เอเจนซี - ลูกชายคุกเข่าขอขมาพ่อแม่กลางสถานีรถไฟ เพราะไม่ได้กลับบ้านช่วงตรุษจีนนานหลายปี
สื่อออนไลน์จีนเผย (11 ก.พ.) ภาพสุดสะเทือนใจ ขณะนายจัง จินลี่ คุกเข่าโค้งคำนับพ่อและแม่วัยชราของตัวเอง เพื่อขอโทษที่เขาไม่เคยกลับมาเยี่ยมเยือนช่วงเทศกาลตรุษจีนติดต่อกันกว่า 4 ปี กลางสถานีรถไฟนครจือปั๋ว มณฑลซันตง เมื่อคืนวันพุธที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา
บุพการีของนายจังมีอายุราว 80 ปี ด้วยกันทั้งคู่แล้ว และอาศัยอยู่ตามลำพังที่เมืองจือปั๋ว ส่วนนายจังวัย 46 ปี ได้โยกย้ายไปตั้งรกรากสร้างครอบครัวใหม่อยู่ที่กรุงปักกิ่งอันเป็นสถานที่ทำงานหาเลี้ยงชีพ
รายงานข่าวระบุว่า นายจังจองตั๋วรถไฟกลับปักกิ่งในคืนวันดังกล่าว แต่เมื่อเห็นภาพพ่อและแม่ ที่มายืนรอส่งเขาที่สถานี ก็ทำให้ความรู้สึกเสียใจพุ่งเข้าถาโถมจนมิอาจกลั้นน้ำตาลูกผู้ชาย ทรุดตัวคุกเข่ากับพื้น โค้งคำนับขอโทษพ่อแม่ซ้ำไปซ้ำมา
อย่างไรก็ดี หลังจากพลาดเที่ยวรถไฟที่จองไว้ เพราะการร่ำลาที่เต็มไปด้วยน้ำตา ทั้งของนายจังและผู้มีพระคุณ เขาก็เดินทางกลับปักกิ่งด้วยขบวนรถไฟในเที่ยวถัดมา
เหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งมีผู้บันทึกภาพไว้ และนำมาเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ได้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกเป็นสองทาง
“พ่อแม่อายุ 80 ปีแล้ว! ไม่กลับบ้านเลยตั้งสี่ปี? จะมาโค้งคำนับเพื่ออะไร รังแต่จะสร้างความเจ็บช้ำแก่พ่อแม่ยิ่งขึ้นอีก!” ความเห็นจากชาวเน็ตรายหนึ่ง
อีกหนึ่งความเห็นกล่าวว่า “ทั้งที่ฉันยากจน ค่ารถก็ต้องหยิบยืมคนอื่นมาก่อน แต่ฉันก็กลับบ้านช่วงตรุษจีนตลอด ... ไม่รู้จะมองคุณยังไงดี”
แต่ชาวเน็ตจีนบางส่วนก็แสดงความเห็นไว้อีกมุมมองที่แตกต่างออกไป
“ชีวิตนั้นยากนัก! ไม่ใช่ว่าคุณเป็นคนอกตัญญูหรอก แต่เพราะถูกสถานการณ์ในชีวิตบีบบังคับเท่านั้นเอง”
“ทุกคนต่างมีปัญหาและอุปสรรค มีเรื่องราวขมขื่นฝืนใจ เราควรมองสิ่งต่างๆ อย่างมีเหตุผลและรอบด้าน”