เอเจนซี - สาวกแอปเปิลแหว่งแดนมังกรเฮ เจ้าพ่อไอทีสัญชาติมะกันตัดริบบิ้นศูนย์ “ไอคลาวด์” เอาใจลูกค้า ท่ามกลางความระแวงช่องโหว่ให้รัฐบาลจอมเข้มงวดแอบล้วงข้อมูลผู้ใช้ในประเทศ
แอปเปิล ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์ไอทีของสหรัฐฯ เปิดเผย (15 ส.ค.) การตั้งศูนย์บริการจัดเก็บข้อมูลออนไลน์ หรือไอคลาวด์ (iCloud) เป็นครั้งแรกบนจีนแผ่นดินใหญ่ โดยเป็นการร่วมมือกับไชน่า เทเลคอม (China Telecom Corporation Limited) บริษัทสื่อสารโทรคมนาคมขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ที่มีรัฐบาลถือหุ้นส่วนหลัก
“นับเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญที่เราตั้งใจอำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้บริการชาวจีน หลังจากที่ผ่านมามักพบคำตำหนิปัญหาความล่าช้าของโครงข่ายไอคลาวด์”
“ไชน่า เทเลคอม ได้เข้ามาอยู่ในรายนามผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลของแอปเปิล โดยทำหน้าที่เพิ่มอัตราการส่งถ่ายข้อมูล (bandwidth) และยกระดับการทำงานของระบบ เพื่อลูกค้าคนสำคัญในประเทศจีน”
อย่างไรก็ดี คำแถลงของแอปเปิลก่อให้เกิดคำถามถึง “ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว” ของข้อมูลผู้ใช้ ว่าจะรอดพ้นมาตรการเซ็นเซอร์และเฝ้าติดตามของทางการจีนหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้แอปเปิลชี้แจงว่า “บริษัทให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว โดยการจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดจะใช้วิธีแปลงข้อความเป็นรหัส ซึ่งไชน่าฯ ไม่อาจเข้าถึงเนื้อหาส่วนนี้ได้”
อนึ่ง ระบบไอคลาวด์เปิดตัวครั้งแรกในเดือน ต.ค. 2554 เป็นการให้บริการเชื่อมต่อ (sync) สำรอง และกู้คืนข้อมูลต่างๆ อาทิ รูปภาพ เพลง เอกสาร และอื่นๆ ระหว่างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของแอปเปิลอย่างโทรศัพท์มือถือไอโฟน แท็บเล็ตไอแพด ฯลฯ กับคลังเก็บออนไลน์บนเว็บไซต์ โดยปัจจุบันมีผู้ใช้บริการกว่า 320 ล้านราย
ด้านบทความฉบับวันอังคาร (12 ส.ค.) ก่อนหน้านี้บนเว็บไซต์รัฐบาลท้องถิ่นเมืองฝูโจว มณฑลเจียงซี ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของระบบไอคลาวด์ในจีน ได้เริ่มมีผลตั้งแต่ราว 05.00 น. ของวันศุกร์ (8 ส.ค.) ซึ่งคาดว่าจะช่วยปรับปรุงระยะเวลาให้บริการ (uptime) แตะระดับ 99.99 เปอร์เซ็นต์ อันหมายถึงผู้ใช้สามารถคงสถานะออนไลน์ได้เกือบตลอดเวลา โดยจะมีการทดสอบและประเมินผลทางเทคนิคเป็นระยะเวลา 15 เดือน
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยโลกอินเทอร์เน็ตในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า เทคโนโลยีแปลงข้อมูลเป็นรหัสที่แอปเปิลใช้อยู่นั้นมีความน่าเชื่อถือสูง แต่ก็ควรมีระบบแจ้งเตือนและป้องกันความพยายามเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลอย่างผิดกฎหมาย
“การสกัดกั้นและการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บในจีนนั้นทำได้ง่ายดายกว่าในสหรัฐฯ มาก” ความเห็นของกูรูด้านไอที ที่ขอไม่เปิดเผยนามเนื่องจากกล่าวถึงประเด็นที่เกี่ยวพันความอ่อนไหวทางการเมือง
“ผมสงสัยว่าอาจมีการตกลงกันระหว่างแอปเปิลและรัฐบาลปักกิ่ง ทำนองว่า คุณย้ายศูนย์ข้อมูลของคุณมาที่จีน ไม่งั้นก็เตรียมรับคำสั่งแบนไอคลาวด์”
“มันไม่ใช่เรื่องใหม่ จีนเคยกดไฟแดงวินโดวส์ 8 เพราะการทำงานที่จัดส่งข้อมูลไปเก็บไว้ที่คลังในสหรัฐฯ มาก่อนแล้ว” โดยทางการจีนสั่งห้ามหน่วยงานรัฐใช้โปรแกรมวินโดวส์ 8 ด้วยเหตุผลว่า “เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ” และเมื่อไม่นานมานี้ก็มีรายงานสั่งห้ามซื้ออุปกรณ์ไอทีของแอปเปิลในรัฐบาลจีน ซึ่งต่อมาสำนักงานจัดซื้อจัดจ้างของรัฐได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว