รัฐบาลปักกิ่งเชื่อมั่นทิศทางเศรษฐกิจจีน แต่ไม่วางใจตลาดหุ้น

รอยเตอร์ - รัฐบาลจีนมองภาพรวมของเศรษฐกิจแดนมังกรช่วงครึ่งหลังของปี 2558 ในแง่ดี แต่จับตาดูความผันผวนของตลาดหุ้นในประเทศอย่างใกล้ชิด

นาย หลี่ ผู่หมิน เลขาธิการคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและการปฏิรูปแห่งชาติของจีน ( เอ็นดีอาร์ซี) แถลงเมื่อวันอังคาร ( 28 ก.ค.) ว่า ภาวะเศรษฐกิจจีนที่กระเตื้องขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เป็นลางดีสำหรับเศรษฐกิจ แต่แรงผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวยังมีไม่มากพอ

นายหลี่ระบุว่า บริษัทจำนวนหนึ่งยังประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจ ขณะที่รายได้การคลังและตลาดแรงงานเผชิญแรงกดดันสูง นอกจากนั้น ยังมีปัญหาใหญ่อีกเรื่องหนึ่งคือเงินทุนยังไหลเข้าสู่ภาคเศรษฐกิจจริงได้อย่างไม่ราบรื่น

การระบายเม็ดเงินไปสู่ภาคธุรกิจจริงกำลังเป็นงานที่ยากเหมือนการเข็นครกขึ้นภูเขาสำหรับรัฐบาลปักกิ่ง อย่างไรก็ตาม ภาคธนาคารยังรีรอปล่อยเงินกู้ ขณะเดียวกันการชะลอตัวของเศรษฐกิจก็ยิ่งเร่งให้เกิดหนี้เสีย ฉะนั้น ภาคธนาคารจึงมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง

นอกจากนั้น นายหลี่ยังกล่าวว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจร้อยละ 7 ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 มีความสอดคล้องกับเป้าหมาย ที่รัฐบาลปักกิ่งตั้งไว้ตลอดทั้งปี แต่การดิ่งลงของตลาดหุ้นจีนนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. เป็นต้นมา ทำให้เกิดความวิตกกันเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจแดนมังกร และความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในระบบการเงิน โดยผู้กำหนดนโยบายของจีนมองว่า ความผันผวนในตลาดหุ้นจีนเป็นสิ่งที่ผิดปกติ

อย่างไรก็ตาม เขายังเห็นว่า พื้นฐานของเศรษฐกิจจีนกำลังมีเสถียรภาพ และเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การพัฒนาตลาดทุน รวมทั้งตลาดหุ้นเป็นไปอย่างแข็งแกร่งอีกด้วย

สำหรับเงินเฟ้อ นายหลี่คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคจะขยับขึ้นไม่มากนักในช่วงครึ่งหลังของปี เนื่องจากราคาเนื้อสุกร ซึ่งเป็นอาหารหลักของจีน กำลังนิ่ง

ด้านนายเกา เกา รองผู้อำนวนการแผนกบูรณาการของเอ็นดีอาร์ซีระบุว่า เขามองภาพรวมความต้องการจากต่างประเทศในแง่ลบ โดยย้ำว่า จีนต้องดำเนินนโยบายสร้างเสถียรภาพต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และกระตุ้นการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน ที่สำคัญของประเทศ

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นจีนดิ่งแรงทำลายสถิติในรอบ 8 ปีเมื่อวันจันทร์ ( 27 ก.ค.) และดิ่งลงต่อเนื่องในวันถัดมา แม้ผู้กำกับตลาดหลักทรัพย์ประกาศให้เงินกู้พยุงตลาดก็ตาม

ธนาคารกลางของจีนได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่กำลังบ่ายหน้าไปสู่ภาวะย่ำแย่สุดในรอบ 25 ปี โดยนักเศรษฐศาสตร์หลายคนคาดการณ์ว่า รัฐบาลปักกิ่งจะประกาศมาตรการผ่อนคลายเชิงนโยบายออกมาอีกในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า