นิตยสารฉบับปฐมฤกษ์อัลกออิดะห์ ชวนชาวอุยกูร์ซินเจียงทำสงครามศักดิ์สิทธิ์

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - กลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์เปิดแนวรบปั่นป่วนไปทั่วโลก ล่าสุดออกนิตยสารภาคภาษาอังกฤษฉบับใหม่ ปลุกระดมชาวมุสลิมเชื้อสายอุยกูร์ในภูมิภาคซินเจียงลุกฮือทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ และเข้ามาอยู่ในร่มเงาของรัฐอิสลาม

“ รีเซอร์เจนซ์” ( Resurgence) เปิดตัวฉบับแรกขนาด 117 หน้า โดยอัส-ซาฮับ ( As-Sahab) ซึ่งเป็นฝ่ายผลิตสื่อของอัลกออิดะห์ บทความหนึ่ง ที่ภูมิใจนำเสนอ มีชื่อว่า “ คุณรู้หรือไม่ ความจริง 10 ข้อเกี่ยวกับเตอร์กิสถานตะวันออก” (Did You Know? 10 Facts About East Turkistan) โดยเตอร์กิสถานตะวันออกเป็นชื่อ ที่ขบวนการแบ่งแยกดินแดนเรียกซินเจียง

แม้บทความนี้เขียนขึ้นจากข้อมูล ที่มั่วอยู่มาก เช่น การระบุว่าการสอนคัมภีร์อัลกุระอ่านในจีนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ก็แสดงให้เห็นว่า กลุ่มก่อการร้ายมุสลิมกำลังโหนกระแสความไม่พอใจของชาวอุยกูร์ ที่มีต่อนโยบายของรัฐบาลปักกิ่ง มาใช้ตอกย้ำความเชื่อ ที่ว่า ชาวมุสลิมกำลังตกอยู่ภายใต้การข่มขู่คุกคาม เช่นการสนับสนุนให้ชาวจีนเชื้อสายฮั่นอพยพเข้าไปทำมาหากินในซินเจียง และการกำหนดข้อบังคับเข้มงวดเกี่ยวกับชุดแต่งกายทางศาสนา

ไม่ใช่อัลกออิดะห์กลุ่มเดียว ที่แสดงความสนใจสถานการณ์ในซินเจียง กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอเอส ที่กำลังรุกรานดินแดนในอิรักและซีเรีย จนสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรต้องโหมปฏิบัติการโจมตีทางอากาศสกัดกั้นอยู่ในเวลานี้ ก็ไม่พลาดนาทีทอง โดยในการแถลงเพื่อเรียกร้องความจงรักภักดีจากชาวมุสลิมทั่วโลกของนายอาบู บาการ์ อัล บัคดาดี หัวหน้าไอเอส ซึ่งประกาศตนเป็นกาหลิบแห่งรัฐอิสลามเมื่อดือนก.ค. ที่ผ่านมานั้น ระบุว่า สิทธิของชาวมุสลิมในจีนกำลังถูกยึดไปด้วยการบีบบังคับใช้กำลัง

“ บรรดาพี่น้องทั่วโลกกำลังรอการกอบกู้และรอคอยกองกำลังของท่านอยู่” เขาเรียกร้อง

ทั้งนี้ รัฐบาลจีนยืนยันมานานแล้วว่า ขบวนการแบ่งแยกดินแดนในซินเจียงมีเครือข่ายเชื่อมโยงกับกลุ่มติดอาวุธต่างชาติ และหลังจากเหตุการณ์โจมตีสหรัฐฯ วันที่ 11 ก.ย 2544 จีนได้ล็อบบี้ให้สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีขบวนการอิสลามเตอร์กิสถานตะวันออก ( ETIM) อยู่ในกลุ่มถูกเฝ้าจับตามองเป็นผู้ก่อการร้าย โดยจีนกล่าวหากลุ่มETIM ว่า เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายในประเทศ ที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมทั้งเหตุไล่แทงกลางสถานีรถไฟเมืองคุนหมิงเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 31 คน และบาดเจ็บ 141 คน

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่า รากเหง้าเหตุวุ่นวายรุนแรง ที่เกิดขึ้นในซินเจียงมาจากนโยบายของรัฐบาลจีนเองทั้งหมด และจีนไม่เชื่อว่านโยบาย ซึ่งไร้ที่ติของตนจะทำให้ชาวอุยกูร์ลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล แต่โทษว่า เป็นฝีมือของกองกำลังต่างชาติที่พยายามบ่อนทำลายความสามัคคีในประเทศ

ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่า นโยบายที่ควบคุมเข้มงวดของจีนจะผลักไสให้ชาวอุยกูร์หันไปใช้ความรุนแรงสุดโต่ง แม้ที่ผ่านมากลุ่มชาวอุยกูร์หัวรุนแรงไม่สามารถทำได้มากไปกว่าการออกมาพูดระบายปัญหาด้วยถ้อยคำที่ดุเดือด แต่ไม่ได้แปรคำพูดเป็นการกระทำก็ตาม