ามช่องแคบ ที่เคยทำร่วมกับรัฐบาลในสมัยประธานาธิบดีหม่า หลังจากประธานาธิบดีไช่ไม่แสดงการยอมรับฉันทามติปีค.ศ. 1992 ในการกล่าวสุนทรพจน์เข้ารับตำแหน่ง ซือ เจิ้งเฟิง อาจารย์ด้านชนพื้นเมืองศึกษาของมหาวิทยาลัยตงหวา นไต้หวันมองว่า นี่เองคือสาเหตุที่ทำให้ประธานาธิบดีไช่เลือกแต่งตั้งตั้งเจ้าหน้าที่ที่เคยเกี่ยวข้องกับพรรคก๊กมินตั๋งมาคุมกระทรวงการต่างประเทศ กลาโหม และกระทรวงกิจการแผ่นดินใหญ่

ปักกิ่งยืนยันว่า จะมีการเจรจากันต่อไปได้ก็ต่อเมื่อไต้หวันยอมรับฉันทามติปีค.ศ. 1992 ที่เห็นพ้องต้องกันว่า มีเพียงจีนเดียว แม้แต่ละฝ่ายจะตีความหมายว่าจีนเดียวนั้นคือใครแตกต่างกันก็ตามที

อย่างไรก็ตาม นาย เดวิด หลี่ รัฐมนตรีต่างประเทศก็เสี่ยงยั่วโมโหจีน เมื่อกล่าวว่า เป้าหมายใหญ่ของกระทรวงคือการผลักดัน เพื่อให้ไต้หวันมีส่วนร่วมในกิจการของสหประชาชาติมากขึ้น

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า อดีตนักการทูต ผู้ช่ำชอง วัย 66 ปีผู้นี้ได้รับการแต่งตั้ง เพราะคุ้นเคยงานด้านสหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยให้ประธานาธิบดีไช่กระชับความร่วมมือกับสหรัฐฯ เพื่อต่อกรจีน

นายลีเป็นผู้เตรียมการให้ประธานาธิบดีไช่เยือนปานามาและปารากวัย สองชาติพันธมิตรไต้หวันในภูมิภาคอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ในการเยือนต่างประเทศครั้งแรกอย่างเป็นทางการ
นอกจากนั้น เขายังช่วยชี้แจงกับสหรัฐฯ ว่า เป็นการใช้คำพูดผิดพลาด เมื่อนายเฝิง ซือควน รัฐมนตรีกลาโหม วัย 70 ปี ผลั้งปากในการประชุมรัฐสภาว่า กระทรวงกลาโหมจะขนส่งกระสุนสำหรับปืนขนาด 40 มม. จำนวน 40,000 นัดไปยังเกาะไท่ผิงของไต้หวันในทะเลจีนใต้ช่วงปลายเดือนมิ.ย.-ต้นเดือนก.ค. ซึ่งทำให้สหรัฐฯ กังวล เนื่องจากจะยิ่งเติมเชื้อไฟความตึงเครียดในทะเล ซึ่งมีข้อพาทระหว่างจีนกับหลายชาติ รวมทั้งไต้หวัน

ส่วนตำแหน่งสำคัญสุดท้ายคือประธานสภากิจการกิจการแผ่นดินใหญ่ นักวิเคราะห์ระบุว่า ประธานาธิบดีไช่เลือก แคทเธอริน จาง ( จาง เสี่ยวเย่ว์)  เพราะหวังใช้ความสัมพันธ์ ที่จางมีกับพรรคก๊กมินตั๋ง รับรองกับจีนว่า ผู้นำไต้หวันยังคงยึดมั่นการดำเนินความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบกับจีนอยู่ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ปักกิ่งไม่น่าจะเออออไปด้วย ขณะที่ฉาง นักการทูตผู้เปี่ยมประสบการณ์ วัย 63 ปี เอง ได้ยอมรับต่อสภาเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ว่า เธอยังไม่มีการติดต่อกับนายจาง จื้อจวิน หัวหน้าสำนักงานกิจการไต้หวันของจีนเลย นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง