เอเจนซีส์ - ทางการฟิลิปปินส์สั่งอพยพประชาชนกว่า 12,000 คนออกจากพื้นที่รอบๆ ภูเขาไฟมายอน (Mayon) หลังแสงสีส้มแดงจากธารลาวาเริ่มปรากฏให้เห็นบริเวณปากปล่อง
ภูเขาไฟมายอนซึ่งมีรูปทรงกรวยเกือบสมมาตร และเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของภูมิภาคบิโคล (Bicol) ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์ เกิดการสั่นสะเทือนและมีหินถล่มลงมาจากลาดภูเขาหลายครั้งไม่นานมานี้ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าการปะทุรอบใหม่อาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
“เราได้ยกระดับการเตือนภัยภูเขาไฟมายอนจากขั้น 2 สู่ขั้นที่ 3” เรนาโต โซลิดัม ผู้อำนวยการสถาบันภูเขาไฟและแผ่นดินไหววิทยาแห่งฟิลิปปินส์ (Philvocs) ให้สัมภาษณ์ในวันนี้ (16)
โจอี ซัลเซดา ผู้ว่าการจังหวัดอัลเบย์ ระบุว่า เวลานี้มีประชาชนถูกสั่งอพยพแล้วไม่ต่ำกว่า 12,000 คน
“การเตือนภัยขั้นที่ 3 ทำให้เราต้องเร่งอพยพชาวบ้าน 12,000 ครอบครัวออกมาจากรัศมี 6-8 กิโลเมตรรอบภูเขาไฟ ซึ่งจัดเป็นพื้นที่อันตราย” เขากล่าว
เจ้าหน้าที่ได้ตระเตรียมที่พักชั่วคราวซึ่งสามารถรองรับผู้อพยพได้นานถึง 3 เดือน ซึ่งหากภูเขาไฟมายอนปะทุขึ้นจริง จะมีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของปากปล่องภูเขาไฟอพยพมายังศูนย์พักพิงเพิ่มเติมด้วย
ด้านกองทัพฟิลิปปินส์ได้ประกาศเขตห้ามเข้า เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนกลับเข้าไปยังบ้านเรือนในพื้นที่เสี่ยง
ทั้งนี้ คาดว่าการปะทุครั้งใหญ่ของภูเขาไฟมายอนจะไม่กระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรของฟิลิปปินส์ เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่อาศัยผืนดินรอบภูเขาไฟเป็นแหล่งเพาะปลูกแบบพอมีพอกินเท่านั้น และบริเวณดังกล่าวก็ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
การปะทุของภูเขาไฟมายอนอาจยิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวเสียด้วยซ้ำ เช่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 2009
ภูเขาไฟมายอนซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 330 กิโลเมตร เคยเกิดการปะทุเกือบ 50 ครั้งในรอบ 600 ปี ครั้งที่รุนแรงที่สุดคือเมื่อปี 1841 ซึ่งลาวาได้ไหลลงมาท่วมเมืองเล็กๆ และคร่าชีวิตชาวบ้านไปถึง 1,200 คน