เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์—พญามังกรจวกยับกลุ่มสื่อไทยที่รายงานข่าวระบุว่ากลุ่มแบ่งแยกดินแดนอุยกูร์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบวางระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ กรุงเทพฯเมื่อวันจันทร์ที่ 17 ส.ค. ขณะที่เจ้าหน้าที่ไทยแถลงว่า “ไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติ”
“พวกคุณไม่คิดหรือว่าการสรุปโดยปราศจากหลักฐานนั้น ไร้ความรับผิดชอบอย่างมาก” โฆษกหญิงสถานทูตจีนบอกกับสื่อฮ่องกง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์เมื่อวานนี้(20 ส.ค.) โต้กระแสข่าวข้อสันนิษฐานที่ว่า การลอบวางระเบิดในกรุงเทพฯ มาจากแรงจูงใจแก้แค้นของกลุ่มติดอาวุธจากมณฑลซินเจียงของจีน เพื่อแก้แค้นที่รัฐบาลไทยส่งตัวอุยกูร์ที่หลบหนีเข้าเมืองกลับไปยังจีนเมื่อเดือนที่แล้ว
ขณะนี้รัฐบาลไทยแถลงว่ามีผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 10 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการระเบิดฯ ที่ศาลพระพรหมเอราวัณ ซึ่งมีกลุ่มนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนก็มิใช่เป้าหมาย
“กลุ่มหน่วยงานความมั่นคงได้ประสานไปยังหน่วยข่าวกรองหลายประเทศ และก็สรุปในเบื้องต้นกันแล้วว่า เหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มลัทธิก่อการร้ายข้ามชาติ” พันเอกวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพแถลงเมื่อวานนี้(20 ส.ค.)
ดังนั้น จึงเหลือข้อสันนิษฐานกลุ่มผู้ลอบวางระเบิด ได้แก่ กลุ่มมุสลิมที่เคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนในประเทศ หรือไม่ก็กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศ
เหตุลอบวางระเบิดเมื่อวันจันทร์ที่ 17 ส.ค. บริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 คน โดยเป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ 5 คน ชาวฮ่องกง 2 คน และชาวต่างชาติอื่นๆ 11 คน บาดเจ็บกว่า 120 คน โดยจุดเป้าหมายวางระเบิดนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวจีนและชาวเอเชียตะวันออก
ขณะนี้ญาติๆของเหยื่อระเบิดได้มารับศพที่สถาบันนิติเวช ชายจีนวัย 50 ปี ร่ำไห้ทุรนทุราย ระหว่างรอรับศพภรรยาและบุตรสาว
เมื่อคืนวานนี้ ตำรวจแถลงว่าพบผู้ต้องสงสัยสองคน โดยชายสองคนนี้ คนหนึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน และอีกคนเป็นไกด์นำเที่ยวชาวไทย ปรากฏตัวในกล้องวีดิโอ โดยยืนอยู่หน้าชายผู้ต้องสงสัยคนแรก ที่อยู่ในบริเวณศาลพระพรหมก่อนการระเบิด
ตำรวจได้สอบปากคำ และปล่อยตัวชายไทยในวีดิโอหลังจากที่เขามาพบตำรวจ ส่วนชายชาวจีนได้ออกจากประเทศไปแล้ว
นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชี้ว่าผู้ต้องสงสัยหมายเลขหนึ่งนั้นได้ปลอมตัว “อาชญากรได้ปลอมตัว เป็นการเตรียมตัว ซึ่งเขาก็น่าจะรู้ว่าในบริเวณนั้นมีกล้องวงจรปิดคอยสอดแนมอยู่”
พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าแผนการโจมตีครั้งนี้ มีการเตรียมการล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเดือน โดยมี “มีเครือข่ายใหญ่” เกี่ยวข้อง อาทิ คนที่คอยดูลาดเลาบนถนน เตรียมระเบิด และคนที่อยู่ในบริเวณ...คนที่รู้ทางหลบหนี ผมเชื่อว่าคนเหล่านี้จะต้องมีอย่างน้อย 10 คน ที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติระเบิด”
“พวกคุณไม่คิดหรือว่าการสรุปโดยปราศจากหลักฐานนั้น ไร้ความรับผิดชอบอย่างมาก” โฆษกหญิงสถานทูตจีนบอกกับสื่อฮ่องกง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์เมื่อวานนี้(20 ส.ค.) โต้กระแสข่าวข้อสันนิษฐานที่ว่า การลอบวางระเบิดในกรุงเทพฯ มาจากแรงจูงใจแก้แค้นของกลุ่มติดอาวุธจากมณฑลซินเจียงของจีน เพื่อแก้แค้นที่รัฐบาลไทยส่งตัวอุยกูร์ที่หลบหนีเข้าเมืองกลับไปยังจีนเมื่อเดือนที่แล้ว
ขณะนี้รัฐบาลไทยแถลงว่ามีผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 10 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการระเบิดฯ ที่ศาลพระพรหมเอราวัณ ซึ่งมีกลุ่มนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนก็มิใช่เป้าหมาย
“กลุ่มหน่วยงานความมั่นคงได้ประสานไปยังหน่วยข่าวกรองหลายประเทศ และก็สรุปในเบื้องต้นกันแล้วว่า เหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มลัทธิก่อการร้ายข้ามชาติ” พันเอกวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพแถลงเมื่อวานนี้(20 ส.ค.)
ดังนั้น จึงเหลือข้อสันนิษฐานกลุ่มผู้ลอบวางระเบิด ได้แก่ กลุ่มมุสลิมที่เคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนในประเทศ หรือไม่ก็กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศ
เหตุลอบวางระเบิดเมื่อวันจันทร์ที่ 17 ส.ค. บริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 คน โดยเป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ 5 คน ชาวฮ่องกง 2 คน และชาวต่างชาติอื่นๆ 11 คน บาดเจ็บกว่า 120 คน โดยจุดเป้าหมายวางระเบิดนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวจีนและชาวเอเชียตะวันออก
ขณะนี้ญาติๆของเหยื่อระเบิดได้มารับศพที่สถาบันนิติเวช ชายจีนวัย 50 ปี ร่ำไห้ทุรนทุราย ระหว่างรอรับศพภรรยาและบุตรสาว
เมื่อคืนวานนี้ ตำรวจแถลงว่าพบผู้ต้องสงสัยสองคน โดยชายสองคนนี้ คนหนึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน และอีกคนเป็นไกด์นำเที่ยวชาวไทย ปรากฏตัวในกล้องวีดิโอ โดยยืนอยู่หน้าชายผู้ต้องสงสัยคนแรก ที่อยู่ในบริเวณศาลพระพรหมก่อนการระเบิด
ตำรวจได้สอบปากคำ และปล่อยตัวชายไทยในวีดิโอหลังจากที่เขามาพบตำรวจ ส่วนชายชาวจีนได้ออกจากประเทศไปแล้ว
นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชี้ว่าผู้ต้องสงสัยหมายเลขหนึ่งนั้นได้ปลอมตัว “อาชญากรได้ปลอมตัว เป็นการเตรียมตัว ซึ่งเขาก็น่าจะรู้ว่าในบริเวณนั้นมีกล้องวงจรปิดคอยสอดแนมอยู่”
พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าแผนการโจมตีครั้งนี้ มีการเตรียมการล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเดือน โดยมี “มีเครือข่ายใหญ่” เกี่ยวข้อง อาทิ คนที่คอยดูลาดเลาบนถนน เตรียมระเบิด และคนที่อยู่ในบริเวณ...คนที่รู้ทางหลบหนี ผมเชื่อว่าคนเหล่านี้จะต้องมีอย่างน้อย 10 คน ที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติระเบิด”