เอเจนซี - ทีมกู้ภัยจีนเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุเรือ ‘อีสเทิร์น สตาร์’ ที่มีผู้โดยสารอยู่กว่า 458 คน จมลงกลางแม่น้ำแยงซีเกียงในมณฑลหูเป่ย โดยยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 19 ราย ส่วนยอดผู้สูญหายยังคงมากกว่า 400 คน
โศกนาฏกรรมทางเรือครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบเกือบ 70 ปี ของแดนมังกร ยังคงดำเนินไปอย่างน่าเศร้าสะเทือนใจ โดยสถานีโทรทัศน์กลางแห่งชาติจีน หรือซีซีทีวี เผยภาพเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยทำงานหนักกันตลอดวันตลอดคืนแต่กลับพบผู้รอดชีวิตน้อยมาก โดยล่าสุดตัวเลขอยู่เพียง 14 คนเท่านั้น
ด้านนักประดาน้ำกว่า 200 คน จากกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ก็เผชิญอุปสรรคจากสภาพอากาศและปัจจัยอื่น อาทิ ประตูเรือถูกปิดกั้นด้วยโต๊ะและเตียงนอนด้านใน หรือความกลัวว่าหากหุนหันตัดเจาะช่องบนตัวเรือที่ลอยหงายท้องอยู่นี้ อาจทำลาย “หลุมอากาศ” (air pocket) ซึ่งเป็นจุดที่มีอากาศหายใจภายในเรือ
หลังจากวานนี้นักประดาน้ำทีมหนึ่งสามารถช่วยเหลือหญิงชรา วัย 65 ปีเศษ ออกจากตัวเรือได้สำเร็จ โดยพบว่าเธอยังคงต่อลมหายใจระหว่างติดค้างอยู่ข้างในด้วยหลุมอากาศดังกล่าว
เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังได้ขยายพื้นที่การค้นหาตามกระแสน้ำออกไปอีก 220 กิโลเมตร เนื่องจากคาดว่าร่างของผู้ประสบภัยอาจถูกพัดลอยตามลำน้ำไกลจากจุดเกิดเหตุ โดยผู้บัญชาการกองเรือ นายฮุ้ย ตงเหยียน บอกกับสื่อท้องถิ่นว่า “เราจะปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถที่สุด”
เรือโดยสาร ‘ตงฟังจือซิง’ หรืออีสเทิร์น สตาร์ (Eastern Star) ประสบเหตุพลิกคว่ำและจมลงกลางแม่น้ำแยงซีเกียง ช่วงลำน้ำต้าหม่าโจวในอำเภอเจียนลี่ นครจิงโจว เมื่อเวลาราว 21.28 น. ตามเวลาท้องถิ่นของคืนวันจันทร์ (1 มิ.ย.) หลังปะทะกับพายุทอร์นาโดตามคำอ้างของกัปตันเรือซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิต
นายจัง ฮุ้ย ไกด์นำเที่ยวซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตเผยต่อสำนักข่าวซินหวาว่า ตอนนั้นฝนตกหนักมากจนน้ำไหลซึมผ่านหน้าต่างห้องพักเข้ามา ไม่นานเรือก็เอียงตัวอย่างรุนแรง
“ผมเริ่มคิดว่า ‘มันไม่ปกติแล้ว’ เลยบอกเพื่อนร่วมงานว่า ‘เรากำลังแย่ละนะ’ แต่ไม่ทันขาดคำเรือก็พลิกตัวลงด้วยเวลาแค่ 30 วินาทีถึงหนึ่งนาทีเท่านั้น”
ไกด์วัย 43 ปี รีบคว้าเสื้อชูชีพมาใส่และปีนออกทางหน้าต่างห้องซึ่งถูกน้ำท่วมขังสูงถึงคอแล้ว นายจังที่ว่ายน้ำไม่เป็นได้แต่ลอยคอไปตามกระแสน้ำเชี่ยวกรากตลอดคืนก่อนถีบตัวเข้าฝั่งสำเร็จในช่วงรุ่งสาง ชาวบ้านท้องถิ่นเข้าช่วยเหลือเขา ซึ่งทำให้จังรู้ตัวว่าลอยมาไกลกว่า 90 กิโลเมตร อยู่ที่อำเภอเย่ว์หยังของมณฑลหูหนัน
ด้านนายหลี่ หย่งจวิน กัปตันเรือขนส่งสินค้าที่แล่นใกล้กับเรืออีสเทิร์นฯ ก่อนเกิดเหตุ เล่าว่าสภาพอากาศวันนั้นเลวร้ายสุดๆ จนเขาตัดสินใจทอดสมอเรือและรอคอยจนกว่าพายุจะสงบลง
“ทัศนวิสัยย่ำแย่มากเหมือนยืนอยู่ในหมอกหนาทึบ แถมฝนก็ตกหนักจนรบกวนสัญญาณเรดาร์ มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น” หลี่กล่าว “ผมได้ยินเสียงร้อง ‘ช่วยด้วย’ หลังเวลาสี่ทุ่ม แต่เพราะฝนตกหนักมากจนไม่มีทางช่วยเหลือ ทำได้แค่ตะโกนบอกให้ว่ายน้ำชิดฝั่งเท่านั้น”
นายโจว ลู่หวัง ชาวบ้านรายหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำแยงซี ระบุว่ารัฐบาลท้องถิ่นเรียกชาวบ้านไปเตือนเรื่องสภาพอากาศเป็นอันตรายในคืนวันที่เรือล่มด้วย โดยเขาเชื่อว่าแม้คนพวกนั้นจะเชี่ยวชาญเรื่องเดินเรือ แต่อากาศวันนั้นมันแย่กว่าปกติ”
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมตัวกัปตันและหัวหน้าวิศวกรประจำเรืออีสเทิร์น สตาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของผู้รอดชีวิตกลุ่มแรก ไปสอบปากคำอย่างละเอียดแล้ว ขณะเดียวกันผลการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า เรือไม่ได้บรรทุกผู้โดยสารเกินอัตรากำหนด และเสื้อชูชีพก็มีเพียงพอกับจำนวนผู้โดยสารบนเรือ
แต่บรรดาญาติและครอบครัวของผู้สูญหายซึ่งตกอยู่ในความเศร้าโศก ยังคงไม่พอใจกับการแจ้งข้อมูลรายละเอียด แห่รวมตัวกันด้านนอกสำนักงานของเอเจนซีท่องเที่ยวเซี่ยเหอที่เป็นผู้จัดทัวร์ดังกล่าว โดยวันนี้พวกเขาตั้งขบวนเดินไปยังสำนักงานรัฐบาลกลางที่มีตำรวจคุมเข้มในนครเซี่ยงไฮ้อีกด้วย
เรืออีสเทิร์น สตาร์ ที่หมายถึงดาวแห่งบูรพาทิศ เป็นเรือโดยสารเพื่อการท่องเที่ยวของบริษัทฉงชิ่ง อีสเทิร์น ชิปปิ้ง คอร์เปอเรชั่น ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2510 และเน้นทำธุรกิจนำเที่ยวย่านเขื่อนสามผาของจีน โดยเรือมีขนาด 4 ชั้น ยาว 76.5 เมตร กว้าง 11 เมตร และลึก 3.1 เมตร สามารถบรรทุกผู้โดยสารสูงสุด 534 คน
ในวันเกิดเหตุมันแล่นมาจากนครหนันจิง เมืองเอกของมณฑลเจียงซู มุ่งหน้าสู่มหานครฉงชิ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ โดยบรรทุกผู้โดยสารรวม 458 คน แบ่งเป็นลูกเรือ 47 คน ไกด์ทัวร์ 5 คน และนักท่องเที่ยวจีน 406 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุวัย 60-80 ปี ส่วนเด็กสุดอายุเพียงสามปี
“วานนี้ผมยังพอมีความหวังอยู่ลึกๆ ในใจ เพราะเรือก็ใหญ่และน้ำคงไม่ได้ทะลักเข้าหมดทุกทาง แต่ตอนนี้ที่ผ่านมามากกว่า 40 ชั่วโมง … ยังเหลืออะไรให้ผมหวังได้อีกหรอ?” หวัง เฟิง วัย 35 ปี ชายจีนที่บิดาร่วมเดินทางบนเรืออีสเทิร์น สตาร์ กล่าวอย่างโศกเศร้า