ไม่รู้จักหวิงชุนซะแล้ว ชาวบ้านงัดวิชามวยยุคราชวงศ์ชิง รับมือนายทุนเกรียน

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์/เอเจนซี - ชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้กรุงปักกิ่งถูกบริษัทบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ส่งนักเลงหัวไม้ทวงค่าเช่าโหดจนทนไม่ไหว เลยฮึดสู้ ด้วยการฝึกศิลปะการต่อสู้เก่าแก่โบราณ สวมบทจอมยุทธ์จำเป็น ต่อกรให้รู้ดีรู้ชั่วกันไปข้างหนึ่ง

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้าน ซึ่งมีชื่อว่า เยี่ยนเจียว อยู่ห่างจากจตุรัสเทียนอันเหมินแค่ 35 กิโลเมตรเท่านั้น ทว่ามีทำเลที่ตั้งราวกับตกนรกทั้งเป็น เพราะอยู่ตรงรอยต่อระหว่างกรุงปักกิ่ง เมืองเทียนจิน และมณฑลเหอเป่ย หมู่บ้านอยู่ใกล้ชิดกับกรุงปักกิ่งก็จริง ทว่ากลับอยู่ภายใต้การบริหารปกครองของมณฑลเหอเป่ย

กฎหมายจึงเอื้อมไปไม่ถึงเยี่ยนเจียว ซึ่งกลายเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลตกสำรวจไปโดยปริยาย

ตามรายงานของปักกิ่งนิวส์ บริษัทบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์หลายรายจึงสบโอกาสรีดไถ และข่มขู่ผู้เช่าที่ดินเอาตามอำเภอใจ ด้วยการเก็บค่าเช่าและคิดค่าปรับ ที่แพงเกินกว่าความเป็นจริง และส่งพวกอันธพาลมาเก็บเงิน

เมื่อเหลียวไปทางไหน ไม่เห็นแม้แต่เงาเจ้าหน้าที่รัฐสักคน ในที่สุด พวกชาวบ้านจึงตัดสินใจหัดมวยหวิงชุน ซึ่งเป็นเคล็ดวิชาป้องกันตัวจากยุคราชวงศ์ชิง โดยขอเรียนจากหม่า เหลียนฮวา คนรักหมัดมวยหวิงชุนในท้องถิ่นเมื่อเดือนส.ค. ที่ผ่านมา

ทว่าความเคลื่อนไหวนี้ไม่รอดสายตาของบริษัทเกรียนไปได้

หลังจากเริ่มสอนไปได้ไม่เท่าไร ครูหม่าของชาวบ้านก็ถูกแก๊งอันธพาลรุมอัดจนสะบักสะบอม

ในเมื่อของมันแรงอย่างนี้ก็ต้องเจอกับระดับปรมาจารย์

ไม่นานเกินรอ วันหนึ่งอาจารย์มวยหวิงชุนขั้นเทพ ก็ปรากฏกายขึ้นที่หมู่บ้านแสนอาภัพแห่งนี้ อาจารย์แซ่ผัง วัย 60 ปีเดินทางมาจากปักกิ่ง พร้อมลูกศิษย์อีก 3 คน

บทเรียนของอาจารย์ผังดึงดูดความสนใจของชาวบ้านหลายร้อยคนให้มาร่วมฝึก นับแต่นั้นมา พวกนักเลงหัวไม้ก็ไม่กล้าตอแย

แต่มีอยู่คราวหนึ่ง พวกอันธพาลเผชิญหน้ากับหม่า พอขยับจะเตะต่อย ก็ถึงกับชะงัก สถานการณ์มันไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว

พวกชาวบ้านกรูกันเข้ามาล้อมแก๊งเกรียน รอจนตำรวจมา และรีบเข้าจับกุมตัวหัวโจกไป เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหัวโจกนั่นเอง

หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ได้มีการจัดประชุมหารือระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับผู้จัดการบริษัทบริหารจัดการ โดยหัวหน้าบริษัทจัดการอสังหาริมทรัพย์รายหนึ่งได้ขอโทษขอโพยชาวบ้าน พร้อมกับแสดงการสนับสนุนให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนของชาวบ้านในการเจรจาเรื่องต่าง ๆ กับผู้จัดการบริษัท

ด้านหม่ากล่าวว่า หากได้รับการดูแลที่ดี ชาวบ้านก็ยินดีจ่ายค่าเช่าให้เช่นกันในราคา ที่สมน้ำสมเนื้อ อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวเขานั้นก็จะยังคงตั้งหน้าตั้งตาฝึกฝนวิชามวยหวิงชุนต่อไป เพื่อไม่ให้ใครมาข่มเหงรังแกได้อีก