xs
xsm
sm
md
lg

ผวาตลาดหุ้นผันผวน ไม่เชื่อถือมาตรการรัฐ เศรษฐีจีนเล็งลงทุนอสังหาฯต่างชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ผลสำรวจระบุ ภาวะตลาดหุ้นจีนดิ่งเหวและมาตรการเข้าแทรกแซงของรัฐบาลปักกิ่งเมื่อเร็วๆ นี้ทำให้ชาวจีนเล็งกระจายการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างชาติกันเป็นแถว

อีสต์-เวสต์ พร็อบเพอร์ตี แอดไวเซอร์ส (East-West Property Advisors) บริษัทที่ปรึกษา ซึ่งช่วยชาวเอเชียซื้ออาคาร บ้านและที่ดินในสหรัฐฯ ได้สำรวจความเห็นของลูกค้าและหุ้นส่วนบนแผ่นดินใหญ่ 170 คน ทางแอปพลิเคชันวีแชต พบว่า ผู้ถูกสำรวจมากถึงกว่าหนึ่งกำลังพิจารณาหาซื้ออสังหาฯ ในต่างประเทศ รวมทั้งการลงทุนในตราสารหนี้

นายแซม แวน ฮอร์บีก ผู้ก่อตั้งบริษัท ซึ่งอยู่ในฮ่องกงเปิดเผยว่า ผู้คนมีความคิดดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากที่เขาเคยเห็นตามสื่อ หรือที่บริษัทของเขามีการพูดคุยกับลูกค้าเมื่อก่อนหน้านี้

นอกจากนั้น ผลสำรวจยังพบว่า นอกจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัวแล้ว ผู้ถูกสำรวจยังวิตกเกี่ยวกับความผันผวนของตลาดหุ้น และการประกาศมาตรการแทรกแซง ที่ออกมามากมายของรัฐบาลจีน ซึ่งเพิ่มความสับสนและตื่นตระหนกเสียมากกว่า อีกทั้งผู้คนยังไม่เชื่อด้วยว่า บรรดาผู้คุมกฎของจีนมีความโปร่งใส และกำลังปล่อยให้ตลาดมีการเคลื่อนไหวอย่างอิสระ มาตรการของรัฐบาลกลายเป็นทำให้นักลงทุนยิ่งขาดความเชื่อถือมากขึ้น

บทความที่นักลงทุนบนแผ่นดินใหญ่ผู้หนึ่งเผยแพร่ในวีแชตระบุว่า นี่คือความหายนะของตลาดหุ้นที่กวาดเอาความมั่งคั่งของชนชั้นกลาง ที่ทำงานหนักเพื่อสะสม มานานกว่า 10 ปี หายไปเกลี้ยง

เงินทุนจากแผ่นดินใหญ่ ที่ไหลออกไปยังภาคอสังหาฯ ต่างชาติ พุ่งทะยานในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยผลสำรวจประจำปีของสมาคมนายหน้าแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า  ชาวจีนเป็นผู้ซื้อชาวต่างชาติรายใหญ่สุดในสหรัฐฯ ทั้งในแง่ของจำนวนและมูลค่าของการทำธุรกรรมในเดือนเม.ย. 2557 - มี.ค. 2558

ชาวจีน รวมทั้งที่มาจากฮ่องกงและไต้หวัน ซื้อบ้านในสหรัฐฯ ช่วงนั้นเป็นมูลค่าถึง 28,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าที่ชาวแคนาดาซื้อมากกว่า 2 เท่า คือ 11,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ข้อมูลของซีบีอาร์อี (CBRE) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลกระบุว่า ชาวจีนลงทุนในตลาดอสังหาฯต่างประเทศจำนวน 10,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีที่แล้ว เพิ่มจาก 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2553

นอกจากนั้น ชาวจีนยังลงทุนโดยตรงในตลาดอสังหาฯ ออสเตรเลียสูงกว่านักลงทุนจากสหรัฐฯ และครองตำแหน่งนักลงทุนรายใหญ่สุดเป็นรองก็แต่สิงคโปรเท่านั้น โดยเม็ดเงินลงทุนจากแดนมังกรในตลาดทั่วโลกคาดว่า ยังดำเนินไปอย่างมั่นคง และมีแนวโน้ม ที่จะเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น