เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - กรุงปักกิ่งพร้อมแล้วสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ทว่ายังมีอยู่สิ่งหนึ่ง ที่ทางการกำลังหวาดผวานั่นก็คือการโผล่หน้ามาร่วมเวทีการประชุมของหมอกควัน
เวลานี้จีนจึงต้องงัดทุกมาตรการ เพื่อสกัดแขกผู้ไม่ได้รับเทียบเชิญรายนี้ โดยขอความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วน แม้แต่คนตายในปรโลกก็ต้องช่วย ๆ กัน เพื่อให้การประชุมสุดยอด ที่มีผู้นำชาติระดับบิ๊ก อาทิ สหรัฐฯ รัสเซีย และญี่ปุ่นเข้าร่วมดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่กลายเป็นข่าวฉาวไปทั่วโลกเหมือนคราวจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนนานาชาติเมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่ผู้แข่งขันหลายคนต้องสวมหน้ากากออกวิ่งท่ามกลางม่านหมอกควันปกคลุมเมืองหลวงสูงกว่ามาตรฐานความปลอดภัยขององค์การอนามัยโลกถึง 16 เท่า
นอกจากมาตรการ ที่ประกาศใช้ในกรุงปักกิ่ง และพื้นที่ใกล้เคียง เช่นการจำกัดการใช้รถยนต์ การสั่งปิดโรงงาน และให้ลูกจ้างภาครัฐหยุดทำงานยาว 6 วันแล้ว ทางการยังสั่งห้ามครอบครัวญาติพี่น้องทำพิธีเผาเสื้อผ้าให้แก่คนตายเป็นการชั่วคราว เพื่อช่วยทำให้ท้องฟ้าแจ่มใสอีกด้วย
“ งดการเผาเสื้อผ้าให้แก่ผู้เสียชีวิต ตั้งแต่วันที่ 1 - 15 พ.ย. เนื่องจากการประชุมเอเปก” เป็นประกาศ ซึ่งติดไว้ที่สุสานปาเป่าซานในกรุงปักกิ่ง
“ เราขอความกรุณาได้โปรดเข้าใจในความไม่สะดวกใด ๆ ก็ตาม ที่อาจเกิดขึ้น” ป้ายประกาศระบุ
การเผาเสื้อผ้า และกระดาษ ซึ่งทำเป็นรูปสิ่งของต่าง ๆ เป็นพิธีกรรมความเชื่อว่า ผู้ตายจะได้มีเสื้อผ้าใส่และข้าวของเครื่องใช้ในโลกหน้า และเป็นพิธีกรรมหนึ่งในงานศพ ที่นิยมทำกันทั่วไปในเมืองจีน
ทว่านี่มิใช่ครั้งแรก ที่แหล่งปล่อยหมอกควันจิ๊บจ๊อยถูกเข้มงวดกวดขัน ซึ่งแม้แต่แผงย่างอาหารเสียบไม้ริมถนนก็ไม่เว้น ทั้งที่ต้นตอปล่อยมลพิษในอากาศแหล่งใหญ่บนแผ่นดินใหญ่ได้แก่การเผาถ่านหินเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าป้อนเศรษฐกิจ ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และจากรถรา ที่เพิ่มมากขึ้นบนท้องถนน
หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ของรัฐบาลจีนรายงานว่า ในมณฑลเหอเป่ย ซึ่งอยู่ติดกับกรุงปักกิ่ง บริษัทกว่า 2,000 แห่งจะหยุดการผลิตชั่วคราว เช่นเดียวกับเขตก่อสร้างอีกเกือบ 2,500 แห่ง
“ท้องฟ้าสดใสพร้อมต้อนรับเอเปกแล้ว” พาดหัวหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ฉบับวันอังคาร ( 4 พ.ย.)
การสั่งปิดโรงงานชั่วคราวและมาตรการระยะสั้นอื่น ๆ เหล่านั้นเป็นมาตรการที่จีนเคยใช้มาแล้วเมื่อคราวจัดการแข่งขันเอเชียนเกมส์ก่วงโจว 2010 และการแข่งขันกีฬาเยาวชนเมืองหนันจิงปีนี้
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การใช้มาตรการระยะสั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อแก้ปัญหาหมอกควันด้วยเหตุผลทางการเมืองอาจเป็นผลเสีย เนื่องจากอาจทำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นขาดแรงกระตุ้นในการจัดการกับโรงงานที่ปล่อยมลพิษภายใต้แผนการแก้ไขปัญหามลพิษในอากาศในระยะยาวตามที่รัฐบาลจีนได้ประกาศไว้ก็เป็นได้