เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ไต้หวันระเบิดศึกเลือกตั้งนายกเทศมนตรีกรุงไทเปในวันเสาร์นี้ (29 พ.ย.) ซึ่งเป็นการแข่งขันของคู่ท้าชิง ที่มีประวัติความเป็นมาอย่างกับในภาพยนตร์ และเป็นคู่ตื่นเต้นเร้าใจที่สุดในการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเกาะมังกรน้อย
ตอนนี้กำลังมีการลุ้นกันว่า ใครจะครองตำแหน่ง อันทรงอิทธิพลระหว่างนายฌอน เหลียน นักการเงิน บุตรชายอดีตรองประธานาธิบดีเหลียน จ้าน กับคุณหมอ โก เหวิน-เจ๋อ ศัลยแพทย์แผนกฉุกเฉิน ซึ่งนำทีมแพทย์ผ่าตัดเอากระสุนออกจากศีรษะของนายฌอน ซึ่งถูกยิงระหว่างช่วยสมาชิกพรรคหาเสียงเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ย. ปี 2553 อาการปางตาย
คนเคยช่วยชีวิตกันมา แต่เดี๋ยวนี้ต้องต่อสู้กันในสนามเลือกตั้งเสียแล้ว
จากผลสำรวจระบุว่า หมอโก ผู้สมัครอิสระ วัย 55 ปี มีคะแนนนำนายเหลียน วัย 44 ปี ซึ่งคบค้าสมาคมกับรัฐบาลปักกิ่งและลงสมัครในนามของพรรคก๊กมินตั๋ง (เคเอ็มที) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล
คะแนนนำนี้สะท้อนว่า ชาวไต้หวันเลิกหลงลมปากของรัฐบาลพรรคก๊กมินตั๋ง และกำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของจีน ที่นับวันจะแผ่ซ่านบนเกาะมังกรน้อย เรื่องเศรษฐกิจ ที่ชะลอตัว และปัญหาความปลอดภัยด้านอาหาร ที่กลายเป็นข่าวอื้อฉาวบ่อย ๆ
ถึงกระนั้น ผลสำรวจยังคงระบุว่า พรรคก๊กมินตั๋งน่าจะกวาดชัยชนะในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองและสมาชิกสภาท้องถิ่น ซึ่งมีผู้ลงแข่ง 20,000 คน เพื่อชิง 11,130 ที่นั่ง ซึ่งจะเป็นปรอทชี้วัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2559
แต่ถ้าต้องพ่ายแพ้ในกรุงไทเป ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของพรรคก๊กมินตั๋งแล้ว ก็จะทำให้รัฐบาลเสียหน้าอย่างมากทีเดียว
ขณะที่สายตาทุกคู่กำลังจับจ้องการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีกรุงไทเป คู่แข่งคู่ลุ้นได้พูดถึงเหตุการณ์ช็อกไต้หวันคราวนั้น
“ถ้าโดนกระสุนสูงขึ้นไปอีกครึ่งเซนต์นะ … ป่านนี้ก็คงตายไปแล้ว … แต่ผมยังอยู่ที่นี่" นายเหลียนพูดกับนักข่าวเอเอฟพี
“เพราะผมมีปณิธานแรงกล้า ผมจึงเลือกมาอยู่ท่ามกลางฝูงชนอีกครั้ง” เขากล่าว
ส่วนมือปืน ซึ่งเป็นสมุนแก๊งอันธพาลท้องถิ่นถูกศาลพิพากษาประหารชีวิต โทษฐานเจตนาฆ่า โดยมือปืนสารภาพว่า เขาต้องการฆ่าผู้ลงสมัคร เนื่องจากปัญหาส่วนตัว แต่กระสุนพลาดไปถูกนายเหลียน
นายเหลียนไม่ลืมขอบคุณหมอโกในการแถลงข่าวก่อนการเลือกตั้ง ที่ช่วยให้เขารอดพ้นช่วงวิกฤตของชีวิต แต่ก็กล่าวด้วยว่า “ เขาอาจไม่ใช่คนทำหน้าที่สำคัญที่สุด” ระหว่างการผ่าตัด
มันเป็นการแสดงความเห็นที่ซ่อนความเป็นปรปักษ์แทบไม่มิด
ฝ่ายหมอโก ซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกผู้บาดเจ็บของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวันในเวลานั้นก็มิได้คุยโตอะไร
“ ผมได้ประสานงานและจัดขั้นตอนให้การรักษา (นายเหลียน) ทั้งหมด แต่ไม่ได้เข้าร่วมในการผ่าตัด” เขากล่าว
นอกจากนั้น ยังแสดงความเชื่อมั่นว่า ภูมิหลังอาชีพแพทย์และความหน้าใหม่ทางการเมือง ที่ไม่สังกัดพรรคใด ทำให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงมั่นใจในตัวเขา
ด้านนายเหลียนขายนโยบายดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติและทำให้กรุงไทเปก้าวสู่สากล
ตามความเห็นของนักวิเคราะห์มองจุดเด่นจุดด้อยของมวยคู่นี้ว่า ภาพลักษณ์ “คุณชาย” และพื้นเพตระกูลร่ำรวยทรงอิทธิพลอาจฉุดรั้งนายเหลียน
ส่วนหมอโกก็พูดจาโผงผางเกินไป ซึ่งอาจสร้างปัญหามากกว่าแก้ปัญหา นอกจากนั้น เขามักเสียมารยาทพูดจาในลักษณะดูถูกผู้หญิง เช่นบรรยายผู้ลงเลือกตั้งสตรีจากพรรคก๊กมินตั๋งคนหนึ่งว่า “สาว น่ารัก และเหมาะจะไปนั่งข้างหลังเคาน์เตอร์ ( ห้างสรรพสินค้า) เท่านั้น”
สำหรับประเด็นที่เกี่ยวกับจีนนั้น ทั้งคู่แสดงความเห็นอย่างระมัดระวัง
ทั้งนี้ แม้ความสัมพันธ์ ที่เย็นชาระหว่างจีนกับไต้หวัน ฟื้นฟูดีขึ้นอย่างมาก นับตั้งประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว เข้าบริหารไต้หวันในปี 2551 แต่พญามังกรก็ยังมองไต้หวันว่า เป็นเพียงจังหวัดหนึ่งของตนอยู่ดี
ขณะที่ชาวไต้หวันเองก็เคยชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่มาแล้ว ถึงขั้นยึดอาคารรัฐสภาอยู่นาน 3 สัปดาห์เมื่อต้นปี เพื่อต่อต้านการทำสนธิสัญญาการค้ากับปักกิ่ง
นายเหลียนย้ำว่า การเชื่อมโยงการค้าของไต้หวันกับจีนและที่อื่น ๆ ในโลกเป็นเรื่องที่สำคัญ ขณะที่หมอโกไม่ปฏิเสธการทำงานร่วมกับปักกิ่งในด้านการค้า
ผลการเลือกตั้งจะเป็นเช่นไรก็ต้องรอดูกันต่อไป
ทว่าสำหรับผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน ที่เซ็งการเลือกตั้งบางคน มีธงในใจแล้วว่า การเปลี่ยนแปลงคือปัจจัยสำคัญที่สุด
“ ถ้าเหลียนชนะ อะไร ๆ ก็ยังคงเหมือนเดิมงั้น ๆ” แองเจล่า เซิน ซึ่งมีอาชีพครูกล่าว
“ แต่ถ้าหมอโกชนะ อย่างน้อย ๆ ทุกอย่างก็จะต่างไป” เธอให้ความเห็นอย่างน่าฟังทิ้งท้าย