xs
xsm
sm
md
lg

“สมยศ” ปัดข่าวจับมือบึ้ม วอนงดแชร์ข่าวยังไม่กรอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
ASTV ผู้จัดการ - ผบ.ตร.ปัดข่าวจับมือบึ้มราชประสงค์ วอนประชาชนงดแชร์ข้อมูลที่ยังไม่กรอง เหตุทำให้ตำรวจสับสน เสียเวลาตรวจสอบ เผยมีนักธุรกิจลงขันเงินรางวัลนำจับเพิ่มเป็น 2 ล้าน ติงสื่อเสนอข่าวคลาดเคลื่อน ตำรวจทำงานเต็มที่ ยินดีรับฟังข้อมูลที่เป็นประโยชน์ จวกเฟซบุ๊กซีเอสไอแอลเอจ้องจับผิด

วันนี้ (20 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.20 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามหาตัวคนร้ายวางระเบิดบริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ ว่าขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เพิ่มรางวัลนำจับคนร้ายที่ก่อเหตุจากเดิม 1 ล้านบาท เพิ่มเป็น 2 ล้านบาท หากใครก็ตามสามารถให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่จนนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้าย โดยเงินรางวัลนำจับที่นำมาสมทบนั้นได้มาจากนักธุรกิจเอกชนรายใหญ่ระดับพันล้านรายหนึ่งที่แสดงความจำนงต้องการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ตามที่มีกระแสข่าว อย่างไรก็ตาม หากมีการจับกุมตัวได้จะต้องมารายงานตน แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบ จะไปสอบถามผู้ปฏิบัติงานคงไม่เหมาะสม ทั้งนี้มีหลายคนโทรศัพท์มาแสดงความยินดีที่ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้แล้วโดยเขาทราบมาจากข่าวในโซเชียลมีเดีย ตนก็งงอยู่ จึงอยากเตือนคนที่ชอบเล่นโซเชียลมีเดียที่ชอบส่งข้อความให้เกิดความสับสนเกิดความเข้าใจผิด โดยเฉพาะเกี่ยวกับเหตุการณ์ร้ายต่างๆ ที่เขียนว่าพบวัตถุต้องสงสัยในหลายๆ ที่ มันทำให้เจ้าหน้าที่เสียเวลาไปกับสิ่งเหล่านี้ แทนที่จะใช้เวลาไปกับเรื่องที่เป็นความจริง

“ผมบอกว่าเรื่องนี้มีการวางแผนหรือดำเนินการมาโดยใช้เวลาพอสมควร พูดไปตามทฤษฎีจากผู้มีความรู้มาวิเคราะห์ให้ฟังว่าอาจมีการวางแผนมานานพอสมควร เช่น มาสำรวจพื้นที่ ตระเตรียมสถานที่ เตรียมวัสดุอุปกรณ์เพื่อก่อเหตุ รวมถึงสถานที่พัก สำรวจเส้นทางซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร ไม่ใช่หมายถึงว่ามีจำนวนผู้ต้องสงสัยเป็น 10 คนตามที่สื่อมวลชนบางสำนักเสนอ แต่ตามทฤษฎีการก่อความรุนแรงที่บอกว่าต้องประกอบไปด้วยผู้ร่วมตั้งแต่ 10 คน แต่จะน้อยหรือมากกว่านั้นก็แล้วแต่เหตุการณ์ ขอให้สื่อมวลชนเขียนข่าวให้ถูกต้อง ไม่ใช่ว่าผมรู้มาเป็นเดือนว่าจะก่อเหตุหรือฟันธงว่าจะมีผู้ต้องสงสัยเป็น 10 คน แต่ความน่าจะเป็นต้องมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากเท่านั้น” พล.ต.อ.สมยศกล่าว

ผบ.ตร.กล่าวว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมามีบริษัทเอกชนรายหนึ่งได้มาติดต่อกับตนเพื่อเสนอให้เครื่องคัดกรองบุคคลตามสนามบินต่างๆ ทั้งที่ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ต้องขอขอบคุณบริษัทเอกชนรายดังกล่าวซึ่งมีความห่วงใยประเทศอย่างยิ่ง ตนเชื่อว่าการมีอุปกรณ์เครื่องมืออัตโนมัติดังกล่าวมาช่วยจะสามารถตรวจสอบบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้เพียงสายตาของเจ้าหน้าที่ เพราะพบว่าเครื่องมือดังกล่าวสามารถตรวจสอบบุคคลได้มากถึง 100 คนต่อนาที

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ส่วนกรณีคนขับรถตุ๊กตุ๊กที่ไปส่งคนร้ายนั้นตนไม่ทราบว่ามีการติดต่อพบเจ้าหน้าที่แล้วหรือไม่ เพียงแต่ตนได้ประกาศไปว่าจะกันเงินไว้ส่วนหนึ่งหากผู้ขับรถดังกล่าวมาพบและให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อใช้เป็นแนวทางในการสืบสวนได้ถูกต้อง

“อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวไปแล้วเกิดความคลาดเคลื่อน เช่น การที่บอกว่าคนร้ายขึ้นรถจากซอยมหาดเล็กแล้วไปที่สีลมซอย 9 ก็ไม่เป็นความจริง เป็นข่าวที่คลาดเคลื่อนซึ่งเกิดจากความผิดพลาดของกล้องซีซีทีวี ตำรวจได้เจอตัวคนขับจักรยานยนต์รับจ้างเขาบอกว่าคนร้ายให้ไปส่งที่สวนลุมฯ แต่เขาไม่รู้ว่าจะส่งตรงไหนจึงไปส่งบริเวณพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 แทน ส่วนประเด็นคนร้ายไม่ได้พูดภาษาไทยนั้นอยู่ในสำนวน ขอยืนยันตำรวจทำอย่างเต็มที่ไม่ต้องมีใครมาบอก แต่เราก็ยินดีรับฟังข้อมูลที่มีประโยชน์ ไม่ใช่มาจ้องจับผิดอย่าง เช่น เฟซบุ๊กซีเอสไอแอลเอ ในเครือข่ายสังคมออนไลน์” ผบ.ตร.กล่าว

ส่วนที่จะมีการพิจารณานำมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว มาใช้แทนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือไม่นั้น เรื่องนี้ตนไม่อาจก้าวล่วงได้ เนื่องจากเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี


กำลังโหลดความคิดเห็น