เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- พรรคคอมมิวนิสต์ปลด นายหลี่ ชุนเฉิง อดีตรองเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน สาขา มณฑลเสฉวน ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของอดีตบิ๊กความมั่นคง นายโจว หย่งคัง ออกจากตำแหน่งดังกล่าวอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมทั้งขับออกจากสมาชิกภาพพรรคฯ ด้วยข้อหาละเมิดวินัยพรรคคอมมิวนิสต์ คณะกรรมการตรวจสอบวินัยแถลงวานนี้ (29 เม.ย.)
ประกาศดังกล่าว ทำให้การตัดสินชะตาของนาย โจว หย่งคัง ก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง ทั้งนี้ปัจจุบัน นายโจว ยังอยู่ภายใต้การควบคุมตัวซึ่งดำเนินมาตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา (2556) เพื่อสอบสวนกรณีการรับสินบนอย่างหนัก
นายหลี่ ชุนเฉิง ถูกโยกตัวเข้าไปทำงานในเสฉวน ซึ่งเป็นแหล่งฐานอำนาจของนายโจว ตั้งแต่ปี 2541 และยังได้รับการเลื่อนตำแหน่งในพรรคฯ อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐ ก็เริ่มสืบสวนกรณีที่เขาต้องข้อสงสัยเรื่องการรับสินบน มาตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2555
“นายหลี่ ใช้ตำแหน่งเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น และรับสินบนจำนวนมาก” คณะกรรมาธิการตรวจสอบวินัยของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน แถลง เขา “ใช้ตำแหน่งในทางที่ผิด ทำให้เกิดการอุปถัมภ์และงมงายเชื่อถือโชคลาง ก่อความสูญเสียด้านการเงินแก่รัฐบาลเป็นอย่างมาก เขาถือเป็น “บุคคลเสื่อมเสียและหมดสภาพ” แถลงการณ์ ระบุ
การกระทำของเขาเข้าข่ายอาชญากรรม และฝ่ายตุลาการจะดำเนินคดี เอาผิดเขาต่อไป คณะกรรมการฯ กล่าว
นายหลี่ เป็นหนึ่งในบรรดาผู้นำระดับมณฑลที่ถูกควบคุมตัวไว้ ถัดจากกรณีของเขาไม่กี่เดือนต่อมา ก็มีการควบคุมตัว นาย กัว หย่งเสียง อดีตรองผู้ว่าการมณฑลเสฉวน และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี้เอง (เม.ย. 2556) เจ้าหน้าที่รัฐได้ประกาศขับนายกัว ออกจากพรรคฯ และเขาจะเข้าสู่การดำเนินคดีต่อไป
นอกจากกรณีข้างต้น พันธมิตรทางการเมืองของนายโจว หย่งคัง อีกหลายคนก็ถูกควบคุมตัวและสอบสวน ไม่ว่าจะเป็นนาย หลี่ ตงเซิง อดีตรองรัฐมนตรีกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ และนายเจียง เจี๋ยหมิน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการดูแลและจัดการทรัพย์สินของรัฐ
ด้าน นายจาง หมิง นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเหรินหมิน ในปักกิ่ง กล่าวว่า ดูเหมือนว่า เจ้าหน้าที่ยังคงพยายามรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับกรณีของนายโจว และก็ไม่แน่ชัดว่า จะมีการประกาศข้อมูลที่พบออกมาได้เมื่อใด
อนึ่ง นายหลี่ บ่มเพาะตัวเองหลายปี ในเมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียง โดยเริ่มจากการเป็นนักศึกษา และจากนั้นก็ก้าวสู่ตำแหน่งทางการเมืองอีกหลายตำแหน่ง อาทิ ผู้นำสันนิบาติเยาวชนคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนประจำเมือง และรองนายกเทศมนตรีเมืองฮาร์บิน
ทั้งนี้ มณฑลที่ร่ำรวยทรัพยากรอย่างเสฉวน ถือเป็นเป้าหมายที่สำคัญของโครงการรณรงค์ต่อต้านการทุจริต ติดสินบนที่มีอยู่อย่างแพร่หลาย โดยการรณรงค์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากความคิดริเริ่มของประธานาธิบดี นายสี จิ้น ผิง
ประกาศดังกล่าว ทำให้การตัดสินชะตาของนาย โจว หย่งคัง ก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง ทั้งนี้ปัจจุบัน นายโจว ยังอยู่ภายใต้การควบคุมตัวซึ่งดำเนินมาตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา (2556) เพื่อสอบสวนกรณีการรับสินบนอย่างหนัก
นายหลี่ ชุนเฉิง ถูกโยกตัวเข้าไปทำงานในเสฉวน ซึ่งเป็นแหล่งฐานอำนาจของนายโจว ตั้งแต่ปี 2541 และยังได้รับการเลื่อนตำแหน่งในพรรคฯ อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐ ก็เริ่มสืบสวนกรณีที่เขาต้องข้อสงสัยเรื่องการรับสินบน มาตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2555
“นายหลี่ ใช้ตำแหน่งเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น และรับสินบนจำนวนมาก” คณะกรรมาธิการตรวจสอบวินัยของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน แถลง เขา “ใช้ตำแหน่งในทางที่ผิด ทำให้เกิดการอุปถัมภ์และงมงายเชื่อถือโชคลาง ก่อความสูญเสียด้านการเงินแก่รัฐบาลเป็นอย่างมาก เขาถือเป็น “บุคคลเสื่อมเสียและหมดสภาพ” แถลงการณ์ ระบุ
การกระทำของเขาเข้าข่ายอาชญากรรม และฝ่ายตุลาการจะดำเนินคดี เอาผิดเขาต่อไป คณะกรรมการฯ กล่าว
นายหลี่ เป็นหนึ่งในบรรดาผู้นำระดับมณฑลที่ถูกควบคุมตัวไว้ ถัดจากกรณีของเขาไม่กี่เดือนต่อมา ก็มีการควบคุมตัว นาย กัว หย่งเสียง อดีตรองผู้ว่าการมณฑลเสฉวน และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี้เอง (เม.ย. 2556) เจ้าหน้าที่รัฐได้ประกาศขับนายกัว ออกจากพรรคฯ และเขาจะเข้าสู่การดำเนินคดีต่อไป
นอกจากกรณีข้างต้น พันธมิตรทางการเมืองของนายโจว หย่งคัง อีกหลายคนก็ถูกควบคุมตัวและสอบสวน ไม่ว่าจะเป็นนาย หลี่ ตงเซิง อดีตรองรัฐมนตรีกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ และนายเจียง เจี๋ยหมิน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการดูแลและจัดการทรัพย์สินของรัฐ
ด้าน นายจาง หมิง นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเหรินหมิน ในปักกิ่ง กล่าวว่า ดูเหมือนว่า เจ้าหน้าที่ยังคงพยายามรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับกรณีของนายโจว และก็ไม่แน่ชัดว่า จะมีการประกาศข้อมูลที่พบออกมาได้เมื่อใด
อนึ่ง นายหลี่ บ่มเพาะตัวเองหลายปี ในเมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียง โดยเริ่มจากการเป็นนักศึกษา และจากนั้นก็ก้าวสู่ตำแหน่งทางการเมืองอีกหลายตำแหน่ง อาทิ ผู้นำสันนิบาติเยาวชนคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนประจำเมือง และรองนายกเทศมนตรีเมืองฮาร์บิน
ทั้งนี้ มณฑลที่ร่ำรวยทรัพยากรอย่างเสฉวน ถือเป็นเป้าหมายที่สำคัญของโครงการรณรงค์ต่อต้านการทุจริต ติดสินบนที่มีอยู่อย่างแพร่หลาย โดยการรณรงค์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากความคิดริเริ่มของประธานาธิบดี นายสี จิ้น ผิง