เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- ปักกิ่งทั้งเมืองถูกหมอกควันปกคลุมอย่างหนัก จนทางการต้องเลื่อนระดับการเตือนภัยสูงขึ้นเป็นสีส้ม ระบุขั้น “อันตรายต่อสุขภาพ” ในขณะที่เมืองอื่นๆ รอบปักกิ่งก็อ่วมไม่แพ้กัน
ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กรุงปักกิ่งถูกหมอกควันรบกวนอย่างหนัก จนในที่สุดหลังถูกมลพิษทางอากาศคุกคามอยู่ 2 วัน ทางการปักกิ่งจึงประกาศเลื่อนระดับการเตือนภัยขึ้นหนึ่งขั้นเป็นสีส้ม หมายความว่า คุณภาพอากาศเป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชนแล้วจนต้องปิดถนนและจำกัดกิจกรรมนอกห้องเรียน รวมทั้งสั่งโรงงานในเมืองลดการปล่อยควันลง 30 เปอร์เซ็นต์ พร้อมทั้งสั่งปิดทางหลวงอีก 18 สายที่มุ่งเข้าปักกิ่ง ฮาร์ปิน และเซี่ยงไฮ้ และออกประกาศให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากกันมลพิษก่อนออกจากบ้าน
ก่อนหน้านี้ การเตือนภัยมลพิษทางอากาศของปักกิ่งอยู่ระดับสีเหลือง ซึ่งเป็นระดับสองของระบบการเตือนภัยมลพิษทางอากาศที่มีอยู่สี่ระดับ
ส่วนดัชนีคุณภาพอากาศอย่างเป็นทางการของปักกิ่งวานนี้(9 ต.ค.) เมื่อเวลา 4 โมงเย็น ตัวเลขแตะ 470 ทั้งนี้ ค่าดัชนีที่สูงกว่าระดับ 300 ถือเป็นมลพิษอากาศขั้น “ร้ายแรง
ในขณะที่รัฐบาลปักกิ่งก็ตื่นตัวกับสถานการณ์ดังกล่าว จนต้องเรียกประชุมหาทางออกเมื่อกลางดึกคืนวันพุธที่ผ่านมา (8 ต.ค.) เพราะระดับฝุ่นละอองขนาดจิ๋ว หรือ PM25 ซึ่งสามารถเล็ดลอดเข้าปอดทำอันตรายกับร่างกายของมนุษย์ สูงถึง 455 ไมโครกรัมต่อคิวบิกเมตร คิดเป็น 18 เท่าของปริมาณที่องค์การอนามัยโลก (WHO)ระบุไว้ว่าปลอดภัย
ส่วนกรมการปกป้องสิ่งแวดล้อมของปักกิ่ง ก็ออกมาตำหนิว่า นอกจากมลพิษทางอากาศแล้ว ยังเป็นเพราะสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้อากาศเสียไม่สามารถระบายออกไปได้ จึงลอยไปปกคลุมเมืองใกล้เคียง
ทั้งนี้ กรมอุตุวิทยาของจีน รายงานว่า หมอกควันพิษ ไม่เพียงแต่คุกคามปักกิ่งเท่านั้น ยังปกคลุมอีกหลายเมืองรอบๆ ปักกิ่ง โดยเฉพาะในเหอเป่ยและส่านซี ทั้ง สิงไถ สือจยาจวง ติ้งโจว และหยางเฉวียน
บรรยายภาพกราฟิก: ดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index/AQI) เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 ต.ค. 2557 ทั้งนี้ ดัชนีคุณภาพอากาศชุดนี้ จัดทำโดยกระทรวงพิทักษ์สิ่งแวดล้อมจีน ค่าดัชนีที่สูงกว่าระดับ 300 ถือเป็นมลพิษอากาศขั้น “ร้ายแรง”
ในเหอเป่ยเอง ก็มีการยกระดับการเตือนภัยระดับสีส้มเช่นกันในวันที่สองที่ถูกหมอกควันเล่นงาน เพราะดัชนีคุณภาพอากาศในสิงไถ ทางตอนใต้ของมณฑลสูงเกินระดับที่จำกัดไว้
ทางการระบุว่า การเผาฟางข้าวตามชนบทของเหอเป่ย เหอหนัน และซานตง ทำให้สถานการณ์หมอกควันเลวร้ายลง
ด้านกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ กรีนพีซ (Green Peace) ก็ออกมาตั้งข้อสังเกตรัฐบาลปักกิ่งว่า เหตุใดจึงไม่ออกมาตรการเตือนภัยมลพิษทางอากาศในระดับสูงสุดเป็นสีแดง เพื่อปกป้องเด็กๆซึ่งเปราะบางต่อมลพิษทางอากาศ เพราะมาตรการเตือนภัยระดับนี้จะมีการหยุดโรงเรียนเป็นการชั่วคราวและปิดถนนหลายสายเกือบครึ่งของเมือง ทว่าปักกิ่งก็ยังไม่เคยใช้การเตือนภัยมลพิษฯในระดับนี้มาก่อน ตั้งแต่เริ่มใช้ระบบการเตือนฯ ตั้งแต่ปีที่แล้ว (2556)
อย่างไรก็ตาม ทางการคาดไว้ว่า สถานการณ์หมอกควันจะเป็นแบบนี้ต่อไปกระทั่งวันพรุ่งนี้ (11 ต.ค.) ก่อนที่อุณหภูมิความเย็นจะเข้าสลายกลุ่มหมอกควัน
“มันเป็นหน้าหมอกควันอีกแล้ว ตอนนี้ฉันแค่สงสัยว่าตัวเองจะมีอายุอยู่จนเขาแก้ปัญหาได้หรือเปล่า” สู จี้ยหวี ชาวปักกิ่ง วัย 32 กล่าว “หากรัฐบาลแก้ปัญหานี้ให้ประชาชนไม่ได้ เราควรมีวันหยุดงานในวันที่หมอกควันลงหนักๆ”
ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กรุงปักกิ่งถูกหมอกควันรบกวนอย่างหนัก จนในที่สุดหลังถูกมลพิษทางอากาศคุกคามอยู่ 2 วัน ทางการปักกิ่งจึงประกาศเลื่อนระดับการเตือนภัยขึ้นหนึ่งขั้นเป็นสีส้ม หมายความว่า คุณภาพอากาศเป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชนแล้วจนต้องปิดถนนและจำกัดกิจกรรมนอกห้องเรียน รวมทั้งสั่งโรงงานในเมืองลดการปล่อยควันลง 30 เปอร์เซ็นต์ พร้อมทั้งสั่งปิดทางหลวงอีก 18 สายที่มุ่งเข้าปักกิ่ง ฮาร์ปิน และเซี่ยงไฮ้ และออกประกาศให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากกันมลพิษก่อนออกจากบ้าน
ก่อนหน้านี้ การเตือนภัยมลพิษทางอากาศของปักกิ่งอยู่ระดับสีเหลือง ซึ่งเป็นระดับสองของระบบการเตือนภัยมลพิษทางอากาศที่มีอยู่สี่ระดับ
ส่วนดัชนีคุณภาพอากาศอย่างเป็นทางการของปักกิ่งวานนี้(9 ต.ค.) เมื่อเวลา 4 โมงเย็น ตัวเลขแตะ 470 ทั้งนี้ ค่าดัชนีที่สูงกว่าระดับ 300 ถือเป็นมลพิษอากาศขั้น “ร้ายแรง
ในขณะที่รัฐบาลปักกิ่งก็ตื่นตัวกับสถานการณ์ดังกล่าว จนต้องเรียกประชุมหาทางออกเมื่อกลางดึกคืนวันพุธที่ผ่านมา (8 ต.ค.) เพราะระดับฝุ่นละอองขนาดจิ๋ว หรือ PM25 ซึ่งสามารถเล็ดลอดเข้าปอดทำอันตรายกับร่างกายของมนุษย์ สูงถึง 455 ไมโครกรัมต่อคิวบิกเมตร คิดเป็น 18 เท่าของปริมาณที่องค์การอนามัยโลก (WHO)ระบุไว้ว่าปลอดภัย
ส่วนกรมการปกป้องสิ่งแวดล้อมของปักกิ่ง ก็ออกมาตำหนิว่า นอกจากมลพิษทางอากาศแล้ว ยังเป็นเพราะสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้อากาศเสียไม่สามารถระบายออกไปได้ จึงลอยไปปกคลุมเมืองใกล้เคียง
ทั้งนี้ กรมอุตุวิทยาของจีน รายงานว่า หมอกควันพิษ ไม่เพียงแต่คุกคามปักกิ่งเท่านั้น ยังปกคลุมอีกหลายเมืองรอบๆ ปักกิ่ง โดยเฉพาะในเหอเป่ยและส่านซี ทั้ง สิงไถ สือจยาจวง ติ้งโจว และหยางเฉวียน
บรรยายภาพกราฟิก: ดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index/AQI) เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 ต.ค. 2557 ทั้งนี้ ดัชนีคุณภาพอากาศชุดนี้ จัดทำโดยกระทรวงพิทักษ์สิ่งแวดล้อมจีน ค่าดัชนีที่สูงกว่าระดับ 300 ถือเป็นมลพิษอากาศขั้น “ร้ายแรง”
ในเหอเป่ยเอง ก็มีการยกระดับการเตือนภัยระดับสีส้มเช่นกันในวันที่สองที่ถูกหมอกควันเล่นงาน เพราะดัชนีคุณภาพอากาศในสิงไถ ทางตอนใต้ของมณฑลสูงเกินระดับที่จำกัดไว้
ทางการระบุว่า การเผาฟางข้าวตามชนบทของเหอเป่ย เหอหนัน และซานตง ทำให้สถานการณ์หมอกควันเลวร้ายลง
ด้านกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ กรีนพีซ (Green Peace) ก็ออกมาตั้งข้อสังเกตรัฐบาลปักกิ่งว่า เหตุใดจึงไม่ออกมาตรการเตือนภัยมลพิษทางอากาศในระดับสูงสุดเป็นสีแดง เพื่อปกป้องเด็กๆซึ่งเปราะบางต่อมลพิษทางอากาศ เพราะมาตรการเตือนภัยระดับนี้จะมีการหยุดโรงเรียนเป็นการชั่วคราวและปิดถนนหลายสายเกือบครึ่งของเมือง ทว่าปักกิ่งก็ยังไม่เคยใช้การเตือนภัยมลพิษฯในระดับนี้มาก่อน ตั้งแต่เริ่มใช้ระบบการเตือนฯ ตั้งแต่ปีที่แล้ว (2556)
อย่างไรก็ตาม ทางการคาดไว้ว่า สถานการณ์หมอกควันจะเป็นแบบนี้ต่อไปกระทั่งวันพรุ่งนี้ (11 ต.ค.) ก่อนที่อุณหภูมิความเย็นจะเข้าสลายกลุ่มหมอกควัน
“มันเป็นหน้าหมอกควันอีกแล้ว ตอนนี้ฉันแค่สงสัยว่าตัวเองจะมีอายุอยู่จนเขาแก้ปัญหาได้หรือเปล่า” สู จี้ยหวี ชาวปักกิ่ง วัย 32 กล่าว “หากรัฐบาลแก้ปัญหานี้ให้ประชาชนไม่ได้ เราควรมีวันหยุดงานในวันที่หมอกควันลงหนักๆ”