หน่วยปราบคอร์รัปชั่นจีนไม่ประมาท ตั้งทีมตรวจสอบตัวเองอีกชั้นหนึ่ง

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - หน่วยงานปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นแดนมังกรไม่พลาดซ้ำสอง ตั้งทีมตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ภายในองค์กรอีกชั้นหนึ่ง สร้างความโปร่งใส ปลุกความเชื่อมั่นจากประชาชน

รายงานข่าว (12 มี.ค.) กล่าวว่า นายหวัง ฉีซาน ประธานคณะกรรมการตรวจสอบวินัยแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCDI) และสมาชิกคณะกรรมการประจำกรมการเมือง หรือปูลิตบูโร ได้ประกาศการใช้หลัก “ความอดทนเป็นศูนย์” (zero tolerance) สำหรับการละเมิดจรรยาบรรณและใช้อำนาจในทางที่ผิดของเจ้าหน้าที่ภายในหน่วยซีซีดีไอ

“คณะกรรมการตรวจสอบวินัยแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จะดำเนินการตรวจตราผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบการกระทำผิดให้เข้มงวดขึ้นอีกชั้นหนึ่ง ... และลงโทษบรรดาเจ้าหน้าที่ที่แอบไปตักเตือน หรือใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ส่วนตัวเมื่อปฏิบัติการตรวจสอบผู้กระทำผิด” หวังกล่าวกับเจ้าหน้าที่รัฐมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) กลางที่ประชุมสภาสมัชชาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 11 มี.ค.

“หากใครก็ตามล้มเหลวที่จะควบคุมตัวเอง ก็ไม่เหมาะสมจะไปควบคุมสั่งการผู้อื่นเช่นกัน”

ด้านผู้สังเกตการณ์มองว่าตัวเลือกการปราบคอร์รัปชั่นของนายหวังนั้นน่าสนใจ โดยช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มณฑลซื่อชวนกลายเป็นศูนย์กลางของกระบวนการสืบสวนกรณีทุจริตคอร์รัปชั่นที่เกี่ยวพันกับเครือข่ายอำนาจทางการเมืองของนายโจว หย่งคัง อดีตเจ้ากระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ ผู้ซึ่งเคยรั้งตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯ ประจำมณฑล

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่รัฐที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่ากระทำการทุจริตรับสินบน มักต้องอยู่ใต้การไต่สวนและถูกควบคุมตัวอย่างลับๆ ก่อนส่งตัวต่อไปให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานอัยการศาล ซึ่งวิธีการดังกล่าวได้สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงว่า อาจกระตุ้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนใช้อำนาจเกินขอบเขตความจำเป็น

ในเดือน ต.ค. 2556 ศาลประชาชนเมืองฉีว์โจว มณฑลเจ้อเจียง ตัดสินโทษจำคุกพนักงานอัยการศาลท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่หน่วยปราบคอร์รัปชั่น 5 ราย เป็นเวลา 4-14 ปี หลังก่อเหตุทารุณกรรมวิศวกรชายขององค์กรรัฐวิสาหกิจรายหนึ่งซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยและอยู่ระหว่างการควบคุมตัวจนเสียชีวิต โดยทนายของครอบครัวผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ชายหนุ่มถูกกักตัวไว้มากกว่าหนึ่งเดือน

ศาสตราจารย์จวง เต๋อสุ่ย ประจำมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ซึ่งทำการศึกษาผลกระทบของการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น ระบุว่า ทีมตรวจตรากิจการภายในหน่วยปราบปรามคอร์รัปชั่นจะช่วยเพิ่มการตรวจสอบอำนาจในมือซีซีดีไอและเสริมสร้างความโปร่งใสมากขึ้น

“การเคลื่อนไหวครั้งนี้แน่นอนว่ามีเป้าหมายสร้างความเชื่อมั่นในหมู่ประชาชนเกี่ยวกับระบบการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบวินัยแห่งพรรคฯ นั่นเอง”