ยอดป่วยไข้เลือดออกในกวางตุ้งพุ่งพรวด แค่สามวันพบเพิ่มมากกว่าพันราย

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - กวางตุ้งเผชิญวิกฤต “ไข้เลือดออก” ถล่มเมือง แค่สามวันพบเหยื่อป่วยเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 คน เร่งเตือนประชาชนพบหมอเพื่อรักษาทันท่วงที พร้อมช่วยกันกำจัดวายร้ายนำโรคอย่างยุงลายให้สิ้นซาก

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) มณฑลก่วงตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน รายงานการแพร่ระบาดของโรคไข้เด็งกี (Dengue) หรือไข้เลือดออกในหมู่ประชาชนท้องถิ่น โดยตั้งแต่ต้นปีพบผู้ป่วยรวม 6,089 ราย หรือมากกว่า 10 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

นครก่วงโจว (กวางเจา) เมืองเอกของก่วงตง กลายเป็นพื้นที่วิกฤตหนักสุด โดยครองสัดส่วนผู้ป่วย 5,190 ราย หรือกว่าร้อยละ 85 ของผู้ป่วยทั้งหมด และจำนวนนี้ มี 1,200 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ที่ติดเชื้อในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ และจันทร์ (20-22 ก.ย.) ที่ผ่านมา

ส่วนเมืองฝัวซานที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงพบรายงานผู้ป่วย 622 ราย ขณะที่เมืองจงซานและเมืองเจียงเหมินถูกจัดอยู่ในพื้นที่ความเสี่ยงสูง

หยัง จื้อฉง รองหัวหน้าศูนย์ซีดีซีในนครก่วงโจว กล่าวว่า การปฏิเสธความร่วมมือของสมาชิกหน่วยงานรัฐหรือสาธารณสุขท้องถิ่นจำนวนมากเป็นสาเหตุให้ยอดผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น ดังเช่นสวนสัตว์นครก่วงโจวปฏิเสธให้หน่วยงานของหยังเข้าติดตามสถานการณ์ยุงด้านในอาณาเขตสวนสัตว์

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ได้ตั้งสถานีเฝ้าระวัง 177 แห่ง เพื่อติดตามสถานการณ์ยุงลายบ้าน ซึ่งทราบกันดีว่าเป็นพาหะนำโรคที่แพร่กระจายเชื้อไวรัสไข้เลือดออกสู่มนุษย์

“ยังพบผู้ป่วยวัยชราสองรายเสียชีวิต ซึ่งต่างมีโรคประจำตัวเป็นความดันเลือดสูงและเบาหวาน โดยนับเป็นกรณีเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกครั้งแรกของเมืองในรอบหลายปี” อิ๋น จือเปี่ยว ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประชาชนหมายเลข 8 นครก่วงโจว กล่าว ทั้งนี้ โรงพยาบาลได้รองรับผู้ป่วยไข้เลือดออก 199 ราย โดยแพทย์ชี้ว่ามี 15 ราย ที่อาการรุนแรง

อนึ่ง เจ้าหน้าที่ก่วงตงได้แจ้งเตือนประชาชนผ่านทางโทรศัพท์ กระตุ้นให้ชาวบ้านไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาแต่เนิ่นๆ และลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนหรือการเสียชีวิต รวมถึงขอให้ช่วยกันจำกัดปริมาณยุงลาย โดยเฉพาะทำความสะอาดแหล่งน้ำนิ่งอันเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ชั้นดี

ด้านศูนย์ป้องกันโรคของเกาะฮ่องกง ซึ่งมีพรมแดนติดกับมณฑลก่วงตง กล่าว (22 ก.ย.) ว่า พบผู้ป่วยไข้เลือดออก 66 ราย ในปีนี้ โดยทั้งหมดได้รับเชื้อจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่จากอินโดนีเซียและไทย ขณะที่รายหนึ่งรับเชื้อมาจากแผ่นดินใหญ่ จึงได้แจ้งเตือนนักเดินทางให้เพิ่มความระมัดระวัง หากต้องพำนักอยู่ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้