รอยเตอร์ส- รัฐบาลจีนประกาศให้รางวัลคนแจ้งเบาะแสเรื่อง “ก่อการร้าย” ในซินเจียง สูงถึง 1 ล้านหยวน
รัฐบาลจีน เข็นนโยบายล่าสุดออกรับมือกับการก่อการร้ายในซินเจียง วานนี้ ( 9 ก.ย.) ประกาศ ให้รางวัลคนแจ้งเบาะแสสูงถึง 1 ล้าน หยวน หรือ ราวๆ 5 ล้านบาท โดยทางการซินเจียง เตรียมเงินอุดหนุนนโยบายนี้ไว้ถึง 300 ล้านหยวน (1,500 ล้านบาท) ซินหวา รายงาน
โดยราคาค่าตอบแทน ที่เจ้าหน้าที่ทางการในอุรุมชี (อูหลู่มู่ฉี) เมืองหลวงของซินเจียง เตรียมไว้จ่ายให้ผู้แจ้งเบาะแสแต่ละรายนั้น ขึ้นอยู่กับว่า “ข่าวดังกล่าวเป็นภัยร้ายแรงมากแค่ไหน และคนร้ายที่ทางการได้ข้อมูลมา มีบทบาทสำคัญอย่างไรในขบวนการก่อการร้าย”
ส่วนเบาะแสที่ทางการต้องการหลักๆ ก็คือเรื่อง การจัดตั้งกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มต่างๆ กลุ่มที่เป็นแกนนำ วิธีการเข้าร่วมกลุ่มฯ การจัดการกลุ่มฯ และกระบวนการดำเนินงานทั้งหมด ทั้งเรื่องการขนส่ง การหลบซ่อนตัว และการให้ความช่วยเหลือผู้ก่อการร้าย เรียกได้ว่า ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับกลุ่มก่อการร้าย ตั้งแต่การฝึกคนร้าย ไปจนกระทั่งการไว้หนวดเครา ซินหวา รายงาน
อย่างไรก็ตาม ทางการฯ ระบุว่า จะเก็บรักษาข้อมูลของแหล่งข่าวไว้เป็นความลับ
ทั้งนี้ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ภูมิภาคต่างๆ และมณฑลอีกหลายแห่งของจีน ต่างพากันออกนโยบายให้เงินค่าเบาะแสการก่อการร้าย อาทิ ในเดือนก.ค. (2557) ที่ผ่านมา รัฐบาลท้องถิ่นของมณฑลก่วงตงก็เสนอเงินสูงถึง 80,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 2,480,000 บาท ให้แก่ผู้แจ้งเบาะแสการก่อการร้าย เพราะปัจจุบัน จีนกำลังประสบปัญหาความรุนแรงจากการก่อการร้าย อย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะในซินเจียง ถิ่นอาศัยของชนกลุ่มน้อย ชนชาติอุยกูร์ผู้นับถือศาสนาอิสลามและพูดภาษาเตอร์กิค เกิดเหตุนองเลือดอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุด เมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมาก็เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในย่านตลาดใจกลางเมือง คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 39 ราย ทำให้นับตั้งแต่ปีที่แล้ว (2556) เป็นต้นมา ความไม่สงบในซินเจียงระลอกนี้ ทำให้ประชาชนเสียชีวิตไปแล้ว มากกว่า 200 คน
ทั้งหมดนี้ รัฐบาลแผ่นดินใหญ่เชื่อว่า เป็นฝีมือของของพวกลัทธิแบ่งแยกดินแดนและกลุ่มติดอาวุธมุสลิมในซินเจียง ที่ต้องการหั่นแผ่นดินจีนออกไปตั้ง “เตอร์กิสถานตะวันออก” (East Turkestan) ของตัวเอง
ในขณะที่ นักวิเคราะห์หลายคน ระบุว่า รัฐบาลจีน ตระหนักดีว่า ซินเจียงเป็นพื้นที่ที่ร่ำรวยด้วยทรัพยากร เป็นจุดยุทธศาสตร์ มีพรมแดนติดกับเอเชียกลาง ดังนั้นจึงเป็นพื้นที่ที่มีบทบาทสำคัญชี้ขาด เพราะจีนต้องการแหล่งพลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนกลุ่มอุยกูร์พลัดถิ่น และนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ก็ออกมาตอบโต้รัฐบาลกลางว่า แท้ที่จริงแล้ว ปมความขัดแย้งในซินเจียงมาจากการที่รัฐบาลกดขี่ทางวัฒนธรรม ศาสนา มาตรการความมั่นคง และการผลักดันชาวจีนฮั่นแห่เข้าไปทำงานในซินเจียง ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรเหมือง ส่วนการพัฒนาเศรษฐกิจในซินเจียง ก็เอื้อผลประโยชน์ให้กับชาวจีนฮั่น ดังนั้นจึงสร้างความขุ่นเคืองใจให้กับคนท้องถิ่น ซึ่งส่วนใหญ่คนชาวอุยกูร์
รัฐบาลจีน เข็นนโยบายล่าสุดออกรับมือกับการก่อการร้ายในซินเจียง วานนี้ ( 9 ก.ย.) ประกาศ ให้รางวัลคนแจ้งเบาะแสสูงถึง 1 ล้าน หยวน หรือ ราวๆ 5 ล้านบาท โดยทางการซินเจียง เตรียมเงินอุดหนุนนโยบายนี้ไว้ถึง 300 ล้านหยวน (1,500 ล้านบาท) ซินหวา รายงาน
โดยราคาค่าตอบแทน ที่เจ้าหน้าที่ทางการในอุรุมชี (อูหลู่มู่ฉี) เมืองหลวงของซินเจียง เตรียมไว้จ่ายให้ผู้แจ้งเบาะแสแต่ละรายนั้น ขึ้นอยู่กับว่า “ข่าวดังกล่าวเป็นภัยร้ายแรงมากแค่ไหน และคนร้ายที่ทางการได้ข้อมูลมา มีบทบาทสำคัญอย่างไรในขบวนการก่อการร้าย”
ส่วนเบาะแสที่ทางการต้องการหลักๆ ก็คือเรื่อง การจัดตั้งกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มต่างๆ กลุ่มที่เป็นแกนนำ วิธีการเข้าร่วมกลุ่มฯ การจัดการกลุ่มฯ และกระบวนการดำเนินงานทั้งหมด ทั้งเรื่องการขนส่ง การหลบซ่อนตัว และการให้ความช่วยเหลือผู้ก่อการร้าย เรียกได้ว่า ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับกลุ่มก่อการร้าย ตั้งแต่การฝึกคนร้าย ไปจนกระทั่งการไว้หนวดเครา ซินหวา รายงาน
อย่างไรก็ตาม ทางการฯ ระบุว่า จะเก็บรักษาข้อมูลของแหล่งข่าวไว้เป็นความลับ
ทั้งนี้ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ภูมิภาคต่างๆ และมณฑลอีกหลายแห่งของจีน ต่างพากันออกนโยบายให้เงินค่าเบาะแสการก่อการร้าย อาทิ ในเดือนก.ค. (2557) ที่ผ่านมา รัฐบาลท้องถิ่นของมณฑลก่วงตงก็เสนอเงินสูงถึง 80,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 2,480,000 บาท ให้แก่ผู้แจ้งเบาะแสการก่อการร้าย เพราะปัจจุบัน จีนกำลังประสบปัญหาความรุนแรงจากการก่อการร้าย อย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะในซินเจียง ถิ่นอาศัยของชนกลุ่มน้อย ชนชาติอุยกูร์ผู้นับถือศาสนาอิสลามและพูดภาษาเตอร์กิค เกิดเหตุนองเลือดอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุด เมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมาก็เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในย่านตลาดใจกลางเมือง คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 39 ราย ทำให้นับตั้งแต่ปีที่แล้ว (2556) เป็นต้นมา ความไม่สงบในซินเจียงระลอกนี้ ทำให้ประชาชนเสียชีวิตไปแล้ว มากกว่า 200 คน
ทั้งหมดนี้ รัฐบาลแผ่นดินใหญ่เชื่อว่า เป็นฝีมือของของพวกลัทธิแบ่งแยกดินแดนและกลุ่มติดอาวุธมุสลิมในซินเจียง ที่ต้องการหั่นแผ่นดินจีนออกไปตั้ง “เตอร์กิสถานตะวันออก” (East Turkestan) ของตัวเอง
ในขณะที่ นักวิเคราะห์หลายคน ระบุว่า รัฐบาลจีน ตระหนักดีว่า ซินเจียงเป็นพื้นที่ที่ร่ำรวยด้วยทรัพยากร เป็นจุดยุทธศาสตร์ มีพรมแดนติดกับเอเชียกลาง ดังนั้นจึงเป็นพื้นที่ที่มีบทบาทสำคัญชี้ขาด เพราะจีนต้องการแหล่งพลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนกลุ่มอุยกูร์พลัดถิ่น และนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ก็ออกมาตอบโต้รัฐบาลกลางว่า แท้ที่จริงแล้ว ปมความขัดแย้งในซินเจียงมาจากการที่รัฐบาลกดขี่ทางวัฒนธรรม ศาสนา มาตรการความมั่นคง และการผลักดันชาวจีนฮั่นแห่เข้าไปทำงานในซินเจียง ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรเหมือง ส่วนการพัฒนาเศรษฐกิจในซินเจียง ก็เอื้อผลประโยชน์ให้กับชาวจีนฮั่น ดังนั้นจึงสร้างความขุ่นเคืองใจให้กับคนท้องถิ่น ซึ่งส่วนใหญ่คนชาวอุยกูร์