โดนเมียแอบตัดทิ้งไม่ต้องกังวลอีกต่อไป!! “เพนตากอน” เริ่มต้นทดลอง “สร้างไอ้จ้อน” ในแล็บให้คุณผู้ชาย

เอเจนซีส์ - สถาบันวิจัยการปลูกถ่ายอวัยวะ Wake Forest ในรัฐนอร์ท แคโรไลนา ภายใต้ทุนอุดหนุนการวิจัยของเพนตากอนคาดจะเริ่มต้นทดลองการปลูกถ่าย “อวัยวะเพศชาย” จากเซลล์ของผู้ป่วยในขั้น “ทดลองกับมนุษย์” ภายใน 5 ปี หลังประสบความสำเร็จการทดลองในกระต่าย เพื่อรักษาผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บ เช่น ทหารสหรัฐฯที่ได้รับบาดเจ็บในระหว่างการสู้รบ หรือมีอวัยเพศที่มีความผิดปกติ

เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานในวันอาทิตย์(5)ว่า นักวิจัยประจำ สถาบันวิจัยการปลูกถ่ายอวัยวะ Wake Forest ในวินสตัน-ซาเลม รัฐนอร์ทแคโรไลนา ทำการศึกษาการปลูกถ่าย “อวัยวะเพศชาย” ในห้องแล็บที่อวัยวะสร้างใหม่นี้ต้อง “ปลอดภัย ใช้งานได้ และมีความทนทาน” โดยทางทีมวิจัยหวังจะได้รับไฟเขียวจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA เพื่อสามารถเริ่มการศึกษาขั้นทดลองกับมนุษย์ภายใน 5ปี

ทั้งนี้ศาสตราจารย์แอนโธนี แอทาลา (Anthony Atala) ผู้อำนวยสถาบันวิจัยการปลูกถ่ายอวัยวะ Wake Forest Institute ซึ่งเป็นผู้ดูแลผลงานวิจัยการปลูกถ่ายอวัยเพศชายให้กับกระต่ายในปี 2008 ซึ่งประสบความสำเร็จกล่าวว่า “จากผลการศึกษากาให้กระต่ายประสบความสำเร็จทำให้ทางเรามีความหวังมาก แต่หากทางทีมงานต้องการได้รับอนุญาตเพื่อเรื่มต้นทดลองในมนุษย์ ทางทีมวิจัยต้องทำให้แน่ใจว่าต้องปลอดภัย และมีข้อมูลเชิงคุณภาพยืนยัน นอกจากนี้ทางทีมผู้วิจัยต้องสามารถพิสูจน์ให้ประจักษ์ว่า เนื่อเยื่อที่ปลูกถ่ายในแล็บนั้นจะไม่เป็นอันตรายต่อตัวคนไข้ และรวมไปถึงต้องระบุถึงขั้นตอนการสร้าง “อวัยวะเพศชาย” ขึ้นใหม่อย่างละเอียด”

อวัยวะเพศชายที่จะเริ่มต้นปลูกถ่ายจะใช้เซลล์ของคนไข้เพื่อป้องกันปัญหาการต่อต้านจากร่างกายหากได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะจากของคนอื่น เซลล์ที่ได้จะมาจากเซลล์อวัยวะเพศของตัวคนไข้เองซึ่งจะใช้เวลาเติบโตในห้องแล็บนาน 4 – 6 สัปดาห์

และเดอะการ์เดียนยังรายงานเพิ่มเติมว่า ทางทีมวิจัยจะล้างอวัยวะเพศชายของคนไข้ให้สะอาดด้วย “ผงซักฟอกสูตรอ่อนโยน” เพื่อกำจัดเซลล์ของคนไข้ทิ้งให้หมด และหลังจาก 2 สัปดาห์ไปแล้ว จะคงเหลืออยู่แค่คอลลาเจนของอวัยวะเพศซึ่งจะใช้เป็นโครงเลี้ยงเซลล์(scaffold) และจะถูกนำไปใช้เลี้ยงเซลล์ที่ถูกคัดแยก ซึ่งจะเริ่มขยายเซลล์กล้ามเนื้อก่อนเป็นอันดับแรก และตามมาด้วยเซลล์บุผิวหลอดเลือด (endothelial cell)ซึ่งจะสร้างหลอดเลือด และเพราะกระบวนการนี้ใช้เซลล์ที่เฉพาะเจาะจงจากอวัยวะเพศของคนไข้ชาย ดังนั้นเทคนิกนี้จะไม่สามารถปรับใช้กับคนไข้หญิงเพื่อปลูกสร้างอวัยเพศชายได้

“เป้าหมายการวิจัยของสถาบันเพื่อรักษาผู้ป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุร้ายแรง หรือมีความผิดปกติทางอวัยวะเพศ” แอทาลากล่าว และพบว่าโปรเจกต์ปลูกถ่ายอวัยะเพศชายนี้ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันวิจัยอาวุธทางทหารเพื่อการปลูกถ่ายอวัยวะในสังกัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่มีเป้าหมายเพื่อใช้เทคโนโลยีนี้ช่วยทหารสหรัฐฯที่ได้รับบาดเจ็บจากการรบ

ด้านอาซิฟ มูเนียร์(Asif Muneer) ศัลยแพทย์ที่ปรึกษาทางเดินปัสสาวะ(consultant urological surgeon)และผู้เชี่ยวชาญบุรุษเวชศาสตร์(Andrologis) ประจำโรงพยาบาล University College Hospital (UCH) ในกรุงลอนดอนให้ความเห็นถึงความก้าวหน้าในการปลูกถ่ายอวัยวะครั้งนี้ว่า ถ้าหากประสบความสำเร็จ จะถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญให้กับมนุษยชาติในการรักษามะเร็งองคชาติ และการบาดเจ็บขององคชาติขั้นร้ายแรง ซึ่งในปัจจุบันนี้การรักษาคนไข้ให้กลับมีอวัยเพศใช้การได้อีกครั้งด้วยการใช้การผ่าตัดโดยนำผิวหนังพร้อมด้วยเส้นเลือดจากแขนท่อนปลาย หรือสะโพกพร้อมด้วยการผ่าตัดฝังแกนในองคชาต (penile prosthesis)เพื่อทำให้อวัยเพศสามารถแข็งตัว

“ความกังวลของผมมีเพียงว่า ทางทีมวิจัยสหรัฐฯจะต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อจะทำให้อวัยวะเพศชายปลูกถ่ายใหม่สามารถแข็งตัวได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งกระบวนการแข็งตัวขององคชาตินี้ส่วนหนึ่งเกิดจากกระบวนการสั่งงานทางประสาทที่เริ่มต้นจากสมอง ดังนั้นผมจึงสงสัยว่าทาง Wake Forest จะสามารถเลียนแบบกระบวนการทำงานตามธรรมชาติได้หรือ หรือเป็นเพียงการพัฒนาเพื่อให้อวัยเพศชายปลูกถ่ายใหม่มีความเหมือนจริงมากขึ้นเท่านั้น” มูเนียร์กล่าว

และสื่ออังกฤษยังรายงานต่อว่า ทีมวิจัยของแอทาลาได้ทดลองกับประเภทของเนื้อเยื่อและอวัยวะที่แตกต่างกันถึง 30 ประเภท รวมไปถึงไตและหัวใจ ทั้งนี้ สถาบันวิจัยการปลูกถ่ายอวัยวะ Wake Forest ถือเป็นที่แรกของโลกที่ประสบความสำเร็จในการปลูกถ่าย 1.กระเพาะปัสสาวะในปี 1999 2.ท่อปัสสาวะในปี 2004 และ 3.ช่องคลอดในปี 2005

ด้านศาสตราจารย์เจมส์ ยู (James Yoo) ผู้ร่วมวิจัยกับแอทาลาที่สถาบัน และในขณะนี้กำลังวิจัยวิศวกรรมชีวการแพทย์และการปลูกถ่ายอวัยวะเพศชายเพื่อช่วยรักษาปัญหาการแข็งตัวขององคชาติ กล่าวว่า “หากว่าประสบความสำเร็จในการสร้างและทดแทนเนื้อเยื่อ “spongy erectile tissue” ที่เนื้อเยื่อนี้อยู่ในกระบวนการแข็งตัวขององคชาติ เพราะจะทำให้องคชาติแข็งตัวเมื่อเนื้อเยื่อนี้มีเลือดมาหล่อเลี้ยง คนไข้ชายจะสามารถแข็งตัวได้เองอีกครั้ง” ยูทราบดีถึงความยากลำบากในการสร้างการเลียนแบบการแข็งตัวตามธรรมชาติแต่เขาเชื่อว่า “ในฐานะที่เป็นนักวิทยาศาสตร์และแพทย์ ผมเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่แนวทางการรักษาในปัจจุบันจะถูกพัฒนาเพื่อทำให้ผู้ชายสามารถเป็นหมาป่าในยามค่ำคืนได้อีกครั้ง” ยูกล่าวทิ้งท้าย