นักธุรกิจโคราชชี้ “บึ้มราชประสงค์” ยังไม่กระทบ ศก.ภูมิภาค แต่สะเทือนลงทุนระยะยาว

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - นักธุรกิจโคราชชี้เหตุ “บึ้มราชประสงค์” ไม่ส่งผลกระทบต่อภูมิภาค ระบุอยากให้รัฐบาลเร่งสร้างความเชื่อมั่น ส่วนระยะยาวได้รับผลกระทบต่อการลงทุนที่ไม่มีความเชื่อมั่นไม่กล้านำเงินมาลงทุน ระบุปลายปีจึงเห็นผลกระทบชัดและชี้ระบบเศรษฐกิจได้ มั่นใจรัฐบาลจะรับมือได้

วันนี้ (20 ส.ค.) นายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ กรรมการหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอกสหกรุ๊ป จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ฟอร์ด มาสด้า นิสสัน รายใหญ่ของ จ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ราชประสงค์ กรุงเทพฯ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากว่า ในส่วนของต่างจังหวัดโดยเฉพาะที่ จ.นครราชสีมา จนถึงขณะนี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังพอไปได้ ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่เนื่องจากคนไทยด้วยกันมีความเป็นห่วงประชาชนในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ค้าขายแถวราชประสงค์ช่วงนี้อาจได้รับผลกระทบบ้าง ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัดเชื่อว่ายังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ในระยะยาวได้รับผลกระทบแน่นอน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ลงทุนที่ไม่มั่นใจในสถานการณ์ด้านความมั่นคง

อย่างไรก็ตาม อยากขอให้รัฐบาลและภาครัฐสร้างความมั่นใจและช่วยให้ประชาชนบรรเทาการตื่นตระหนก และสร้างความชัดเจนเพื่อเร่งกู้สถานการณ์ความเชื่อมั่นกลับคืนมา แต่การที่จะให้รัฐบาลออกมาตอบถึงสาเหตุของการเกิดเหตุระเบิดครั้งนี้คงต้องให้เวลาอีกสักระยะเพื่อให้มีความชัดเจน และจากนั้นรัฐบาลต้องเร่งออกมาสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนโดยรวมทั้งหมด

นายสุดที่รักกล่าวอีกว่า เศรษฐกิจจากนี้ไปจนถึงปลายปีเชื่อว่ารัฐบาลคงจะมีเมกะโปรเจกต์ต่างๆ เตรียมที่จะออกมาในไตรมาส 3 ฉะนั้นหลังจากนี้ไปในช่วงประมาณปลายปีจะต้องมาประเมินกันอีกครั้งหนึ่งว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรต่อไป หากประเมินในตอนนี้อาจเร็วจนเกินไปที่จะคาดคะเน

“หลังจากงบประมาณรัฐบาลออกมาทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ช่วงนี้ไปถึงปลายปีต้องเฝ้าดูสถานการณ์หลายๆ อย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะปัจจัยใหม่คือเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ กลางกรุงเทพมหานคร” นายสุดที่รักกล่าว

นายสุดที่รักกล่าวอีกว่า มาถึงวันนี้คงไม่ต้องตอบในเรื่องเศรษฐกิจว่าดีหรือไม่ดีเพราะหลายคนเห็นภาพทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค้าปลีก ค้าส่ง อุตสาหกรรมยานยนต์ หรืออสังหาริมทรัพย์ แต่ขณะเดียวกันในท้องถิ่นอย่างที่ จ.นครราชสีมา แรงกระทบอาจไม่มากนัก ส่วนของอสังหาริมทรัพย์อาจมีสะท้อนไปบ้าง แต่เกิดจากจีดีพีที่เริ่มหดตัวลง อย่างไรก็ตามโดยภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ยังพอไปได้

ในส่วนของรถยนต์เช่นกัน จังหวัดนครราชสีมาที่ได้รับผลกระทบหนักๆ น่าจะมาจากปัญหาพืชผลทางการเกษตร หากผลิตผลทางการเกษตรไม่ได้ราคาที่ดีพอ แน่นอนเป็นปัจจัยพื้นฐานก็ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจของเรามีปัญหา มาถึงวันนี้ก็เริ่มเห็นบ้างเล็กน้อย

สำหรับสายตาจากต่างประเทศยังคงมองประเทศไทยแง่ดีอยู่และให้กำลังใจ เช่น นายกรัฐมนตรี ออสเตรเลีย ยังออกมาบอกว่าประเทศไทยยังเป็นเมืองที่น่าเที่ยว ซึ่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเราต้องยอมรับว่าเป็นอุตสาหกรรมที่นำรายได้หลักเข้ามาในประเทศ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้น่าจะแก้ไขปัญหานี้ไปได้อย่างรวดเร็ว นายสุดที่รักกล่าวในตอนท้าย