รอยเตอร์ส/เอเจนซี- จีนเปิดเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายล่าสุดเชื่อมมณฑลซินเจียงเข้ากับมณฑลกานซู่ โดยเป็นส่วนหนึ่งของ "เส้นทางสายไหมใหม่" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคตะวันตกที่ยากจน ที่ในอนาคตจะขยายเป็นเส้นทางระหว่างประเทศเชื่อมเอเชียกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
วานนี้ (16 พ.ย.) รัฐบาลจีนเปิดใช้เส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายใหม่ มีความยาวทั้งสิ้น 530 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างอูหลู่มู่ฉีกับเมืองฮาหมี เมืองเอกและเมืองสำคัญในเขตปกครองตัวเองชาชาติอุยกูร์มณฑลซินเจียง โดยสายนี้ถือเป็นเฟสแรกของเส้นทางรถไฟความเร็วสูง "หลานซิน" (หลานโจว-ซินเจียง) ซึ่งมีระยะทางรวม 1,775 กิโลเมตร
ซินหวา ระบุวานนี้ว่า เส้นทางรถไฟความเร็วสูงสาย "หลานซิน" มีกำหนดเปิดใช้ทั้งสายภายในเดือนหน้านี้ ส่วนขบวนรถไฟสายอูหลู่มู่ฉี-ฮาหมี ที่จะวิ่งบนเส้นทางรถไฟเพิ่งเปิดใช้นี้ สามารถวิ่งในอัตราเร็วถึง 200 ก.ม./ชั่วโมง ร่นระยะเวลาการเดินทางระหว่างทั้งสองเมืองเหลือแค่ 3 ชั่วโมง
ความสำคัญของรถไฟสายหลานซิน นอกจากจะส่งเสริมเศรษฐกิจซินเจียง ยังเป็นการดึงซินเจียงให้ใกล้ชิดกับศูนย์กลางมากขึ้น ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาขัดแย้งในเขตชนชาติกลุ่มน้อยที่มีเหตุปะทะรุนแรงบ่อยๆ เป็นจุดร้อนทางการเมืองที่น่าวิตกมาก
ซินเจียง เป็นเขตปกครองตัวเองชนชาติอุยกูร์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมุสลิม พูดภาษาเตอร์ติก เคยประกาศรัฐเอกราชและปกครองตัวเอง เมื่อผู้นำจีนคอมมิวนิสต์ภายใต้การนำของประธานเหมา เจ๋อตง สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2492 ก็สั่งกองกำลังยาตราทัพเข้า “ปลดปล่อย” ประชาชนในซินเจียง หลังจากนั้นมาชาวอุยกูร์ก็เริ่มบ่นถึงการกดขี่ทางวัฒนธรรมและศาสนา
นอกจากนี้ ช่วงหลายปีที่ผ่านมาชาวจีนฮั่นหลั่งไหลเข้าไปทำงานในซินเจียงอันเป็นผลจากนโยบายมุ่งสู่ตะวันตกของรัฐบาล จนเกิดความขัดแย้งแย่งงานคนท้องถิ่น การปะทะระหว่างชนชาติครั้งประวัติการณ์ระเบิดขึ้นในเดือนก.ค. 2552 ชาวฮั่นและอุยกูร์ลุยศึกนองเลือดกันกลางเมืองอูหลู่มู่ฉี มีผู้เสียชีวิตราว 200 คน และบาดเจ็บนับพัน และขณะนี้เหตุรุนแรงจากความขัดแย้งซินเจียงได้ขยายสู่เขตอื่นของประเทศจีน อาทิ ผู้จู่โจมไล่แทงผู้โดยสารที่สถานีรถไฟคุนหมิง เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 34 คน และบาดเจ็บ กว่า 140 คน
ด้านกลุ่มนักรณรงค์มนุษยชนชี้ ปมปัญหาทั้งหมดมาจากการกดขี่ทางวัฒนธรรม ศาสนา มาตรการความมั่นคง และการผลักดันชาวจีนฮั่นหลั่งไหลเข้าไปทำงานในซินเจียง ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรเหมืองแร่ ทว่า ทางการปักกิ่งกลับมองว่าเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในซินเจียงมาจากการเสี้ยมของกลุ่มศาสนาสุดโต่งและลัทธิแบ่งแยกดินแดน
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลกลางจึงพยายามเข้าไปแก้ปัญหาความรุนแรงในภูมิภาค โดยเมื่อปีที่ผ่านมา (2556) ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศแผนผลักดัน “เส้นทางสายไหมใหม่” เชื่อมจีนทั้งทางบกและทางทะเลเข้ากับภูมิภาคเอเชียกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเมื่อเดือนก่อน (ก.ย.) ผู้นำแดนมังกรก็ได้ประกาศทุ่มเงิน 40,000 ล้านหยวน หรือราวๆ 200,000 ล้านบาท ลงทุนสร้างสาธารณูปโภคในภูมิภาค
วานนี้ (16 พ.ย.) รัฐบาลจีนเปิดใช้เส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายใหม่ มีความยาวทั้งสิ้น 530 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างอูหลู่มู่ฉีกับเมืองฮาหมี เมืองเอกและเมืองสำคัญในเขตปกครองตัวเองชาชาติอุยกูร์มณฑลซินเจียง โดยสายนี้ถือเป็นเฟสแรกของเส้นทางรถไฟความเร็วสูง "หลานซิน" (หลานโจว-ซินเจียง) ซึ่งมีระยะทางรวม 1,775 กิโลเมตร
ซินหวา ระบุวานนี้ว่า เส้นทางรถไฟความเร็วสูงสาย "หลานซิน" มีกำหนดเปิดใช้ทั้งสายภายในเดือนหน้านี้ ส่วนขบวนรถไฟสายอูหลู่มู่ฉี-ฮาหมี ที่จะวิ่งบนเส้นทางรถไฟเพิ่งเปิดใช้นี้ สามารถวิ่งในอัตราเร็วถึง 200 ก.ม./ชั่วโมง ร่นระยะเวลาการเดินทางระหว่างทั้งสองเมืองเหลือแค่ 3 ชั่วโมง
ความสำคัญของรถไฟสายหลานซิน นอกจากจะส่งเสริมเศรษฐกิจซินเจียง ยังเป็นการดึงซินเจียงให้ใกล้ชิดกับศูนย์กลางมากขึ้น ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาขัดแย้งในเขตชนชาติกลุ่มน้อยที่มีเหตุปะทะรุนแรงบ่อยๆ เป็นจุดร้อนทางการเมืองที่น่าวิตกมาก
ซินเจียง เป็นเขตปกครองตัวเองชนชาติอุยกูร์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมุสลิม พูดภาษาเตอร์ติก เคยประกาศรัฐเอกราชและปกครองตัวเอง เมื่อผู้นำจีนคอมมิวนิสต์ภายใต้การนำของประธานเหมา เจ๋อตง สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2492 ก็สั่งกองกำลังยาตราทัพเข้า “ปลดปล่อย” ประชาชนในซินเจียง หลังจากนั้นมาชาวอุยกูร์ก็เริ่มบ่นถึงการกดขี่ทางวัฒนธรรมและศาสนา
นอกจากนี้ ช่วงหลายปีที่ผ่านมาชาวจีนฮั่นหลั่งไหลเข้าไปทำงานในซินเจียงอันเป็นผลจากนโยบายมุ่งสู่ตะวันตกของรัฐบาล จนเกิดความขัดแย้งแย่งงานคนท้องถิ่น การปะทะระหว่างชนชาติครั้งประวัติการณ์ระเบิดขึ้นในเดือนก.ค. 2552 ชาวฮั่นและอุยกูร์ลุยศึกนองเลือดกันกลางเมืองอูหลู่มู่ฉี มีผู้เสียชีวิตราว 200 คน และบาดเจ็บนับพัน และขณะนี้เหตุรุนแรงจากความขัดแย้งซินเจียงได้ขยายสู่เขตอื่นของประเทศจีน อาทิ ผู้จู่โจมไล่แทงผู้โดยสารที่สถานีรถไฟคุนหมิง เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 34 คน และบาดเจ็บ กว่า 140 คน
ด้านกลุ่มนักรณรงค์มนุษยชนชี้ ปมปัญหาทั้งหมดมาจากการกดขี่ทางวัฒนธรรม ศาสนา มาตรการความมั่นคง และการผลักดันชาวจีนฮั่นหลั่งไหลเข้าไปทำงานในซินเจียง ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรเหมืองแร่ ทว่า ทางการปักกิ่งกลับมองว่าเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในซินเจียงมาจากการเสี้ยมของกลุ่มศาสนาสุดโต่งและลัทธิแบ่งแยกดินแดน
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลกลางจึงพยายามเข้าไปแก้ปัญหาความรุนแรงในภูมิภาค โดยเมื่อปีที่ผ่านมา (2556) ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศแผนผลักดัน “เส้นทางสายไหมใหม่” เชื่อมจีนทั้งทางบกและทางทะเลเข้ากับภูมิภาคเอเชียกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเมื่อเดือนก่อน (ก.ย.) ผู้นำแดนมังกรก็ได้ประกาศทุ่มเงิน 40,000 ล้านหยวน หรือราวๆ 200,000 ล้านบาท ลงทุนสร้างสาธารณูปโภคในภูมิภาค