รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อจีนและต่างประเทศต่างย้อนนำบทความประเด็นที่แสดงถึงวิสัยทัศน์อันแจ่มชัดลึกซึ้งของ ลี กวนยู รัฐบุรุษผู้นำพาสิงคโปร์สู่ความรุ่งเรืองตลอดสามทศวรรษ จนกระทั่งอสัญกรรมในวัย 91 ปี เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในความแหลมคมที่มองออกก่อนใครๆ ว่า เติ้งเสี่ยวผิงจะเป็นผู้พลิกชะตากรรมของจีนสำเร็จ และจีนจะก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจมีอิทธิพลต่อโลกในภายหน้า
สื่อต่างประเทศ (25 มี.ค.) ระบุว่า ลี กวนยู เป็นบุคคลที่ฉลาดล้ำลึก และมีศิลปะในการชนะมิตรผูกใจคน ซึ่งรวมทั้งการชนะใจผู้นำจีนด้วย โดยลีกวนยู เป็นผู้นำคนเดียวในโลกที่เห็นราศีเจิดจรัสของจีนมาตั้งแต่ยุคเริ่มต้นเปิดประเทศของผู้นำเติ้งเสี่ยวผิง เมื่อกว่า 30 ปีก่อน อีกทั้งมีบันทึกที่แสดงถึงการยืนยันอย่างเชื่อมั่นว่า เติ้งเสี่ยวผิงจะเป็นผู้พลิกชะตากรรมของจีนสำเร็จ และจีนจะก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจมีอิทธิพลต่อโลกในภายหน้าซึ่งกำลังเป็นที่ประจักษ์ชัดในปัจจุบันนี้
ภายใต้การบริหารประเทศสิงคโปร์ด้วยวิสัยทัศน์หยั่งเห็นอนาคตโลกเช่นนี้ สิงคโปร์จึงเป็นประเทศที่สามารถวางตัวได้อย่างสมดุล ผูกสัมพันธ์กับมหาอำนาจโลกทั้งสองขั้ว ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้อย่างแน่นแฟ้น
ลี กวนยู (李光耀) เป็นนักการเมืองชาวสิงคโปร์อีกทั้งยังเป็นนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์คนแรกซึ่งปกครองประเทศเป็นเวลาสามทศวรรษ เขาได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นบิดาผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์สมัยใหม่ เกิดเมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2466 (ค.ศ. 1923) แม้จะเติบโตและได้รับการศึกษาที่ “Raffles College” ปลูกฝังแนวความคิดตามแบบชาวตะวันตกเต็มหัว แต่ก็มีรากเหง้าเลือดเนื้อเชื้อชาติจีนอยู่ในตัวเช่นเดียวกัน บิดาของเขาเป็นชาวจีนอพยพรุ่นที่ 3 มีปู่ทวดเป็นชาวจีนที่อพยพมาจากมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาซึมซับค่านิยมและคุณธรรมขงจื่อมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต สร้างอนาคต และปกครองบริหารด้วยเช่นกัน และสิ่งนี้เองที่ถูกคอ คุยเข้าใจกันกับบรรดาผู้นำจีนตลอดยุคสมัยที่ผ่านมา
ลี กวนยู ยังอาจจะเป็นผู้นำโลกคนเดียว ที่ได้มีประสบการณ์ร่วมกับพบปะหารือ สร้างสัมพันธ์กับผู้นำสูงสุดของจีนมาแล้วทั้ง 5 คน ตั้งแต่ ประธานเหมาเจ๋อตง, เติ้งเสี่ยวผิง, เจียงเจ๋อหมิน, หู จิ่นเทา และล่าสุด ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
ทัศนะต่ออนาคตจีนฯ ของลี กวนยูนี้ เป็นวิสัยทัศน์ที่แม้กระทั่งบรรดาผู้นำชาติตะวันตกยังไม่เท่าทัน และด้วยความเข้าใจล่วงหน้าตรงนี้ ลี กวนยู จึงเป็นหนึ่งในผู้นำต่างชาติคนแรกๆ ที่เดินทางไปจีนเข้าพบประธานเหมาเจ๋อตงหลังมรณกรรมของโจวเอินไหล ในปี 1976 จากมิตรภาพนี้เอง จึงทำให้เติ้ง เสี่ยวผิง ผลัดไปเยือนสิงคโปร์บ้างในปี 1978 พร้อมกันนั้นยังได้เข้าเยี่ยมชมศึกษาการพัฒนานิคมเศรษฐกิจของสิงคโปร์เพื่อปรับใช้ในจีนด้วย
ในครั้งที่เยือนสิงคโปร์นั้น เติ้งเสี่ยวผิง กล่าวกับ ลี กวนยู ว่า "ถ้าจีนมีเพียงเซี่ยงไฮ้ เมืองเดียว ก็คงเปลี่ยนแปลงพลิกฟื้นได้อย่างรวดเร็ว แต่ความจริงคือแผ่นดินจีนช่างกว้างใหญ่ไพศาลนัก"
ลี กวนยู ได้ฟังก็ตอบว่า ประชากรชาวสิงคโปร์ก็เป็นชาวจีนอพยพ อะไรที่สิงคโปร์ทำได้ จีนก็ย่อมทำได้ และทำได้ดีกว่าด้วย นอกจากนั้น ยังได้แสดงความเชื่อมั่นว่าเติ้ง เสี่ยวผิงจะชนะความท้าทายใหญ่หลวงที่แบกรับได้
ความเชื่อมั่นในรูปแบบการพัฒนาของสิงคโปร์นั้นมีอยู่เต็มเปี่ยมในผู้นำจีน โดยแม้เวลาผ่านล่วงมานับสิบปี เติ้ง เสี่ยวผิงยังคงได้กล่าวย้ำกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น (เมื่อครั้งตระเวนตอนใต้ของจีน เดือนกุมภาพันธ์ 1992) ปลุกเร้าให้มณฑลกวางตุ้ง เร่งพัฒนาความเจริญไล่ตามและเรียนรู้ประสบการณ์จากมังกรเอเชียอย่างสิงคโปร์
นอกจากลี กวนยู จะได้ใจผู้นำจีนในด้านมุมมองทัศนะการบริหาร เขายังชนะใจผู้นำจีนด้วยการแสดงความเห็นทางด้านการเมืองของจีนด้วยเช่นกัน ลี กวนยู ตระหนักถึงขนาดของปัญหาที่ผู้นำจีนต้องแบกรับ เขาจึงเข้าใจและไม่อดทนกับความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญการเมืองฝั่งตะวันตก ที่วิจารณ์การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ลี กวนยู ได้เห็นตัวอย่างความล่มสลายของสหภาพโซเวียต ครั้งที่เปลี่ยนระบอบการปกครอง เขาจึงปฏิเสธแนวคิดบางอย่างของตะวันตก รวมถึงความคิดที่จะนำรูปแบบประชาธิปไตยของตะวันตกมาใช้อย่างเบ็ดเสร็จ โดยว่า แนวคิดหนึ่งคน-หนึ่งเสียงอาจจะไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงสำหรับประเทศจีน ซึ่งมีประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน นอกจากนั้นความอยู่รอดของจีนหลังเหตุการณ์เทียนอันเหมินในทศวรรษ 1990 ขณะที่แผ่นดินสหภาพโซเวียตล่มสลาย ทำให้ยิ่งเชื่อมั่นว่าจีนจะเป็นผู้ทาบรัศมีสหรัฐฯ ในสถานะมหาอำนาจผู้โดดเด่นในเอเชีย และกระทั่งโลก
รายงานข่าวยังระบุว่า บรรดาผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน เล็งเห็นเป้าหมายรูปแบบการปกครองประชาธิปไตยโดยผู้นำที่มีคุณธรรม รักชาติอย่างสิงคโปร์เป็นตัวอย่าง และด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจนี้เอง จึงทำให้สิงคโปร์ยังสามารถเป็นมิตรที่มีสัมพันธ์แนบแน่นกับจีน พร้อมจะเดินก้าวสู่อนาคตศูนย์กลางการค้าการเงินสกุลหยวนนอกประเทศจีนที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากฮ่องกง ขณะเดียวกันก็แยกแยะกิจการระหว่างประเทศเป็นพันธมิตรที่ดีของสหรัฐฯ ได้ ทั้งหมดนี้ล้วนมาจากวิสัยทัศน์หยั่งรู้แม่นยำ ก้าวไกล ก้าวข้ามของลี กวนยู นั่นเอง