เอเอฟพี - เวิล์ดแบงก์สั่งถอดเนื้อหาบางส่วนออกจากรายงานเศรษฐกิจแดนมังกรฉบับล่าสุด ซึ่งกล่าวว่า “ยุคทอง 3 ทศวรรษ” ของจีนอาจล่มสลายลงในอนาคต โดยระบุสาเหตุไม่ได้ผ่านการพิจารณาทบทวนอย่างเพียงพอ
ธนาคารโลกหรือเวิล์ดแบงก์ (World Bank) สถาบันการเงินที่มีฐานอยู่ในกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่ “รายงานความคืบหน้าเศรษฐกิจจีน” (China Economic Update) ในวันพุธ (1 ก.ค.) ณ นครหลวงปักกิ่ง โดยเนื้อหาส่วนหนึ่งกระตุ้นให้ทางการจีนเร่งปฏิรูปภาคการเงินของประเทศที่รัฐบาลเป็นผู้ควบคุมดูแลเบ็ดเสร็จ
“ความล้มเหลวในการแก้ไขประเด็นปัญหาอาจนำไปสู่จุดสิ้นสุด ‘ยุคทอง 3 ทศวรรษ’ ของมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับสองรายนี้ได้” ธนาคารโลกตักเตือนด้วยสำนวนภาษาทื่อๆ อย่างตรงไปตรงมา
“การลงทุนอันสิ้นเปลือง ภาวะหนี้สินท่วมท้น และระบบธนาคารเงาที่ถูกควบคุมอย่างปวกเปียก สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข เพื่อวาระการปฏิรูปและเปิดกว้างของจีนจะได้สัมฤทธิ์ผลสำเร็จ”
อย่างไรก็ดี ธนาคารโลกชี้แจงในรายงานฉบับเพิ่มเติมซึ่งโพสต์บนเว็บไซต์องค์กรในวันศุกร์ (3 ก.ค.) ว่า เนื้อหาส่วนดังกล่าวถูกลบออกจากรายงานความคืบหน้าเศรษฐกิจจีน ที่เผยแพร่ออกมาสองวันก่อนหน้านั้นแล้ว
“ส่วนที่สามของเนื้อหาเกี่ยวกับภาคการเงินถูกลบออก เนื่องจากไม่ได้ผ่านกระบวนการพิจารณาทบทวนภายในและขั้นตอนสร้างความชัดเจนอย่างที่เคยกระทำมา”
เนื้อหาที่ถูกลบทิ้งนั้นชี้อีกว่า จีนก้าวเข้าควบคุมสินทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ในประเทศอย่างเข้มงวด เป็นผลให้เกิดค่าอันผิดปกติจากมาตรฐานระหว่างประเทศ บางกรณีเจ้าหน้าที่ทางการก็กลายเป็นทั้งเจ้าของ ผู้ควบคุมกฎ และลูกค้าของธนาคารในเวลาเดียวกัน
“การปฏิรูปการเงินจะช่วยพิสูจน์ประสิทธิภาพหากจีนถอนโครงสร้างกำกับดูแลและตัวกระตุ้นที่ผิดเพี้ยนทิ้งไป ซึ่งส่งผลกระทบต่อวิธีเคลื่อนย้ายถ่ายเทและจัดสรรปันส่วนแหล่งเงิน”
“อย่างที่พบเห็นในปัจจุบัน บทบาทของรัฐในการกำหนดมูลฐานระบบการเงินมีความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงตัวกระตุ้นและโครงสร้างเหล่านี้”
“ผู้นำจีนกำลังพยายามจัดการควบคุมการแปรเปลี่ยนรูปร่างการเติบโตของเศรษฐกิจ ด้วยเน้นไปที่ความต้องการของผู้บริโภคให้เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศแทนการลงทุน”
ทั้งนี้สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทางการจีนเรียกร้องโบรกเกอร์บริษัทหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ที่สุดและบริษัทหลักทรัพย์กองทุนรวมรายใหญ่ในประเทศ จับมือร่วมกันประคับประคองตลาดหุ้นจีนหลังจากเผชิญภาวะร่วงหล่นลงมาเกือบร้อยละ 30 ในระยะเวลาเพียงสามสัปดาห์เท่านั้น
ด้านสมาคมหลักทรัพย์แห่งประเทศจีน (Securities Association of China) เผยว่าบรรดาโบรกเกอร์บริษัทหลักทรัพย์ให้คำมั่นจะไม่ขายหุ้นในบัญชีหลักทรัพย์ (proprietary trading) ของตัวเอง ตราบนานเท่าที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตยังทรงตัวต่ำกว่าระดับ 4,500