เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- เกษตรกรจีนไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล สุดทนทานความเจ็บปวดจากโรคหิมะกัดเท้า ทุบแก้วชา เอาเศษแก้วค่อยๆหั่นเท้าทั้งสองข้างของตัวเองทิ้ง!
นายหลิว ตุนเหอ วัย 44 ปี ชาวนาผู้ยากไร้ ในอำเภอติ้งหยวน มณฑลอานฮุย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ใช้ “เศษแก้วแตก” ตัดเท้าตัวเองทิ้ง เพราะทนความเจ็บปวดจากเท้าที่เน่าต่อไปไม่ไหว ปักกิ่ง นิวส์ รายงาน
นายหลิว ป่วยด้วยโรคหิมะกัดเท้าทั้งสองข้าง หลังจากที่เมื่อฤดูหนาวที่ผ่านมา เขาเดินเท้าเปล่าลงไปทำงานในฟาร์ม ตอนแรก นายหลิวมิได้สนใจอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นเท่าใดนัก แต่แล้ว อาการของเขาก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว สุดท้าย เท้าทั้งสองข้างของนายหลิว ก็บวมเป่ง จากนั้นก็ติดเชื้อและเนื้อเริ่มเน่า เมื่อปลายเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา (2557)
หลังเท้าเน่า สร้างความเจ็บปวดให้เขา สุดเกินจะทน นายหลิวจึงไปโรงพยาบาลท้องถิ่น แต่ได้รับการยืนยันว่า การผ่าตัดรักษาเขา จำต้องใช้เงินจำนวน 10,000 หยวน หรือราวๆ 50,000 บาท ด้วยเม็ดเงินที่มากเกินปัญญาของชาวนาจนๆ นายหลิวจึงจำใจ หันหลังให้โรงพยาบาล และตัดสินใจจัดการกับเท้าทั้งสองข้างด้วยตนเอง
“ผมจะหาเงินมาจากไหน” “ต่อให้จ่ายแค่ 1,000 หยวน ผมก็จ่ายไม่ไหวหรอก” นายหลิวกล่าวกับ ปักกิ่ง นิวส์
ค่ำคืนของวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา (2557) นายหลิว ซึ่งอยู่ตัวคนเดียว จึงจัดสินใจตัดเท้าตัวเองทั้งสองข้างทิ้ง โดยใช้เวลาไปถึง 6 ชั่วโมง
“ผมใช้เศษแก้ว ค่อยๆตัดลงไปซ้ำๆ ที่เนื้อเอ็น มันเจ็บมาก...จนสุดจะบรรยายเลย” เขากล่าว ทวนเหตุการณ์อันน่าสยดสยอง ที่เกิดขึ้น
“แล้วผมก็ดื่มเหล้า มันจะได้ชา เพราะผมทนเจ็บตอนตัดเท้าต่อไม่ไหว” เขากล่าวกับปักกิ่ง นิวส์ “แต่มันเป็นการตัดเพื่อ ปลดปล่อย”
หลังจากตัดเท้าที่เน่า ทั้งสองข้างทิ้ง นายหลิวก็เริ่มมีอาการติดเชื้ออีก เพราะเขาดูแลแผลได้ไม่ดีพอ เขาจึงต้องบอกเรื่องดังกล่าวแก่น้องชาย เพราะแผลเริ่มอักเสบอีกครั้ง
ต่อมา เมื่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทราบเหตุการณ์สุดสลดดังกล่าว จึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยส่งตัวเขาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และอนุมัติเงิน 23,000 หยวน เพื่อจ่ายค่ารักษาเขาทั้งหมด
นายหลิวได้รับการผ่าตัดและรักษาอาการอักเสบ ในโรงพยาบาล เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (13 พ.ค.) และคาดว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ในอีกสองสัปดาห์
กรณีของนายหลิว ทำให้เกิดคำถามกับเบี้ยประกันสุขภาพที่สูงเกินความสามารถของคนในชนบท
แม้ว่าแผนประกันสุขภาพดังกล่าว มีราคาเบี้ยประกันเพียงปีละ 70 หยวน (350 บาท) ครอบคลุมค่ารักษาของผู้สมัครถึง 70 เปอร์เซ็นต์ และรายได้เฉลี่ยของคนชนบทปี 2556 อยู่ที่ 8,896 หยวน แต่ก็ถือว่ามากเกินกำลังชาวนาที่มีรายได้ปีละ 5,000-6,000 หยวน (ประมาณปีละ 25,000-30,000 บาท) อย่างนายหลิว
“ผมไม่ค่อยป่วย เลยคิดว่ามันสิ้นเปลือง” นายหลิว กล่าวกับปักกิ่ง นิวส์
ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นลงทะเบียนนายหลิว เพื่อรับแผนประกันสุขภาพของรัฐและเงินชดเชยผู้พิการแล้ว
กรณีของนายหลิว ก็คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา (2556) เมื่อคนจนต้องตกอยู่ในสภาพจนปัญญา จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล
ในเดือนตุลาคมปี 2556 นายเจิ้ง เยี่ยนเหลียง ชาวนาผู้ยากไร้ในมณฑลเหอเป่ย จำใจใช้เลื่อยและมีดปอกผลไม้ หั่นขาข้างขวาของตัวเองทิ้ง เนื่องจากเป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน (arterial thrombosis) ที่ขาอย่างเฉียบพลัน และ ติดเชื้อลามถึงต้นขา รายงานระบุว่า นายเจิ้งตัดขาทิ้งเองเพราะจนปัญญาจ่ายค่ารักษามากถึง 1,000,000 หยวน (ประมาณ 5 ล้านบาท)
นายเจิ้ง ทำประกันสุขภาพตามระบบประกันสุขภาพ สำหรับผู้อาศัยในเขตชนบท (rural cooperative medical system) ไว้แต่แผนประกันดังกล่าวครอบคลุมโรคหนัก 20 โรค แต่ไม่ครอบคลุมโรคหลอดเลือดอุดตัน
หลังจากต้องถอยกรูดออกมาจากโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์บอกว่า เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 3 เดือนเท่านั้น นายเจิ้งจึงฝากความหวังไว้กับการรักษาแผนโบราณ แต่อาการของเขาทรุดลงอย่างรวดเร็ว ขาทั้งสองข้างเป็นหนอง และเริ่มเน่า เมื่อได้โอกาส หลังจากที่ครอบครัวของเขาออกไปนอกบ้าน นายเจิ้งจึงตัดสินใจตัดขาขวาและข้อเท้าซ้ายของตนเองทิ้ง
เหตุดังกล่าว สร้างความสลดใจให้แก่ประชาชนเป็นอย่างมาก และต่างพากัน รวบรวมเงินถึง 360,000 หยวน (ประมาณ 1,800,000 บาท) บริจาคช่วยค่ารักษาพยาบาลเขา ปัจจุบัน นายเจิ้งเดินได้ด้วยขาเทียม
นายหลิว ตุนเหอ วัย 44 ปี ชาวนาผู้ยากไร้ ในอำเภอติ้งหยวน มณฑลอานฮุย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ใช้ “เศษแก้วแตก” ตัดเท้าตัวเองทิ้ง เพราะทนความเจ็บปวดจากเท้าที่เน่าต่อไปไม่ไหว ปักกิ่ง นิวส์ รายงาน
นายหลิว ป่วยด้วยโรคหิมะกัดเท้าทั้งสองข้าง หลังจากที่เมื่อฤดูหนาวที่ผ่านมา เขาเดินเท้าเปล่าลงไปทำงานในฟาร์ม ตอนแรก นายหลิวมิได้สนใจอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นเท่าใดนัก แต่แล้ว อาการของเขาก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว สุดท้าย เท้าทั้งสองข้างของนายหลิว ก็บวมเป่ง จากนั้นก็ติดเชื้อและเนื้อเริ่มเน่า เมื่อปลายเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา (2557)
หลังเท้าเน่า สร้างความเจ็บปวดให้เขา สุดเกินจะทน นายหลิวจึงไปโรงพยาบาลท้องถิ่น แต่ได้รับการยืนยันว่า การผ่าตัดรักษาเขา จำต้องใช้เงินจำนวน 10,000 หยวน หรือราวๆ 50,000 บาท ด้วยเม็ดเงินที่มากเกินปัญญาของชาวนาจนๆ นายหลิวจึงจำใจ หันหลังให้โรงพยาบาล และตัดสินใจจัดการกับเท้าทั้งสองข้างด้วยตนเอง
“ผมจะหาเงินมาจากไหน” “ต่อให้จ่ายแค่ 1,000 หยวน ผมก็จ่ายไม่ไหวหรอก” นายหลิวกล่าวกับ ปักกิ่ง นิวส์
ค่ำคืนของวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา (2557) นายหลิว ซึ่งอยู่ตัวคนเดียว จึงจัดสินใจตัดเท้าตัวเองทั้งสองข้างทิ้ง โดยใช้เวลาไปถึง 6 ชั่วโมง
“ผมใช้เศษแก้ว ค่อยๆตัดลงไปซ้ำๆ ที่เนื้อเอ็น มันเจ็บมาก...จนสุดจะบรรยายเลย” เขากล่าว ทวนเหตุการณ์อันน่าสยดสยอง ที่เกิดขึ้น
“แล้วผมก็ดื่มเหล้า มันจะได้ชา เพราะผมทนเจ็บตอนตัดเท้าต่อไม่ไหว” เขากล่าวกับปักกิ่ง นิวส์ “แต่มันเป็นการตัดเพื่อ ปลดปล่อย”
หลังจากตัดเท้าที่เน่า ทั้งสองข้างทิ้ง นายหลิวก็เริ่มมีอาการติดเชื้ออีก เพราะเขาดูแลแผลได้ไม่ดีพอ เขาจึงต้องบอกเรื่องดังกล่าวแก่น้องชาย เพราะแผลเริ่มอักเสบอีกครั้ง
ต่อมา เมื่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทราบเหตุการณ์สุดสลดดังกล่าว จึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยส่งตัวเขาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และอนุมัติเงิน 23,000 หยวน เพื่อจ่ายค่ารักษาเขาทั้งหมด
นายหลิวได้รับการผ่าตัดและรักษาอาการอักเสบ ในโรงพยาบาล เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (13 พ.ค.) และคาดว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ในอีกสองสัปดาห์
กรณีของนายหลิว ทำให้เกิดคำถามกับเบี้ยประกันสุขภาพที่สูงเกินความสามารถของคนในชนบท
แม้ว่าแผนประกันสุขภาพดังกล่าว มีราคาเบี้ยประกันเพียงปีละ 70 หยวน (350 บาท) ครอบคลุมค่ารักษาของผู้สมัครถึง 70 เปอร์เซ็นต์ และรายได้เฉลี่ยของคนชนบทปี 2556 อยู่ที่ 8,896 หยวน แต่ก็ถือว่ามากเกินกำลังชาวนาที่มีรายได้ปีละ 5,000-6,000 หยวน (ประมาณปีละ 25,000-30,000 บาท) อย่างนายหลิว
“ผมไม่ค่อยป่วย เลยคิดว่ามันสิ้นเปลือง” นายหลิว กล่าวกับปักกิ่ง นิวส์
ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นลงทะเบียนนายหลิว เพื่อรับแผนประกันสุขภาพของรัฐและเงินชดเชยผู้พิการแล้ว
กรณีของนายหลิว ก็คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา (2556) เมื่อคนจนต้องตกอยู่ในสภาพจนปัญญา จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล
ในเดือนตุลาคมปี 2556 นายเจิ้ง เยี่ยนเหลียง ชาวนาผู้ยากไร้ในมณฑลเหอเป่ย จำใจใช้เลื่อยและมีดปอกผลไม้ หั่นขาข้างขวาของตัวเองทิ้ง เนื่องจากเป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน (arterial thrombosis) ที่ขาอย่างเฉียบพลัน และ ติดเชื้อลามถึงต้นขา รายงานระบุว่า นายเจิ้งตัดขาทิ้งเองเพราะจนปัญญาจ่ายค่ารักษามากถึง 1,000,000 หยวน (ประมาณ 5 ล้านบาท)
นายเจิ้ง ทำประกันสุขภาพตามระบบประกันสุขภาพ สำหรับผู้อาศัยในเขตชนบท (rural cooperative medical system) ไว้แต่แผนประกันดังกล่าวครอบคลุมโรคหนัก 20 โรค แต่ไม่ครอบคลุมโรคหลอดเลือดอุดตัน
หลังจากต้องถอยกรูดออกมาจากโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์บอกว่า เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 3 เดือนเท่านั้น นายเจิ้งจึงฝากความหวังไว้กับการรักษาแผนโบราณ แต่อาการของเขาทรุดลงอย่างรวดเร็ว ขาทั้งสองข้างเป็นหนอง และเริ่มเน่า เมื่อได้โอกาส หลังจากที่ครอบครัวของเขาออกไปนอกบ้าน นายเจิ้งจึงตัดสินใจตัดขาขวาและข้อเท้าซ้ายของตนเองทิ้ง
เหตุดังกล่าว สร้างความสลดใจให้แก่ประชาชนเป็นอย่างมาก และต่างพากัน รวบรวมเงินถึง 360,000 หยวน (ประมาณ 1,800,000 บาท) บริจาคช่วยค่ารักษาพยาบาลเขา ปัจจุบัน นายเจิ้งเดินได้ด้วยขาเทียม
