เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์/เอเจนซี - ตำรวจในซานตงจับกุมคนร้าย 11 ราย ลักลอบขุดศพผู้หญิงขาย เพื่อนำไปใช้ในพิธีกรรม “แต่งงานผี” สะท้อนความเชื่อดั้งเดิมเรื่องชีวิตหลังความตายและการรักษาสายตระกูลของจีนที่หยั่งรากจนถึงทุกวันนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจมณฑลซานตงนำกำลังเข้าจับกุมคนร้าย 11 รายในขบวนการลักลอบขุดศพหญิงสาวเพื่อขายให้กับครอบครัวที่ต้องการจัดพิธีกรรม “แต่งงานผี” ให้กับคนตายที่ยังโสด
ผู้ต้องสงสัยช่วยกันขุดศพผู้หญิงขึ้นมาจากสุสานของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในมณฑลซานตงเพื่อขายต่อให้กับนายหน้าในราคา 18,000 หยวน หรือราวๆ 90,000 บาท สถานีวิทยุและโทรทัศน์ซานตง รายงานเมื่อวันพฤหัสฯ(30 ต.ค.)
หัวหน้ากลุ่มผู้ต้องสงสัย แซ่หวัง ให้การว่า “ราคาศพ ยิ่งสดยิ่งแพง”
“ศพเก่าเก็บนานหลายปีทำเงินไม่ค่อยได้ แต่ถ้าเป็นศพที่ตายใหม่ๆ อย่างศพนี้ จะได้ราคาดีมาก” นายหวัง กล่าวถึงศพที่เขาเพิ่งขุดขึ้นมา ศพนี้ผู้ตายถูกฝังไปเพียงสามเดือน “แบบนี้ ถ้าขาย ก็ได้ประมาณ 16,000-18,000 หยวน (ประมาณ 80,000-90,000 บาท)
หลังขุดศพขึ้นมา ร่างของเธอก็ถูกส่งเข้าตลาดมืด ส่งต่อกันเป็นๆ ทอด ไปยังอีกหลายเมือง ก่อนจะไปสิ้นสุดที่ครอบครัวซึ่งมีชายโสดเสียชีวิต ซึ่งอยู่ในมณฑลเหอเป่ย สนนราคาที่ครอบครัวเจ้าบ่าวต้องจ่ายให้กับ “เจ้าสาวผี” คือ 38,000 หยวน หรือราวๆ190,000 บาท รายงาน ระบุ
หลังถูกจับกุม ผู้ต้องสงสัยทั้งหมดถูกตั้งข้อหา “ขโมยศพ” ซึ่งมีบทลงโทษทางอาญาจำคุกถึง 3 ปี
ด้านนายจาง หลินไห่ ตำรวจในเป่ยเฉิง เจ้าของคดี ปฏิเสธการออกความเห็นใดๆ โดยระบุเพียงว่า คดีนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน
อนึ่ง ธรรมเนียมการแต่งงานผีในจีน คือ การนำศพผู้ตายที่เสียชีวิตทั้งที่ยังโสดมาแต่งงานกันเพราะเชื่อว่าทั้งสองจะได้ใช้ชีวิตหลังความตาย ดูแลซึ่งกันและกันไป ในบางครั้งเป็นการแต่งงานระหว่าง “คนเป็น” กับ “คนตาย” เพื่อรักษาสายตระกูลผู้ชายให้สืบต่อไปได้ เนื่องจากหลังพิธีแต่งงานแล้ว ทั้งสองตระกูลก็จะถือความเกี่ยวดองเป็นญาติกัน ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผู้หญิงที่ไม่ได้แต่งงานได้ออกเรือนไปอยู่ในตระกูลของฝ่ายชาย เพราะในอดีต ความเชื่อจีนถือว่า ลูกสาวที่ไม่ได้แต่งงานคือความอับอายและเป็นภาระของครอบครัว
ทั้งนี้ ประเพณีความเชื่อนี้มีอยู่ในหลายประเทศ อาทิ ซูดาน อินเดีย ฝรั่งเศส และจีน ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีวิธีปฏิบัติแตกต่างกัน แต่ปัจจุบัน ความเชื่อนี้ค่อยๆ เลือนหายไป
เช่นเดียวกับในจีน การแต่งงานผี ปรากฏอยู่ตั้งแต่ในศตวรรษที่ 17 แต่ก็ค่อยๆ เลื่อนหายไปเช่นกัน เพราะทางการจีนตราหน้าว่า เป็นความเชื่องมงาย ล้าสมัย ทว่า ในบางพื้นที่ก็ยังคงถือปฏิบัติอยู่ โดยเฉพาะในเขตชนบทของมณฑลส่านซี ซานซี เหอหนัน เหอเป่ย และก่วงตง (กวางตุ้ง) จึงสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า ความเชื่อเรื่องนี้เป็นความเชื่อหนึ่งที่หยั่งรากลึกอยู่ในวัฒนธรรมของจีน
อย่างไรก็ดี ความเชื่อเรื่องการแต่งงานผี ในปัจจุบันกลับสร้างปัญหาให้กับสังคมมากกว่าตอบสนองจารีตดั้งเดิม เพราะการแต่งงานผีนำไปสู่อาชญากรรมหลายอย่าง เช่น การลักขโมยศพ และการฆาตกรรมเพื่อนำศพไปขาย
ในปี 2552 ที่ส่านซี พ่อผู้โศกเศร้าเนื่องจากบุตรชายอันเป็นที่รักของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชน ยอมจ่ายเงินถึง 33,000 หยวน หรือราวๆ 165,000 บาท จ้างคนขุดศพเด็กสาวที่เพิ่งฆ่าตัวตายเนื่องจากผิดหวังผลสอบเอนทรานซ์ ขึ้นมาทำพิธีแต่งงาน
ส่วนปี 2554 ในส่านซีอีกเช่นกัน เกิดเหตุฆาตกรรมหญิงท้อง เนื่องจากฆาตกรต้องการได้ศพเธอไปขายให้แก่ครอบครัวหนึ่งที่ต้องการทำพิธีกรรมแต่งงานผี ในราคา 22,000 หยวน หรือราวๆ 110,000 บาท คดีนี้คนร้ายถูกจำคุกตลอดชีวิต
เจ้าหน้าที่ตำรวจมณฑลซานตงนำกำลังเข้าจับกุมคนร้าย 11 รายในขบวนการลักลอบขุดศพหญิงสาวเพื่อขายให้กับครอบครัวที่ต้องการจัดพิธีกรรม “แต่งงานผี” ให้กับคนตายที่ยังโสด
ผู้ต้องสงสัยช่วยกันขุดศพผู้หญิงขึ้นมาจากสุสานของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในมณฑลซานตงเพื่อขายต่อให้กับนายหน้าในราคา 18,000 หยวน หรือราวๆ 90,000 บาท สถานีวิทยุและโทรทัศน์ซานตง รายงานเมื่อวันพฤหัสฯ(30 ต.ค.)
หัวหน้ากลุ่มผู้ต้องสงสัย แซ่หวัง ให้การว่า “ราคาศพ ยิ่งสดยิ่งแพง”
“ศพเก่าเก็บนานหลายปีทำเงินไม่ค่อยได้ แต่ถ้าเป็นศพที่ตายใหม่ๆ อย่างศพนี้ จะได้ราคาดีมาก” นายหวัง กล่าวถึงศพที่เขาเพิ่งขุดขึ้นมา ศพนี้ผู้ตายถูกฝังไปเพียงสามเดือน “แบบนี้ ถ้าขาย ก็ได้ประมาณ 16,000-18,000 หยวน (ประมาณ 80,000-90,000 บาท)
หลังขุดศพขึ้นมา ร่างของเธอก็ถูกส่งเข้าตลาดมืด ส่งต่อกันเป็นๆ ทอด ไปยังอีกหลายเมือง ก่อนจะไปสิ้นสุดที่ครอบครัวซึ่งมีชายโสดเสียชีวิต ซึ่งอยู่ในมณฑลเหอเป่ย สนนราคาที่ครอบครัวเจ้าบ่าวต้องจ่ายให้กับ “เจ้าสาวผี” คือ 38,000 หยวน หรือราวๆ190,000 บาท รายงาน ระบุ
หลังถูกจับกุม ผู้ต้องสงสัยทั้งหมดถูกตั้งข้อหา “ขโมยศพ” ซึ่งมีบทลงโทษทางอาญาจำคุกถึง 3 ปี
ด้านนายจาง หลินไห่ ตำรวจในเป่ยเฉิง เจ้าของคดี ปฏิเสธการออกความเห็นใดๆ โดยระบุเพียงว่า คดีนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน
อนึ่ง ธรรมเนียมการแต่งงานผีในจีน คือ การนำศพผู้ตายที่เสียชีวิตทั้งที่ยังโสดมาแต่งงานกันเพราะเชื่อว่าทั้งสองจะได้ใช้ชีวิตหลังความตาย ดูแลซึ่งกันและกันไป ในบางครั้งเป็นการแต่งงานระหว่าง “คนเป็น” กับ “คนตาย” เพื่อรักษาสายตระกูลผู้ชายให้สืบต่อไปได้ เนื่องจากหลังพิธีแต่งงานแล้ว ทั้งสองตระกูลก็จะถือความเกี่ยวดองเป็นญาติกัน ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผู้หญิงที่ไม่ได้แต่งงานได้ออกเรือนไปอยู่ในตระกูลของฝ่ายชาย เพราะในอดีต ความเชื่อจีนถือว่า ลูกสาวที่ไม่ได้แต่งงานคือความอับอายและเป็นภาระของครอบครัว
ทั้งนี้ ประเพณีความเชื่อนี้มีอยู่ในหลายประเทศ อาทิ ซูดาน อินเดีย ฝรั่งเศส และจีน ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีวิธีปฏิบัติแตกต่างกัน แต่ปัจจุบัน ความเชื่อนี้ค่อยๆ เลือนหายไป
เช่นเดียวกับในจีน การแต่งงานผี ปรากฏอยู่ตั้งแต่ในศตวรรษที่ 17 แต่ก็ค่อยๆ เลื่อนหายไปเช่นกัน เพราะทางการจีนตราหน้าว่า เป็นความเชื่องมงาย ล้าสมัย ทว่า ในบางพื้นที่ก็ยังคงถือปฏิบัติอยู่ โดยเฉพาะในเขตชนบทของมณฑลส่านซี ซานซี เหอหนัน เหอเป่ย และก่วงตง (กวางตุ้ง) จึงสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า ความเชื่อเรื่องนี้เป็นความเชื่อหนึ่งที่หยั่งรากลึกอยู่ในวัฒนธรรมของจีน
อย่างไรก็ดี ความเชื่อเรื่องการแต่งงานผี ในปัจจุบันกลับสร้างปัญหาให้กับสังคมมากกว่าตอบสนองจารีตดั้งเดิม เพราะการแต่งงานผีนำไปสู่อาชญากรรมหลายอย่าง เช่น การลักขโมยศพ และการฆาตกรรมเพื่อนำศพไปขาย
ในปี 2552 ที่ส่านซี พ่อผู้โศกเศร้าเนื่องจากบุตรชายอันเป็นที่รักของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชน ยอมจ่ายเงินถึง 33,000 หยวน หรือราวๆ 165,000 บาท จ้างคนขุดศพเด็กสาวที่เพิ่งฆ่าตัวตายเนื่องจากผิดหวังผลสอบเอนทรานซ์ ขึ้นมาทำพิธีแต่งงาน
ส่วนปี 2554 ในส่านซีอีกเช่นกัน เกิดเหตุฆาตกรรมหญิงท้อง เนื่องจากฆาตกรต้องการได้ศพเธอไปขายให้แก่ครอบครัวหนึ่งที่ต้องการทำพิธีกรรมแต่งงานผี ในราคา 22,000 หยวน หรือราวๆ 110,000 บาท คดีนี้คนร้ายถูกจำคุกตลอดชีวิต