เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - แดนมังกรนับถอยหลังเลิกตักตวง “อวัยวะ” จากนักโทษประหารภายในปีหน้า
เซาท์เทิร์น เมโทรโปลิส นิวส์ สื่อท้องถิ่นจีน อ้างคำกล่าวของดร.หวง เจี้ยฝู อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าคณะกรรมการบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะแห่งชาติจีน ระบุว่า “การปลูกถ่ายอวัยวะในอนาคตข้างหน้าจะต้องได้รับชิ้นอวัยวะจากผู้สมัครใจบริจาคให้เท่านั้น”
หมอหวงซึ่งนั่งเป็นประธานการประชุม ณ นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน เมื่อวันพุธ (3 ธ.ค.) ที่ผ่านมา กล่าวว่า ปัจจุบันศูนย์ปลูกถ่ายอวัยวะหลายแห่งในประเทศได้ยุติการใช้อวัยวะจากนักโทษที่ถูกพิพากษาประหารชีวิตแล้ว โดยจะดำเนินการยกเลิกอย่างสมบูรณ์ภายในปี 2558
ทั้งนี้ บรรดากลุ่มนักกิจกรรมเพื่อสิทธิมนุษยชนระดับนานาชาติต่างวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดว่า จีนมีพฤติกรรมริดรอนสิทธิความเป็นมนุษย์ของนักโทษประหาร ด้วยการตักตวงอวัยวะภายในจากร่างกายของพวกเขาอย่างมิชอบธรรม
จีนเป็นประเทศที่มีอัตราการบริจาคอวัยวะต่ำที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยสำรวจพบสัดส่วนผู้บริจาค 0.6 คน ต่อจำนวนประชากรหนึ่งล้านคน ที่ลงนามยินยอมมอบอวัยวะเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์หลังจากเสียชีวิต แตกต่างจากประเทศสเปนที่มีสัดส่วนผู้บริจาคสูงถึง 37 คน ต่อจำนวนประชากรหนึ่งล้านคน
แต่ละปีจีนมีการปลูกถ่ายอวัยวะราว 10,000 ชิ้น และมีผู้ป่วยเฝ้ารอรับการบริจาคอวัยวะเพื่อต่อลมหายใจกว่า 300,000 คน ขณะที่ทั้งประเทศปรากฏโรงพยาบาลแค่ 169 แห่งเท่านั้น ที่ผ่านคุณสมบัติในการดำเนินกิจกรรมปลูกถ่ายอวัยวะ
“เหตุผลสองประการที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังพัฒนาการอันเชื่องช้าของวงการบริจาคอวัยวะในจีน … ข้อแรกคือกรอบความคิดของขนบธรรมเนียมโบราณ ที่ก่อให้เกิดปัญหาขาดแคลนความกระตือรือร้นในการมีส่วนร่วม ส่วนข้อสองคือ ประชาชนกังวลว่าอวัยวะจะถูกนำไปใช้ด้วยวิธีการที่ยุติธรรม เท่าเทียม และเปิดกว้างหรือไม่”
อย่างไรก็ดี หมอหวงยังคงเชื่อว่าสถานการณ์ในอนาคตข้างหน้าจะดีขึ้น โดยชี้ว่าล่าสุดยอดผู้บริจาคอวัยวะตั้งแต่เดือนม.ค. จนถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 1,500 ราย สูงกว่าช่วงระหว่างปี 2553-2556 ที่มีเพียง 1,448 รายเท่านั้น