“ป่าเถื่อน...” ผู้นำจีนก็สุดทน...กรณีนักท่องเที่ยวจีนสาดน้ำร้อนลวกแอร์โฮสเตส ขู่บึ้มเที่ยวบินแอร์เอเชีย

ASTVผู้จัดการออนไลน์--กระแสข่าวพฤติกรรม “ไร้อารยะ” ของนักท่องเที่ยวจีน ตกเป็นข่าวฮือฮามาเป็นระยะถี่ๆ ทั้งพฤติกรรมที่ถูกตราหน้าว่าไร้มารยาท อย่างเรื่องการพูดคุยโหวกเหวก โวยวายเสียงดัง ไม่สำรวมฯ แซงคิว การพาลูกเล็กเด็กแดงถ่ายหนักเบาไม่เป็นที่เป็นทาง เป็นต้น กระแสข่าวฯดังกล่าวร้อนฉ่าขึ้นอีก ครานี้ดังเปรี้ยงปร้างผ่ากลางใจผู้นำจีน และเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายจีนเองออกมาแถลง “ลงโทษให้เข็ดขยาด” ต่อลูกบ้านของตน ที่กระทำการ “ป่าเถื่อน”...

กรณีดังระเบิดเถิงเทิงเรื่องพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนล่าสุดอุบัติเมื่อบ่ายวันที่ 12 ธ.ค. เที่ยวบินเหมาลำของสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD9101 ซึ่งมีผู้โดยสารนักท่องเที่ยวจีน 174 คน ลูกเรือ 6 คน บินจากกรุงเทพฯไปยังนครหนันจิง (นานกิง) มณฑลเจียงซู เครื่องบินบินขึ้นจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองไม่ทันไร ผู้โดยสารจีนชายหญิงวัยกว่า 20 ปีคู่หนึ่ง ที่ชาวเน็ตจีนเรียก “คู่รักติงต๊อง” ก็เริ่มแผลงฤทธิ์ โวยวายเรื่องไม่ได้ที่นั่งติดกัน แอร์โฮสเตสก็จัดให้ตามความต้องการ

จนเมื่อถึงเวลาเสิร์ฟอาหารเย็น นักท่องเที่ยวจอมโวยคนเดิมอยากกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรือ “มาม่า” ซึ่งอยู่ในรายการอาหารที่ต้องซื้อ นักท่องเที่ยวควักมาม่าตัวเองออกมาหรือซื้ออย่างไรไม่ทราบแน่ชัด ตามรายงานข่าวของ เดอะ เป่ยจิง ไทม์ส เผยในวันจันทร์(15 ธ.ค.) ระบุผู้โดยสารจีนได้ขอน้ำร้อนมาต้มมาม่า และเกิดปัญหากัน ผู้โดยสารชายโมโหที่พนักงานต้อนรับยืนยันว่าจะทอนเงินค่าน้ำร้อนเป็นสกุลเงินบาทเมื่อเขาขอเงินทอนเป็นเงินหยวนพร้อมใบเสร็จ แม่สาวคนรักก็เข้าร่วมด้วยช่วยป่วน สาดน้ำร้อนต้มมาม่าใส่หน้าของแอร์โฮสเตส

หัวหน้าพนักงานต้อนรับขอให้ผู้โดยสารหญิงขอโทษแอร์ฯสาวฯที่เธอสาดน้ำร้อนใส่ มิฉะนั้น เครื่องบินจะบินกลับกรุงเทพฯ แต่หญิงจีนไม่ยอมขอโทษ แถมสติแตกร้องจะฆ่าตัวตาย ทั้งผู้โดยสารชายยังขู่อีกว่าจะระเบิดเครื่องบิน เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ไม่อยู่ กัปตันจึงนำเครื่องกลับลำมายังสนามบินดอนเมือง

เจ้าหน้าที่ตำรวจรุดมาควบคุมตัวผู้โดยสารจีนเจ้าปัญหา ผู้โดยสารหญิงที่สาดน้ำร้อนใส่แอร์โฮสเตส ถูกสั่งให้จ่ายค่าชดเชยแก่คู่กรณี 50,000 บาท และโดนเจ้าหน้าที่ปรับอีก 200 บาท โทษฐานก่อเหตุวุ่นวายฯ

นักท่องเที่ยวจีนในเที่ยวบินเจ้ากรรม บ่น “ซวย” ไปตามๆกัน หลังจากนั้น ภาพถ่ายเหตุวุ่นวาย พร้อมโปรยข้อความ “นักท่องเที่ยวจีนสาดน้ำร้อนลวกแอร์โฮสเตส ขู่บึ้มเครื่องบิน ขู่ฆ่าตัวตาย...” ก็กลายเป็นข่าวฮือฮาในสื่อสังคมออนไลน์แดนมังกร ชาวจีนหลายคนครวญอับอายทั่วฟ้าดิน สื่อทั้งในประเทศจีนและต่างประเทศเสนอข่าวฯนี้ต่อเนื่องข้ามสัปดาห์

ผู้ปกครองจีนดูทั้งกลุ้มหนักทั้งโกรธจัดที่ลูกบ้านเที่ยวไปก่อเรื่องถึงขั้นทำร้ายร่างกายชาวต่างชาติ ถึงกับประณามกลุ่มนักท่องเที่ยวจอมป่วนนี้ ว่า“ป่าเถื่อน” (barbarians) ผ่านบทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์พากย์ภาษาอังกฤษ ไชน่า เดลี่ ซึ่งเป็นกระบอกเสียงหลักของรัฐบาลจีน

“พวกเขาคิดว่าการกระทำป่าเถื่อนแบบนั้น จะทำให้ได้สิ่งที่ต้องการ จนลืมความมีอารยะที่ควรปฏิบัติกับมนุษย์อย่างเท่าเทียม” ข้อความในบทบรรณาธิการไชน่า เดลี่ ระบุ

ด้านคณะกรรมการดูแลการท่องเที่ยวแห่งรัฐของจีน กล่าวถึงกลุ่มผู้โดยสารจีนที่ก่อเรื่องวุ่นวายและถูกเจ้าหน้าที่ไทยปรับไปนั้น ว่า “ก็ต้องถูกลงโทษอย่างหนัก” และโดนขึ้นบัญชีดำ “นักท่องเที่ยวที่ไร้ระเบียบวินัย”

ในวันจันทร์(15 ธ.ค.) สำนักงานการท่องเที่ยวประจำมณฑลเจียงซู ออกมาแถลงว่าทางสำนักงานฯกำลังยื่นเรื่องไปยังสมาคมการท่องเที่ยวประจำมณฑล ให้ขึ้นบัญชีดำกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ก่อเรื่องวุ่นวายนี้ นอกจากนี้ยังได้ระงับใบอนุญาตบริษัทจัดโปรแกรมท่องเที่ยวแก่กรุ๊ปทัวร์ที่นำความอับอายขายหน้าแก่ประเทศชาติกลุ่มนี้ เป็นเวลา 1 ปี

กว่า 30 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนรุ่งโรจน์จนมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ชาวจีนมั่งคั่งออกเที่ยวยังต่างแดน กลายเป็นตลาดนักท่องเที่ยวใหญ่สุดของโลก ตามข้อมูลการท่องเที่ยว เผยว่า ปี 2555 มีนักท่องเที่ยวจีน มากกว่า 83 ล้านคน เดินทางออกนอกประเทศไปเที่ยวทั่วโลก แต่พฤติกรรม “ไร้อารยะ” ของนักท่องเที่ยวจีน ก็ได้ตกเป็นข่าวบ่อยๆ จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากนานาประเทศ รวมถึงการส่งจดหมายร้องเรียนถึงรัฐบาลจีนให้อบรมประชาชนในเรื่องมารยาททางสังคม

หลายปีมานี้ จีนพยายามสร้างระเบียบจรรยามารยาทสังคมแก่ประชาชน มีการกำหนดวันเข้าแถว วันเข้าคิว วันเอื้อเฟื้อ ไปถึงการจัดชั้นเรียนอบรมสมบัติผู้ดี... และในปีที่แล้วรัฐบาลจีนก็ได้ออกกฎหมายว่าด้วยการท่องเที่ยวฉบับแรกฉลองวันชาติ โดยมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2556 เพื่อปรับปรุงพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีน โดยมีบทลงโทษ และให้อำนาจหน่วยงานท่องเที่ยวในการลงโทษปรับ

...ย้อนดูในประวัติศาสตร์จีนยุคโบราณ จีนเป็นชาติพี่ใหญ่ที่หยิ่งทระนงในความเป็นอารยประเทศ มีวัฒนธรรม แบบแผน จารีต พิธีกรรมอันสูงส่ง

อาจารย์กัว เสี่ยวชงแห่งภาควิชาการเผยแพร่และวัฒนธรรมของสถาบันศึกษาการระหว่างประเทศ ได้เล่าว่า ในยุคราชวงศ์ถัง ราชวงศ์ซ่ง และราชวงศ์หมิง ที่ล่วงเลยมากว่าพันปี ชนชาติจีนนั้นได้ชื่อว่าเป็นจ้าวแห่งขนบประเพณีอันสูงส่ง จากบันทึกประวัติศาสตร์จีน ระบุว่าในยุคถังและซ่ง เมื่อพ่อค้าจีนออกไปค้าขายในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ได้รับการต้อนรับให้เกียรติอย่างสูงในฐานะสุภาพชนผู้เพียบพร้อมด้วยขนบประเพณี ถึงขนาดได้รับการยกเว้นค่าที่พัก ทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีต่างก็เลียนแบบเจริญรอยตามจีน รับแบบแผนพิธีกรรมขงจื่อไปใช้....

และเหตุไฉน นักท่องเที่ยวจีน จึงตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ “ไร้อารยะ” ไปเสียนั่น...?