เอเจนซี - สัปดาห์ก่อนนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนเปรยต่อบรรดาผู้ว่าการมณฑล เศรษฐกร และนักธุรกิจ ว่าเศรษฐกิจของประเทศทรงตัวอยู่ในสถานะ ‘สมเหตุสมผล’ โดยอ้างอิงอัตราการเติบโต การจ้างงาน และราคาสินค้าว่าล้วนมีเสถียรภาพมั่นคง ทำให้รัฐบาลมั่นใจ “เอาอยู่” ทุกปัญหาที่อาจถาโถมเข้ามา
ไตรมาสแรกของปี 2558 ตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจจีนนั้นอยู่ที่ร้อยละ 7 ขณะที่ไตรมาสสองซึ่งสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเพิ่งปล่อยรายงานออกมาในวานนี้ (15 ก.ค.) ก็หยุดนิ่งอยู่ที่ร้อยละ 7 เช่นกัน ทว่ากลับสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
สำนักข่าวรอยเตอร์สเคยสอบถามความเห็นจากกูรูเศรษฐกิจบางส่วน ที่ทำนายว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ของจีน ช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. อาจเติบโตแค่ร้อยละ 6.8-6.9 แต่ข้อมูลล่าสุดก็ชี้ให้เห็นแล้วว่า จีดีพีจีนร้อยละ 7 ของไตรมาสสอง ขยายตัวขึ้นร้อยละ 1.7 เมื่อเทียบกับร้อยละ 1.4 ของช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.
อย่างไรก็ดีเข้าใจกันว่า ปักกิ่งจะยังเข็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเรื่อยๆ หลังจากไตรมาสสองปิดฉากลงด้วยความโกลาหลวุ่นวายของตลาดหุ้น กอปรกับการค้า การลงทุน และอุปสงค์ภายในประเทศที่มีทีท่าชะลอตัวลง รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาและแรงกดดันจากการลดค่าเงินหยวน
ตัวเลขกิจกรรมเศรษฐกิจรายเดือนซึ่งประกาศพร้อมกับตัวเลขจีดีพีก็ลอยอยู่เหนือความคาดหมายของหลายฝ่าย ส่งสัญญาณฟื้นตัวด้วยอัตราผลผลิตจากโรงงานแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา โดยสำนักงานสถิติฯ ระบุว่าเป็น “ชัยชนะอันยากยิ่ง” ที่ยังต้องการนโยบายสนับสนุนเพิ่มเติมต่อไป
“เราต้องตระหนักว่าภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศนั้นยังมีความซับซ้อน การฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกก็เป็นไปอย่างเชื่องช้า” สำนักงานสถิติฯ กล่าว
ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร (14 ก.ค.) ทางการจีนเผยข้อมูลการปล่อยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์กว่า 1.28 ล้านล้านหยวนในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นผลจากมาตรการสนับสนุนของธนาคารกลาง แต่ไม่ชัดเจนว่าเม็ดเงินเหล่านั้นจะไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจริงมากน้อยเพียงใด ขณะที่ภาคการส่งออกก็ขยับขยายตัวเพิ่มขึ้น สวนทางกับภาคการนำเข้าที่หดตัวลง
ด้านอัตราการลงทุนสินทรัพย์ถาวรก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.4 ในช่วงครึ่งปีแรก ส่วนผลผลิตอุตสาหกรรมก็กระเตื่องขึ้นร้อยละ 6.8 เช่นเดียวกับยอดค้าปลีกดีดตัวขึ้นร้อยละ 10.6 โดยทั้งหมดต่างบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจระดับภาพรวม
แต่นักวิเคราห์บางส่วนตั้งข้อสงสัยความแม่นยำของข้อมูลข้างต้นที่ทางการจีนเผยแพร่ออกมา กล่าวว่ามันไม่สอดคล้องกับสัญญาณอ่อนตัวอื่นๆ ของเศรษฐกิจ สำนักงานสถิติฯ จึงยืนกรานวานนี้ว่า ตัวเลขการเติบโตนั้นถูกต้อง ไม่ได้ฟุ้งเฟ้อเกินความเป็นจริง
ขณะเดียวกันผลสำรวจของบริษัท ไชน่า เบจ บุ๊ก (China Beige Book) สำทับอีกว่า แรงผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจระดับมณฑลในประเทศจีนแสดงสัญญาณฟื้นตัวเป็นวงกว้างในไตรมาสที่ผ่านมา
จีดีพีที่ทรงตัวสูงกว่าการคาดการณ์อาจเป็นข่าวน่าชื่นใจของรัฐบาลกลาง แต่กลับไม่ใช่สำหรับตลาดหุ้นแดนมังกรเท่าไรนัก ซึ่งเพิ่งผ่านพ้น ‘วิกฤต’ หุ้นตัวสำคัญหล่นฮวบมากกว่าร้อยละ 32 ระหว่างวันที่ 15 มิ.ย.- 8 ก.ค. โดยดัชนีอ้างอิงการซื้อ-ขายหุ้นยังลดลงเกือบร้อยละ 3 ในช่วงเปิดตลาดเช้าวานนี้
สำนักงานสถิติฯ กล่าวว่า ตลาดหุ้นที่มีความมั่นคงถือเป็นปัจจัยหลักของเศรษฐกิจจีน ทางการจะเดินหน้ามาตรการควบคุมเต็มกำลังในไม่ช้า โดยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศซึ่งสูญเสียเกือบร้อยละ 30 ตลอดช่วงสัปดาห์สั้นๆ ของการเทขายหุ้นอย่างตื่นตระหนก
อนึ่ง ปักกิ่งคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศประจำปี 2558 ไว้ที่ร้อยละ 7 ซึ่งจัดเป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 25 ปีที่ผ่านมา
