เอเจนซีส์ - หน่วยกู้ภัยของจีนฝ่าฟันสภาพอากาศเลวร้ายเมื่อวันอังคาร (2 มิ.ย.) เพื่อค้นหาผู้ที่ยังสูญหายกว่า 400 คน ส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุ หลังจากเรือท่องเที่ยวลำหนึ่งพลิกคว่ำจมอยู่ในแม่น้ำแยงซีเกียงในคืนวันจันทร์ (1) ถือเป็นโศกนาฏกรรมการเดินเรือครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบเกือบ70 ปีของจีน
ตามรายงานของสำนักข่าวซินหวาของทางการจีน จนถึงช่วงเย็นวันอังคาร ถึงแม้นักประดาน้ำและเจ้าหน้าที่กู้ภัยอื่นๆ จะใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละ แต่ก็ช่วยผู้ที่ติดอยู่ในเรือท่องเที่ยว “ตงฟางจือซิง” หรือ “อีสเทิร์นสตาร์” ออกมาได้เพียง 15 คน และกู้ศพออกมาได้ 6 ศพ
จำนวนดังกล่าวยังเป็นเพียงเศษเสี้ยวของผู้โดยสารและลูกเรือรวม 458 คนที่มีรายงานว่าอยู่บนเรือลำนี้ที่พลิกคว่ำและจมอย่างรวดเร็วท่ามกลางพายุหนักในคืนวันจันทร์ ขณะแล่นอยู่ในเส้นทางระหว่างนครหนานจิง (นานกิง) ทางด้านตะวันออกของประเทศ ไปยังนครฉงชิ่ง ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของแดนมังกร ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมของแม่น้ำยาวที่สุดของแดนมังกรสายนี้
สำนักข่าวซินหวารายงานว่า หน่วยกู้ภัยได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือจากในเรือ และภาพข่าวทีวีเผยให้เห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามใช้เครื่องเจียรลมตัดลำตัวเรือเพื่อนำคนเหล่านั้นออกมา
ซินหวายังบอกว่า นักประดาน้ำสามารถดึงหญิงวัย 65 ปีผู้หนึ่งจากเรือท่องเที่ยว 4 ชั้นความยาว 250 ฟุต (76.5 เมตร) ลำนี้ออกมาอย่างปลอดภัย
สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของจีน (ซีซีทีวี) รายงานว่า หลังจากที่เรืออีสเทิร์นสตาร์ อัปปางในแม่น้ำแยงซีเกียง บริเวณซึ่งอยู่ในท้องที่อำเภอเจี้ยนลี่ ของมณฑลเหอเป่ยแล้ว ก็ได้ลอยขึ้นมาในสภาพพลิกคว่ำที่จุดห่างออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร
เรือกู้ภัยหลายสิบลำ รวมถึงเรือประมง ต่างฝ่าฟันกระแสลมและสายฝนเพื่อไปยังเรือที่ลอยขึ้นมาใหม่ โดยบริเวณนั้นมีความลึกราว 15 เมตร นอกจากนี้ยังมีการส่งตำรวจกว่า 1,000 คนลงเรือยาง 40 ลำไปยังเรืออีสเทิร์นสตาร์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายคนกำลังประเมินสถานการณ์ว่า สามารถพลิกเรือกลับได้หรือไม่
เรือลำนี้ที่รองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 500 ลำ ประสบอุบัติเหตุเมื่อเวลาประมาณ 21.38 น. ของวันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่นของจีน
อุบัติเหตุร้ายแรงระดับนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนักในจีน ซึ่งใช้แม่น้ำสำคัญสายนี้เป็นเส้นทางขนส่งและท่องเที่ยว โดยที่ก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคมปีนี้ ได้เกิดเหตุเรือล่มในแม่น้ำแยงซี มีผู้เสียชีวิต 22 คนจาก 25 คนที่อยู่บนเรือ
อุบัติเหตุทางเรือครั้งร้ายแรงที่สุดของจีนเกิดขึ้นในปี 1948 เมื่อเรือกลไฟเคียงหยา ระเบิดในแม่น้ำหวงผู่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน
สำหรับโศกนาฏกรรมครั้งนี้อาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่าเหตุการณ์เรือเฟอร์รี “เซวอล” ล่มในเกาหลีใต้เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 304 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนที่เดินทางไปทัศนศึกษา
หนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้า (พีเพิลส์ เดลี่) ที่เผยแพร่รายชื่อผู้โดยสารบนไมโครบล็อก ระบุว่า ผู้ที่อยู่บนเรืออีสเทิร์นสตาร์ มีอายุตั้งแต่ 3-80 ปี ประกอบด้วยนักท่องเที่ยว 406 คน, ลูกเรือ 47 คน และไกด์ทัวร์ 5 คน
กัปตันและหัวหน้าวิศวกรประจำเรือ ซึ่งได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย ถูกตำรวจควบคุมตัวเพื่อสอบปากคำ โดยทั้งคู่เผยว่า เรืออัปปางอย่างรวดเร็วหลังเผชิญพายุทอร์นาโด สอดคล้องกับรายงานของสถานีวิทยุแห่งหนึ่งที่ระบุว่า เรือพลิกคว่ำภายใน 2 นาทีโดยไม่มีการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ แต่ผู้อยู่ในเรือ 7 คนได้ว่ายน้ำขึ้นไปแจ้งเหตุบนฝั่ง
จาง ฮุ่ย ไกด์ทัวร์วัย 43 ปีซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่อยู่บนเรือและรอดชีวิตมาได้ เล่าให้ซินหวาฟังว่า ได้เกิดฝนตกหนักมากจนกระทั่งท่วมเข้าไปตามห้องของผู้โดยสารตั้งแต่หลัง 21.00 น.เล็กน้อย
“ฝนเทกระหน่ำลงมาทางกราบขวาของเรือ ห้องจำนวนมากถูกน้ำท่วม” ซินหวารายงานคำบอกเล่าของจาง “แม้กระทั่งหน้าต่างปิดอยู่ น้ำก็ยังรั่วซึมเข้ามา”
สำนักข่าวซินหัวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า เรือไม่ได้บรรทุกน้ำหนักเกินและมีเสื้อชูชีพเพียงพอสำหรับผู้โดยสาร ขณะที่ซีซีทีวีระบุว่า มีฝนตกวัดปริมาณน้ำฝนได้ 6 นิ้ว (150 มิลลิเมตร) ในบริเวณที่เกิดเหตุในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ทางด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สั่งการให้ทำการค้นหาและกู้ภัยอย่างเต็มที่ ขณะที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง เดินทางไปยังที่เกิดเหตุในมณฑลหูเป่ย
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า บรรดาญาติพี่น้องของผู้โดยสารและลูกเรือราว 60 ครอบครัว ไปรวมตัวหน้าบริษัททัวร์แห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นเมืองที่ผู้โดยสารจำนวนมากไปจองตั๋วเรือ และบางส่วนปะทะกับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากไม่พอใจที่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลความคืบหน้าเกี่ยวกับผู้โดยสารบนเรือ