ฆาตกรรมเจ้าหน้าที่จีนดับสยอง ระหว่างผู้นำสี จิ้นผิง เยือนซินเจียง

เอเยนซี - ชาวเน็ตฯ จับกลุ่มคุยเหตุสังหารเจ้าหน้าที่จีนดับสยอง ระหว่างสี จิ้นผิง ผู้นำสูงสุด เดินทางเยือนซินเจียง ตำรวจคาดเป็นฝีมือคนร้ายชาวอุยกูร์ในพื้นที่ ด้านกลุ่มก่อการร้ายอิสลามออกมาแสดงความรับผิดชอบเหตุไล่ฟันและระเบิดในสถานีรถไฟเมืองอูรุมชีเมื่อปลายเดือนก่อนแล้ว

เรดิโอ ฟรี เอเชีย (Radio Free Asia : RFA) สถานีวิทยุภายใต้ทุนสนับสนุนจากสหรัฐฯ อ้างนายเอนเวอร์ เทอร์สัน รองหัวหน้าสถานีตำรวจท้องถิ่นซินเจียง ระบุเหตุฆาตกรรมเจ้าหน้าที่รัฐชาวจีนฮั่น 3 ราย ขณะออกเที่ยวตกปลาในอำเภอเย่เฉิง (Kargilik) ของเมืองคัชการ์ เมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินทางมาตรวจเยี่ยมพื้นที่เป็นเวลา 4 วัน

“เหยื่อสองรายแรกถูกตัดคอและโยนลงทะเลสาบ ขณะที่อีกรายถูกแทงพรุนกว่า 31 แผล ก่อนจับโยนลงทะเลสาบเช่นเดียวกัน”

อาร์เอฟเอเสริมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชี้ตัวผู้ต้องสงสัยเป็นคนร้ายจำนวน 3-5 ราย จากทั้งหมดที่ถูกเรียกมาสอบสวนมากกว่า 150 คน โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายหนึ่งซึ่งปฏิเสธเปิดเผยนาม กล่าวว่า ทางการเชื่อว่าคนร้ายน่าจะมาจากหมู่บ้านที่ “ผู้อาศัยร้อยละ 99 เป็นชาวอุยกูร์ซึ่งเป็นมุสลิม”

“เหยื่อทั้งสามรายย้ายมาทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่รัฐระดับอาวุโสเมื่อสองปีก่อน โดยรายหนึ่งทำงานอยู่ในธนาคาร ส่วนอีกสองรายทำงานอยู่หน่วยสื่อสารโทรคมนาคม”

ซินหวา สื่อทางการจีน รายงานก่อนหน้านี้ว่า ประธานาธิบดีสีอยู่ที่เมืองคัชการ์ในเวลาเดียวกัน โดยได้ตรวจเยี่ยมหน่วยงานตำรวจและเน้นย้ำ “ความสลับซับซ้อน” ของการปราบปรามการก่อการร้ายในพื้นที่เป็นประเด็นสำคัญ จนกระทั่งวันสุดท้ายของการเยือนกลับเกิดเหตุคนร้ายสองรายใช้มีดและระเบิดโจมตีสถานีรถไฟเมืองอูรุมชี เมืองเอกของซินเจียง ทำให้คนร้ายและประชาชนเสียชีวิตรวม 3 ราย และบาดเจ็บ 79 คน

ทั้งนี้ กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนทั้งในและนอกประเทศต่างกล่าวว่า ความตึงเครียดในเขตปกครองตนเองซินเจียง ชนชาติอุยกูร์ เกิดขึ้นเพราะการกดขี่ทางวัฒนธรรม มาตรการควบคุมความปลอดภัยอันแสนเข้มงวด และการอพยพโยกย้ายชาวจีนฮั่นให้เข้ามาอาศัยในพื้นที่เป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ดี สื่อจีนที่อยู่ในความควบคุมของทางการกลับไม่มีการรายงานข่าวที่ชัดเจน โดยเรื่องราวดังกล่าวได้แพร่กระจายไปทั่วโลกออนไลน์ หลังจากภรรยาของผู้เสียชีวิตทั้งสามรายออกบันทึกข้อความ เพื่อกระตุ้นให้มีการสอบสวนและนำตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมาย

เว็บไซต์ฮั่นหมินจู๋ (Hanminzu.org) เว็บไซต์จีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ กล่าวถึง “บันทึกข้อความ วันที่ 3 พ.ค.” ซึ่งตำหนิทางการอำเภอเย่เฉิงว่า “พยายามปกปิดเหตุการณ์และกดดันครอบครัวของผู้เสียชีวิตให้เผาร่างโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้”

“รัฐบาลนั้นอ่อนแอปวกเปียกและไร้ประสิทธิภาพ ... ไม่สามารถสู้กับกลุ่มก่อการร้ายได้อย่างหนักแน่น” บันทึกข้อความระบุ “แล้วอนาคตเราจะกล้าออกไปเดินเหินข้างนอกได้อย่างไรกัน?”

นอกจากนั้น ยังพบผู้ใช้เวยปั๋ว (เว็บไมโครบล็อคคล้ายทวิตเตอร์) รายหนึ่ง ซึ่งมักจะโพสต์รูปภาพในซินเจียง ได้โพสต์ข้อความเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาว่า ลุงของเพื่อนและคนรู้จัก 2 คน ถูกฆ่าตายในช่วงบ่ายของวันที่ 27 เม.ย. ทว่าเพียงไม่นานโพสต์ดังกล่าวก็อันตรธานหายไป แต่ยังดูได้บนเว็บไซต์ฟรีเวยปั๋ว (freeweibo.com) ซึ่งคอยรวบรวมโพสต์ที่ถูกทางการจีนเซ็นเซอร์หรือลบออกไป

อนึ่ง เหตุความไม่สงบในซินเจียงก่อตัวขึ้นหลายครั้งตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ผสมรวมกับเหตุไล่แทงทำร้ายผู้คนอย่างทารุณในสถานีรถไฟนครคุนหมิงของมณฑลอวิ๋นหนัน (ยูนนาน) เมื่อเดือน มี.ค. ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 29 ราย และบาดเจ็บกว่า 143 คน โดยชาวเน็ตฯ และสื่อจีนบางแห่งขนานนามเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็น “9/11” ของแดนมังกร

กลุ่มก่อการร้ายอิสลามเผย ‘เหตุระเบิดสถานีรถไฟเมืองอูรุมชี’ เป็นฝีมือของตัวเอง

เอสไอทีอี มอนิเตอริ่ง (SITE Monitoring) หน่วยเฝ้าติดตามและสอดส่องข้อมูลออนไลน์ กล่าวว่า “พรรคอิสลามแห่งเตอร์กิสถาน” หรือทีไอพี (Turkistan Islamic Party : TIP) ได้ออกมาเผยความรับผิดชอบการก่อเหตุไล่ฟันผู้คนและระเบิดสถานีรถไฟเมืองอูรุมชีของซินเจียง เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 79 คน

คลิปวีดีโอความยาว 10 นาที ซึ่งเอสไอทีอีระบุว่าเป็นของพรรคอิสลามแห่งเตอร์กิสถานนั้น ปรากฏภาพอธิบายโครงสร้างวัตถุระเบิดซึ่งกลุ่ม TIP อ้างว่าใช้ในการก่อเหตุความไม่สงบครั้งล่าสุดที่สถานีรถไฟฯ

“คลิปฯ โชว์วัตถุระเบิดและกระสุนที่บรรจุอยู่ภายในกล่อง จากนั้นก็เติมเชื้อดินระเบิดเข้าไปในกระเป๋าหิ้ว ก่อนจะปิดหุ้มโดยทิ้งตัวจุดระเบิดไว้ที่ด้านนอก” เอสไอทีอีกล่าว

ทั้งนี้ ทางการจีนระบุว่าประเทศกำลังเผชิญกับภัยก่อการร้ายจากกลุ่มหัวรุนแรง ซึ่งต้องการแบ่งแยกดินแดนซินเจียงออกไปก่อตั้ง “เตอร์กิสถานตะวันออก” โดย TIP ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับขบวนการอิสลามแห่งเตอร์กิสถานตะวันออก หรืออีทีไอเอ็ม (East Turkestan Islamic Movement : ETIM) เป็นเพียงหนึ่งในบัญชีผู้ก่อการร้ายของจีนเท่านั้น

“ตอนนี้กลุ่มหัวรุนแรงบางส่วนในประเทศได้เผยตัวออกมา ซึ่งพวกเขาร่วมมือกับกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติ พยายามสร้างความวุ่นวายในซินเจียงและพื้นที่อื่นๆ เพื่อทำลายเสถียรภาพความมั่นคงของสังคมจีน” นางหวา ชุนอิ๋ง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน “เราหวังว่าทุกคนจะตระหนักถึงภัยอันตราย และสนับสนุนรัฐบาลจีนให้จัดการกับกลุ่มคนเหล่านี้ขั้นเด็ดขาด”