เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ปักกิ่งระงับการเจรจาความร่วมมือต่อไปกับไต้หวัน อันเป็นการส่งสัญญาเริ่มไม่พอใจ ที่รัฐบาลมังกรน้อยเลื่อนการให้สัตยาบันข้อตกลงการค้าภาคบริการ หลังจากชาวไต้หวันออกมาชุมนุมต่อต้านครั้งใหญ่
นายวูดี้ ตู้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของไต้หวันยืนยันในการประชุมสภานิติบัญญัติเมื่อวันอาทิตย์ (8 มิ.ย) ว่า รัฐบาลจีนมิได้กำหนดเวลาในการเจรจาใด ๆ เกี่ยวกับข้อตกลงการค้าขายสินค้า (merchandise trade agreement) กับไต้หวันนับตั้งแต่เดือนเม.ย. มา โดยกฎหมายฉบับนี้เคยคาดกันว่าจะสามารถลงนามร่วมกันได้ในสิ้นปี 2557
อย่างไรก็ตาม นายตู้ยอมรับว่า ไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจ ที่ปักกิ่งจะเลือกรอดูท่าทีของไต้หวันไปก่อน
การทำข้อตกลงการค้าขายสินค้าและข้อตกลงการค้าขายภาคบริการดำเนินไปตามข้อตกลงความร่วมมือกรอบการทำงานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นข้อตกลงกึ่งการค้าเสรี ที่ทั้งสองฝ่ายลงนามร่วมกันในปี 2553
ทั้งนี้ เคยมีการคาดหมายกันว่า สภานิติบัญญัติไต้หวันจะให้สัตยาบันรับรองข้อตกลงการค้าภาคบริการได้ภายใน 6 เดือน หลังจากจีนและไต้หวันได้ลงนามร่วมกันมาตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2556 อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้เกิดการเดินขบวนประท้วงของชาวไต้หวันคัดค้านข้อตกลงฉบับนี้ เนื่องจากเห็นว่า จะทำให้ชาวไต้หวันมากมายตกงาน อีกทั้งการกระชับความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับจีนจะเป็นอันตรายต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยของไต้หวัน
นักศึกษา ซึ่งเป็นผู้นำการชุมนุม ได้เข้ายึดอาคารสภานิติบัญญัติในกรุงไทเปอยู่นาน 3 สัปดาห์ นับตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อประท้วงที่รัฐบาลไม่ยอมรับฟังความเห็นของประชาชนก่อนจะลงนามข้อตกลงฉบับดังกล่าว พร้อมกับขอให้ถอนข้อตกลงนี้ และให้มีการผ่านร่างกฎหมายใหม่ ที่เพิ่มการตรวจสอบการทำข้อตกลงใด ๆ ในอนาคตระหว่างจีนกับไต้หวัน
นักวิเคราะห์มองว่า พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ซึ่งเป็นฝ่ายค้านจะขัดขวางการให้สัตยาบันรับรองข้อตกลงการค้าภาคบริการทุกวิถีทาง หากข้อตกลงฉบับนี้ไม่ผ่านการเห็นชอบของสภาย่อมหมายถึงข้อตกลงอื่น ๆ ย่อมไม่เกิดขึ้นได้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ปักกิ่งระงับการเจรจาไว้ก่อน ซึ่งรวมถึงการเจรจาภาคบริการด้านการบิน การท่องเที่ยว การขนส่งสินค้า ตลอดจนบริการรับส่งจดหมายและพัสดุภัณฑ์
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่า ปักกิ่งไม่น่าจะหยุดการเจรจากับไต้หวันทั้งหมด เนื่องจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงมีนโยบายขยายการติดต่อและการเจรจาในทุกระดับกับไต้หวัน เพียงแต่ขณะนี้จีนอาจต้องใช้ทั้งพระเดชและพระคุณกับไต้หวัน เพื่อพยายามผ่าทางตันให้ได้
ด้านประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว ของไต้หวัน ซึ่งลงนามข้อตกลงความร่วมมือนอกภาคการเมืองกับแผ่นดินใหญ่มาแล้วถึง 20 ฉบับ นับตั้งแต่ปี 2551 ได้เรียกร้องให้หาทางคลี่คลายปัญหาให้ได้ โดยสภานิติบัญญัติไต้หวันจะจัดการประชุมวาระพิเศษ ตั้งแต่วันศุกร์ ที่ 13 มิ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาทบทวนข้อตกลงการค้าภาคบริการ และร่างกฎหมายเพิ่มการตรวจสอบการทำข้อตกลงกับจีนในอนาคต