xs
xsm
sm
md
lg

ชาวเน็ตฯ จีนเผยภาพ พฤติกรรมนักท่องเที่ยวฝรั่งเหมาะสมหรือไม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักท่องเที่ยวต่างชาติคนหนึ่ง กำลังยืนปัสสาวะบนกำแพงเมืองจีนซึ่งเป็นมรดกโลก ขณะที่โบราณสถานแห่งนี้ จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งซึ่งประสบปัญหาเต็มไปด้วยกองขยะ เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวหลากหลายชาติพากันตั้งแคมป์ตอกหมุดตามก้อนหินโบราณ ค้างแรมดูพระอาทิตย์ขึ้นตามป้อมกำแพง พร้อมกับทิ้งความอุจาดสกปรกไว้ (ภาพไชน่าเดลีฟอรั่ม)
เอเจนซี - ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจีนเผยภาพนักท่องเที่ยวต่างชาติในจีน ลงใน ไชน่าเดลี ฟอรั่ม (1 ม.ค.) โดยตั้งคำถามถึงพฤติกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติว่าเหมาะสมหรือไม่

ชาวเน็ตฯ จีน ก็เช่นเดียวกับคนจีนอีกหลายคนที่ไม่พอใจกับพฤติกรรมของบรรดานักท่องเที่ยวชาวจีนที่ไปแสดงออกทั้งภายในและนอกประเทศ และพยายามรณรงค์ภายใต้วิสัยทัศน์ ความฝันของจีน China Dream หลังข่าวคราวในด้านลบ ทะยอยส่งผลต่อภาพลักษณ์ของชาวจีนกับชาวโลก แต่ก็ไม่ปรารถนาให้ความเกลียดชังนี้ รุนแรงเกินเลย ขนาดอาจนำไปสู่ความรังเกียจเหยียดผิวด้วยว่าทุกชาติก็ย่อมมีเรื่องราวเช่นนี้ และนักท่องเที่ยวจีนก็คงต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ที่จะปรับตัว

เมื่อปีที่แล้ว ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ตำหนิพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีน ระหว่างพบปะกับเจ้าหน้าที่สถานทูตและตัวแทนบริษัทของจีนเมื่อคราวเยือนประเทศมัลดีฟส์ วันที่ 15 ก.ย. ด้วยลีลาการพูดติดตลก ฟังกันเล่น ๆ ขำ ๆ แต่ตรงประเด็น

“ ขอผมขัดจังหวะ และพูดอะไรบางอย่างทีนี่สักหน่อย … เราควรให้ความรู้แก่พลเมืองของเราให้ทำตัวเป็นผู้มีวัฒนธรรมเวลาเดินทางไปต่างประเทศ” ประธานาธิบดีสีกล่าวท่ามกลางเสียงหัวเราะและเสียงปรบมือลั่น

“ จงอย่าทิ้งขวดน้ำเกลื่อนกลาด อย่าไปทำลายแนวปะการังของเขา กินบะหมี่สำเร็จรูปให้น้อยลง และกินอาหารทะเลในท้องถิ่นให้มากขึ้น” ไชน่านิวส์เซอร์วิสรายงานคำพูดของผู้นำแดนมังกรในค่ำคืนนั้น

ประธานาธิบดีสียังกล่าวต่อไปว่า พลเมืองจีนไปเที่ยวเมืองนอกกันถึงราวปีละ 100 ล้านครั้ง และคาดว่าจะมาเที่ยวมัลดีฟส์ถึงประมาณ 4 แสนครั้งในปีนี้ โดยเนื่องจากชาวจีนรวยขึ้น สถานที่ที่ชาวจีนเดินทางไปจึงเหมือนกับน้ำหมึก ที่ซึมซ่านจากชาติเอเชียเพื่อนบ้านไปยังสถานที่ที่ไกลกว่าในยุโรป สหรัฐฯ และออสเตรเลีย

นอกจากนั้น ประธานาธิบดีสียังขอให้ชาวจีน ซึ่งอาศัยที่มัลดีฟส์ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศชาติ ขณะที่บริษัทรับเหมาของจีนเองก็ควรสร้างโครงการต่าง ๆ ที่คงทนต่อการทดสอบของกาลเวลา

ในประเด็นนักท่องเที่ยวจีนนี้ เหลียว ผาน นักศึกษาชาวจีนในมหาวิทยาลัยนิวยอร์ค เคยกล่าวยอมรับพฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้ของนักท่องเที่ยว แต่กระนั้นในส่วนอื่นๆ ก็ยังมีมุมที่พอจะอธิบายให้เกิดความเข้าใจต่อกันได้ อย่างแรกคือ การเดินทางท่องเที่ยวของชาวจีน โดยเฉพาะในต่างแดน นับเป็นประสบการณ์ที่อาจจะเป็นครั้งเดียวในชีวิตของพวกเขา เพราะต้องใช้เวลาเก็บออมเงินเพื่อค่าใช้จ่ายเหล่านี้นานมาก แต่น่าเสียดายว่าแม้พวกเขาจะประทับใจในสถานที่ที่ไปเที่ยว แต่กลับไม่รู้ตัวว่า เจ้าบ้านรู้สึกไม่ประทับใจพวกเขาเลย

นอกจากนั้น เรื่องที่สองคือ การท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่จะอนุญาตหรือนิยมในลักษะการท่องเที่ยวแบบกลุ่มมากกว่าการท่องเที่ยวเพียงลำพัง ซึ่งมีความสำคัญมากในเชิงจิตวิทยาพฤติกรรม เพราะการอยู่ร่วมเป็นกลุ่ม จะทำให้มีความรู้สึกกดดันจากสภาพแวดล้อมใหม่น้อยกว่า จนทำให้ไม่รู้สึกถึงความแตกต่างว่าต้องปรับตัวอะไร

เรื่องที่สาม คือ ความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงของวัฒนธรรมตะวันตก - ตะวันออกที่เห็นได้ชัดคือวัฒนธรรมการกิน และสภาพการใช้ชีวิตในถิ่นของตน ซึ่งจะกลายเป็นความแปลกแยกทันทีเมื่ออยู่ต่างถิ่น และคงเป็นไปได้ยากที่จะเห็นชาวจีนนั่งกินอาหารในห้องอาหารอิตาลี ในจริตแบบชาวตะวันตก

บรรดาผู้เชี่ยวชาญการท่องเที่ยว จึงเปรียบว่า นักท่องเที่ยวจีนโดยเฉพาะในยุคแรกๆ นี้ ก็คงเป็นด้านสวนทางกันของนักท่องเที่ยวสหรัฐฯ นั่นเอง ในช่วง 10 ปีมานี้ เศรษฐกิจจีนเติบโตเร็วมาก ถึงขนาดแซงสหรัฐฯ และเยอรมนีไปแล้ว ขนาดเงินของจีนก็ใหญ่ขึ้น ไปที่ไหนก็เห็นแต่ชาวจีน และข้อมูลป้ายท่องเที่ยวที่มีภาษาจีน เคียงคู่ภาษาอังกฤษ ที่คือสิ่งที่เกิดขึ้น เพียงแต่ว่า นักท่องเที่ยวจีนอาจจะสร้างหรือทำลายความรู้สึกที่ดีต่อภาพลักษณ์ของชนชาติจีนได้มากกว่า ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในเชิงปริมาณ ซึ่งในเรื่องนี้ นายหวัง หยาง รองนายกรัฐมนตรี เคยออกโรงมาแถลงเมื่อวันที่ 15 พ.ค. หลังจากได้มีกระแสต่อต้านนักท่องเที่ยวจีนบ้างแล้วในพื้นที่ต่างๆ ของโลก โดยกล่าวว่า นิสัยไม่ดีของนักท่องเที่ยวจีนถึงที่สุดแล้ว จะเป็นผลเสียต่อบุคคลนั้นๆ โดยจะไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากเจ้าบ้าน แต่ที่แย่คือ มันทำให้เกิดการเหมารวมฯ อันส่งผลเสียต่อส่วนรวม ทั้งนี้ เขาเห็นว่า ทั้งหมดเป็นเพราะคุณภาพการศึกษาอบรมมารยาทสังคม และย้ำว่า การดัดนิสัยเสียเหล่านี้เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลเช่นกัน

ในการนี้ รัฐบาลจึงได้ประกาศกฎหมายการท่องเที่ยว ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคมนี้ โดยมีบทลงโทษ และให้อำนาจหน่วยงานท่องเที่ยวในการลงโทษปรับ ผู้ฝ่าฝืนข้อกำหนดต่างๆ ซึ่งจะเริ่มต้นกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศ ด้วยความหวังว่า ในที่สุดแล้ว จะค่อยๆ สร้างความตระหนักรู้ให้เกิดขึ้นในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีนได้ในที่สุด

ด้านชาวเน็ตฯ จีนก็เลยนำภาพพฤติกรรมซึ่งไม่น่าดู ไม่น่าทำ นำนิสัยที่บ้านไปใช้ที่บ้านคนอื่นของชาวตะวันตกแต่ไม่มีใครว่า มาเผยในไชน่าเดลี ฟอรั่มเพื่อแสดงความคิดเห็นบ้างเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในฟอรั่มดังกล่าว ก็มีชาวเน็ตฯ ตะวันตกหลายคนออกมาแย้งกลับว่า หลายพฤติกรรมของชาวตะวันตกนั้น เช่น การใส่รองเท้าเดินในบ้าน การเอาเท้าเหยียบพนักเก้าอี้ตัวอื่น เป็นสิ่งที่พวกเขาก็ทำกันเหมือนอยู่บ้านปกติ ไม่ใช่พฤติกรรมอันไม่สมควรแต่อย่างไร





















กำลังโหลดความคิดเห็น