เอเอฟพี - นักเศรษฐศาสตร์ทำนายการเติบโตของเศรษฐกิจจีน ปี 2558 ร่วงกราวอยู่ “จุดตกต่ำที่สุด” ในรอบ 25 ปี
รายงานข่าว (18 ม.ค.) อ้างอิงผลการสำรวจความคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 18 คน ระบุว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจีน จะขยายตัวแค่ร้อยละ 6.9 ในปี 2558 ปรับลดจากร้อยละ 7.3 ในปี 2557 โดยถือเป็นสถิติระดับต่ำที่สุด นับตั้งแต่ปี 2533 หรือหนึ่งปีหลังเกิดวิกฤตเทียนอันเหมิน ซึ่งเติบโตที่ร้อยละ 3.8
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์อีกว่า เศรษฐกิจจีนไตรมาสสี่ (ต.ค.-ธ.ค.) ของปี 2558 จะขยายตัวร้อยละ 6.8 ลดลงจากร้อยละ 6.9 ของไตรมาสสาม (ก.ค.-ก.ย.)
“ภาคเศรษฐกิจจริงจะยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจัยหนุนจากการลดลงของการระบายสินค้าคงคลัง และกำลังการผลิตส่วนเกิน รวมถึงมาตรการรัดเข็มขัดลดหนี้ของรัฐบาลจีน” เจ้า หยัง นักเศรษฐศาสตร์รายหนึ่ง กล่าวอ้างถึงการหดตัวของการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์จีน
“ผมไม่คิดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจะเข้าขั้นเลวร้ายสุดๆ ในปี 2559 แต่มันน่าจะต้องเจอแรงกดดันขาลงที่ใหญ่กว่า ในช่วงสองสามปีต่อจากนี้”
ผลสำรวจฯ เผยว่า นักเศรษฐศาสตร์มองการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ปี 2559 ไว้ที่ร้อยละ 6.7 ส่วนธนาคารนอมูระ (Nomura) ของญี่ปุ่น ได้ประเมินตัวเลขที่ย่ำแย่ยิ่งกว่า ที่ร้อยละ 5.8
ในปีที่ผ่านมา ทางการจีนต้องทำงานอย่างหนักหน่วงเพื่อควบคุมตลาดหลักทรัพย์ในประเทศ ซึ่งปั่นป่วนจนทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะต่อประสิทธิภาพการวางนโยบายของเจ้าหน้าที่จีน ในการเดินหน้าการปฏิรูปและจัดการเปลี่ยนผ่านโครงสร้างเศรษฐกิจสู่รูปแบบใหม่
อย่างไรก็ดี นายลูอิส คูลซ์ นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท อ็อกฟอร์ด อีโคโนมิกส์ บนเกาะฮ่องกงกล่าวว่า กรณีตลาดหุ้นจีนผันผวน ไม่น่าจะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงของจีน แต่ตลาดโลกแสดงปฏิกิริยาตอบกลับที่ ‘โอเวอร์’ เกินไป
บริษัทฯ ชี้ว่าเศรษฐกิจจีนปีนี้ อาจชะลอตัวอยู่ที่ร้อยละ 6.3 โดยมีภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นสาเหตุสำคัญ
ทั้งนี้ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อย่างเป็นทางการ จะถูกประกาศในวันอังคาร (19 ม.ค.) นี้