เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- ภาคเอกชนจีนออกมาเรียงร้อง ขอจักรพรรดิญี่ปุ่นพระราชทานคืนจารึกโบราณสมัยราชวงศ์ถัง ที่ยึดไปในช่วงสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น
ความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่น ระอุอีกครั้ง เมื่อกลุ่มสมาคมชาวจีนเรียกร้องค่าชดเชยจากญี่ปุ่น (Chinese Association for Claiming Compensation from Japan) โดยนายถง เจิ้ง ประธานสมาคมฯ ออกรณรงค์เรียกร้อง เพื่อ “แสดงเสียงของประชาชนจีน” เป็นครั้งแรก ขอให้จักรพรรดิอะกิฮิโตะของญี่ปุ่น พระราชทานคืนจารึกโบราณสมัยราชวงศ์ถัง ที่ยึดไปในช่วงสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น นายถง กล่าว
จารึกโบราณดังกล่าว มีอายุอยู่ในช่วงราชวงศ์ถัง (พ.ศ.1161-1450) จารึกด้วยอักษรจีน ซึ่งญี่ปุ่นยึดจากเขตหลู่ชุ่นโก่ว ในเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ระหว่างที่ญี่ปุ่นยึดครองภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนในปี 2451 หลังสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ปักกิ่ง นิวส์ รายงาน ทั้งนี้ มีภาพถ่ายจารึกโบราณยืนยันว่า หินก้อนดังกล่าวอยู่ในพระราชวังอิมพีเรียลของญี่ปุ่น
นายถง ระบุว่า เขายื่นจดหมายขอให้พระองค์พระราชทานคืนไปทางนายมาซาโต้ คิเตระ ทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศจีน ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (7 ส.ค.) ที่ผ่านมา และกำลังรอคำตอบจากทางญี่ปุ่นอยู่
นอกจากนี้ นายถง ยังพยายามติดต่อขอความช่วยเหลือจากฝ่ายการต่างประเทศและฝ่ายวัตถุโบราณทางวัฒนธรรมเพื่อ “หาแนวร่วมและส่งสารถึงองค์จักรพรรดิญี่ปุ่นให้ชัดเจน” นายถง กล่าว
“หลักฐานการย้าย (ศิลาจารึก) มีอยู่ชัดเจน และหากองค์จักรพรรดิยอมพระราชทานคืนให้จีน ก็จะทำให้อุปสรรคระหว่างจีนกับญี่ปุ่นหมดไป และเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่น” นายถง กล่าว “หาไม่แล้ว ความบาดหมางก็จะยังคงอยู่ต่อไป”
“ผมว่า เรื่องทางประวัติศาสตร์ องค์จักรพรรดิทรงปรีชากว่าชินโซ อาเบะ” นายถง ระบุ
ด้านแนวปฏิบัติมาตรฐานระหว่างประเทศ ระบุว่า รัฐบาลมีสิทธิตามหลักการในการร้องขอวัตถุทางวัฒนธรรมที่สูญหายระหว่างสงครามคืน แต่มิใช่โดยกลุ่มพลเรือน นายกวน เจี้ยนเชียง อาจารย์ด้านกฎหมายระหว่างประเทศ จาก มหาวิทยาลัยการเมืองและกฎหมายแห่งจีนตะวันออก ในเซี่ยงไฮ้ กล่าวกับ เดอะ นิวส์ “นอกเสียจากว่า รัฐบาลจะเป็นผู้อนุญาตกลุ่มพลเรือน”
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐหน่วยใดให้การสนับสนุนเขา แต่นายถงก็ยังมีความหวัง
นายถง กล่าวว่า เขาขับเคลื่อนเรื่องนี้ เพราะได้รับแรงบันดาลใจมาจากการทำงานของรัฐบาลเกาหลีใต้ในปี 2548 ที่พยายามจนญี่ปุ่นส่งมอบแผ่นศิลาจารึกคืน ทั้งนี้ศิลาจารึกดังกล่าวถูกริบไปช่วงที่ญี่ปุ่นเข้ายึดคาบสมุทรเกาหลีระหว่างสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น
อย่างไรก็ดี แม้โครงการรณรงค์นี้จะออกมาในช่วงที่รัฐบาลจีนและสื่อกำลังอยู่ในช่วงรำลึกสงครามจีน-ญี่ปุ่น ครั้งที่หนึ่ง ครบรอบ 120 ปี ซึ่งจีนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่นายถง ก็ยืนกรานว่าไม่ได้ตั้งใจใช้โอกาสนี้เคลื่อนไหว
นายถง กล่าวว่า หากจำเป็น เขาก็จะเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อร้องขอจารึกโบราณคืนจากรัฐบาลญี่ปุ่นโดยตรง แต่คงต้องติดต่อกับทางเกาหลีใต้ก่อนเพื่อขอคำแนะนำ
ความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่น ระอุอีกครั้ง เมื่อกลุ่มสมาคมชาวจีนเรียกร้องค่าชดเชยจากญี่ปุ่น (Chinese Association for Claiming Compensation from Japan) โดยนายถง เจิ้ง ประธานสมาคมฯ ออกรณรงค์เรียกร้อง เพื่อ “แสดงเสียงของประชาชนจีน” เป็นครั้งแรก ขอให้จักรพรรดิอะกิฮิโตะของญี่ปุ่น พระราชทานคืนจารึกโบราณสมัยราชวงศ์ถัง ที่ยึดไปในช่วงสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น นายถง กล่าว
จารึกโบราณดังกล่าว มีอายุอยู่ในช่วงราชวงศ์ถัง (พ.ศ.1161-1450) จารึกด้วยอักษรจีน ซึ่งญี่ปุ่นยึดจากเขตหลู่ชุ่นโก่ว ในเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ระหว่างที่ญี่ปุ่นยึดครองภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนในปี 2451 หลังสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ปักกิ่ง นิวส์ รายงาน ทั้งนี้ มีภาพถ่ายจารึกโบราณยืนยันว่า หินก้อนดังกล่าวอยู่ในพระราชวังอิมพีเรียลของญี่ปุ่น
นายถง ระบุว่า เขายื่นจดหมายขอให้พระองค์พระราชทานคืนไปทางนายมาซาโต้ คิเตระ ทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศจีน ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (7 ส.ค.) ที่ผ่านมา และกำลังรอคำตอบจากทางญี่ปุ่นอยู่
นอกจากนี้ นายถง ยังพยายามติดต่อขอความช่วยเหลือจากฝ่ายการต่างประเทศและฝ่ายวัตถุโบราณทางวัฒนธรรมเพื่อ “หาแนวร่วมและส่งสารถึงองค์จักรพรรดิญี่ปุ่นให้ชัดเจน” นายถง กล่าว
“หลักฐานการย้าย (ศิลาจารึก) มีอยู่ชัดเจน และหากองค์จักรพรรดิยอมพระราชทานคืนให้จีน ก็จะทำให้อุปสรรคระหว่างจีนกับญี่ปุ่นหมดไป และเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่น” นายถง กล่าว “หาไม่แล้ว ความบาดหมางก็จะยังคงอยู่ต่อไป”
“ผมว่า เรื่องทางประวัติศาสตร์ องค์จักรพรรดิทรงปรีชากว่าชินโซ อาเบะ” นายถง ระบุ
ด้านแนวปฏิบัติมาตรฐานระหว่างประเทศ ระบุว่า รัฐบาลมีสิทธิตามหลักการในการร้องขอวัตถุทางวัฒนธรรมที่สูญหายระหว่างสงครามคืน แต่มิใช่โดยกลุ่มพลเรือน นายกวน เจี้ยนเชียง อาจารย์ด้านกฎหมายระหว่างประเทศ จาก มหาวิทยาลัยการเมืองและกฎหมายแห่งจีนตะวันออก ในเซี่ยงไฮ้ กล่าวกับ เดอะ นิวส์ “นอกเสียจากว่า รัฐบาลจะเป็นผู้อนุญาตกลุ่มพลเรือน”
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐหน่วยใดให้การสนับสนุนเขา แต่นายถงก็ยังมีความหวัง
นายถง กล่าวว่า เขาขับเคลื่อนเรื่องนี้ เพราะได้รับแรงบันดาลใจมาจากการทำงานของรัฐบาลเกาหลีใต้ในปี 2548 ที่พยายามจนญี่ปุ่นส่งมอบแผ่นศิลาจารึกคืน ทั้งนี้ศิลาจารึกดังกล่าวถูกริบไปช่วงที่ญี่ปุ่นเข้ายึดคาบสมุทรเกาหลีระหว่างสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น
อย่างไรก็ดี แม้โครงการรณรงค์นี้จะออกมาในช่วงที่รัฐบาลจีนและสื่อกำลังอยู่ในช่วงรำลึกสงครามจีน-ญี่ปุ่น ครั้งที่หนึ่ง ครบรอบ 120 ปี ซึ่งจีนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่นายถง ก็ยืนกรานว่าไม่ได้ตั้งใจใช้โอกาสนี้เคลื่อนไหว
นายถง กล่าวว่า หากจำเป็น เขาก็จะเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อร้องขอจารึกโบราณคืนจากรัฐบาลญี่ปุ่นโดยตรง แต่คงต้องติดต่อกับทางเกาหลีใต้ก่อนเพื่อขอคำแนะนำ