เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์/เอเจนซี- ทางการจีนเผยตัวเลขผู้ใช้และผู้ขายยาเสพติด เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ส่วนใหญ่ลักลอบนำเข้าจากประเทศในอาเซียน ด้านผู้เชี่ยวชาญโต้ ยาเสพติดส่วนใหญ่มาจากโรงงานในแผ่นดินใหญ่เอง ไม่ใช่แหล่งนอกประเทศ
กระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์จีนเผย หลังทางการฯ เดินหน้าปราบยาเสพติดไปเพียงแค่ 50 วัน จีนสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติดได้เกือบ 24,000 ราย และดำเนินการสอบสวนผู้ใช้ยาเสพติดไปแล้วมากกว่า 100,000 คน
นายหลิว เยว่จิน ผู้อำนวยการกรมการควบคุมยาเสพติด สังกัดกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ กล่าวว่า “จีนกำลังเผชิญปัญหายาเสพติดสังเคราะห์อย่างหนัก” โดยเฉพาะยาบ้า และผู้เสพก็มีแนวโน้มจะใช้ยาไอซ์ ซึ่งเป็นสารเสพติดในกลุ่มแอมเฟตามีน อนุพันธ์หนึ่งของยาบ้า กันมากขึ้น
นอกจากนี้ ทางกระทรวงยังระบุเพิ่มเติมว่า ทางการฯ ลงทะเบียนผู้ต้องสงสัยที่ใช้สารเสพติดไว้ราวๆ 2.87 ล้านคน
“แต่ในความเป็นจริง ตัวเลขผู้ใช้ยาเสพติดอยู่ที่ประมาณ 14 ล้านคน มากกว่าตัวเลขทางการที่ประเมินไว้ถึง 5 เท่า และทั้งหมดครึ่งหนึ่ง คาดว่าจะเสพยาบ้า” นายหลิว กล่าว
“หากเทียบกับยาเสพติดจากพืช อาทิ เฮโรอีน และฝิ่น ยาบ้าทำให้เกิดปัญหาทางจิตได้ง่ายกว่า โดยผู้เสพจะมีแนวโน้มมีพฤติกรรมรุนแรง สุดโต่ง ก่อเหตุได้ทั้งฆาตรกรรมและการลักพาตัว”
นอกจากนี้ นายหลิวยังเน้นอีกว่า ผู้ขับขี่ยานพาหนะขณะที่เมายา ก็เป็นสาเหตุให้สังคมมีความเสี่ยงได้รับผลกระทบจากยาเสพติดมากขึ้น โดยเขาเสนอให้มีการร่างกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนขึ้น
ทั้งนี้ นายหลิวระบุเพิ่มเติมว่า แต่ละปี ยาบ้าทำให้จีนเสียหายทางเศรษฐกิจมากถึง 500,000 ล้านหยวน หรือราวๆ 2.5 ล้าน ล้านบาท
ด้านนายสง เจิ้งเหลียง เจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกคนหนึ่งจากกรมการควบคุมยาเสพติดจีน ระบุว่า กระแสยาบ้าที่ไหลบ่าเข้ามาจากประเทศในกลุ่มอาเซียน ทำให้จีนเกิดเหตุอาชญากรรมเพิ่มขึ้น
ปีที่ผ่านมา (2556) มณฑลยูนนานสามารถยึดของกลางเป็นยาบ้า 9 ตัน ซึ่งลักลอบขนมาจากพม่า ทั้งนี้ จำนวนดังกล่าวคิดเป็น 55 เปอร์เซ็นต์ของยาบ้าทั้งหมดที่ทางการจีนยึดได้ทั่วประเทศ
นอกจากนี้ คดีเดียวเกี่ยวกับการลักลอบขนยาเสพติดยังเพิ่มมากขึ้นตามตะเข็บชายแดนจีน-เวียดนาม
นายสง กล่าวเพิ่มเติมว่า จีนกำลังทำภารกิจร่วมกับทางการของลาว พม่าและประเทศไทย เพื่อจัดการกับปัญหาลักลอบขนยาเสพติดในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
อย่างไรก็ดี ในขณะที่ทางการจีนชี้ว่า ประเทศในอาเซียนเป็นแหล่งต้นตอของยาบ้า ทว่า ผู้เชี่ยวชาญของจีนเองกลับระบุว่า ยาบ้าจำนวนมหาศาลผลิตขึ้นในประเทศจีนเอง
รายงานจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า ยาบ้าจำนวนมหาศาลมาจากมณฑลก่วงตง จากนั้นจึงมีการลักลอบส่งต่อไปยังประเทศต่างๆ
ในปี 2555 จีนสั่งปิดห้องทดลองผลิตยาบ้าได้มากกว่า 200 แห่ง รายงานจากองค์การสหประชาชาติ ระบุ
ส่วนล่าสุด ในสัปดาห์นี้ ตำรวจก่วงตง ก็เพิ่งเผาทำลายสารตั้งต้นผลิตยาบ้ากว่า 400 ตัน น้ำหนักรวมเทียบเท่ากับเครื่องบินส่วนตัวถึง 10 ลำ ซึ่งเป็นของกลางที่ตำรวจยึดได้ หลังบุกทลายแหล่งผลิตขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของจีน เมื่อปีก่อน(2556)
อนึ่ง สื่อต่างชาติอย่างรอยเตอร์ส ระบุว่า ในจีนมีการใช้ยาเสพติดสังเคราะห์กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ยาบ้า ยาเค และยาอี ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการที่จีนมีชนชั้นคนเมืองใหม่และมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
กระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์จีนเผย หลังทางการฯ เดินหน้าปราบยาเสพติดไปเพียงแค่ 50 วัน จีนสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติดได้เกือบ 24,000 ราย และดำเนินการสอบสวนผู้ใช้ยาเสพติดไปแล้วมากกว่า 100,000 คน
นายหลิว เยว่จิน ผู้อำนวยการกรมการควบคุมยาเสพติด สังกัดกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ กล่าวว่า “จีนกำลังเผชิญปัญหายาเสพติดสังเคราะห์อย่างหนัก” โดยเฉพาะยาบ้า และผู้เสพก็มีแนวโน้มจะใช้ยาไอซ์ ซึ่งเป็นสารเสพติดในกลุ่มแอมเฟตามีน อนุพันธ์หนึ่งของยาบ้า กันมากขึ้น
นอกจากนี้ ทางกระทรวงยังระบุเพิ่มเติมว่า ทางการฯ ลงทะเบียนผู้ต้องสงสัยที่ใช้สารเสพติดไว้ราวๆ 2.87 ล้านคน
“แต่ในความเป็นจริง ตัวเลขผู้ใช้ยาเสพติดอยู่ที่ประมาณ 14 ล้านคน มากกว่าตัวเลขทางการที่ประเมินไว้ถึง 5 เท่า และทั้งหมดครึ่งหนึ่ง คาดว่าจะเสพยาบ้า” นายหลิว กล่าว
“หากเทียบกับยาเสพติดจากพืช อาทิ เฮโรอีน และฝิ่น ยาบ้าทำให้เกิดปัญหาทางจิตได้ง่ายกว่า โดยผู้เสพจะมีแนวโน้มมีพฤติกรรมรุนแรง สุดโต่ง ก่อเหตุได้ทั้งฆาตรกรรมและการลักพาตัว”
นอกจากนี้ นายหลิวยังเน้นอีกว่า ผู้ขับขี่ยานพาหนะขณะที่เมายา ก็เป็นสาเหตุให้สังคมมีความเสี่ยงได้รับผลกระทบจากยาเสพติดมากขึ้น โดยเขาเสนอให้มีการร่างกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนขึ้น
ทั้งนี้ นายหลิวระบุเพิ่มเติมว่า แต่ละปี ยาบ้าทำให้จีนเสียหายทางเศรษฐกิจมากถึง 500,000 ล้านหยวน หรือราวๆ 2.5 ล้าน ล้านบาท
ด้านนายสง เจิ้งเหลียง เจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกคนหนึ่งจากกรมการควบคุมยาเสพติดจีน ระบุว่า กระแสยาบ้าที่ไหลบ่าเข้ามาจากประเทศในกลุ่มอาเซียน ทำให้จีนเกิดเหตุอาชญากรรมเพิ่มขึ้น
ปีที่ผ่านมา (2556) มณฑลยูนนานสามารถยึดของกลางเป็นยาบ้า 9 ตัน ซึ่งลักลอบขนมาจากพม่า ทั้งนี้ จำนวนดังกล่าวคิดเป็น 55 เปอร์เซ็นต์ของยาบ้าทั้งหมดที่ทางการจีนยึดได้ทั่วประเทศ
นอกจากนี้ คดีเดียวเกี่ยวกับการลักลอบขนยาเสพติดยังเพิ่มมากขึ้นตามตะเข็บชายแดนจีน-เวียดนาม
นายสง กล่าวเพิ่มเติมว่า จีนกำลังทำภารกิจร่วมกับทางการของลาว พม่าและประเทศไทย เพื่อจัดการกับปัญหาลักลอบขนยาเสพติดในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
อย่างไรก็ดี ในขณะที่ทางการจีนชี้ว่า ประเทศในอาเซียนเป็นแหล่งต้นตอของยาบ้า ทว่า ผู้เชี่ยวชาญของจีนเองกลับระบุว่า ยาบ้าจำนวนมหาศาลผลิตขึ้นในประเทศจีนเอง
รายงานจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า ยาบ้าจำนวนมหาศาลมาจากมณฑลก่วงตง จากนั้นจึงมีการลักลอบส่งต่อไปยังประเทศต่างๆ
ในปี 2555 จีนสั่งปิดห้องทดลองผลิตยาบ้าได้มากกว่า 200 แห่ง รายงานจากองค์การสหประชาชาติ ระบุ
ส่วนล่าสุด ในสัปดาห์นี้ ตำรวจก่วงตง ก็เพิ่งเผาทำลายสารตั้งต้นผลิตยาบ้ากว่า 400 ตัน น้ำหนักรวมเทียบเท่ากับเครื่องบินส่วนตัวถึง 10 ลำ ซึ่งเป็นของกลางที่ตำรวจยึดได้ หลังบุกทลายแหล่งผลิตขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของจีน เมื่อปีก่อน(2556)
อนึ่ง สื่อต่างชาติอย่างรอยเตอร์ส ระบุว่า ในจีนมีการใช้ยาเสพติดสังเคราะห์กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ยาบ้า ยาเค และยาอี ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการที่จีนมีชนชั้นคนเมืองใหม่และมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
