เอเจนซีส์ - ทีมกู้ภัยเกาหลีใต้ ซึ่งรวมถึงประดาน้ำหน่วยซีลของกองทัพเรือ เร่งรีบทำงานด้วยความกระวนกระวายท่ามกลางแสงโคมไฟฟลัดไลต์ช่วงค่ำคืนวันพุธ (16 เม.ย.) เพื่อค้นผู้ที่ยังสูญหายอยู่อีกร่วมๆ 300 คน หลังจากเกิดเหตุเรือเฟอร์รีล่มกลางทะเลในตอนเช้าวันเดียวกัน โดยที่มีผู้โดยสารทั้งสิ้น 459 คน ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนมัธยมที่กำลังเดินทางไปยังเกาะตากอากาศยอดนิยม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย และช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายได้อย่างน้อย 164 คน
ในจำนวนผู้เสียชีวิต 6 คนนั้น ที่ทราบกันตั้งแต่ตอนแรกๆ มี 2 คน โดยเป็นนักเรียนชาย 1 คน และลูกเรือหญิงอีก 1 คน
ขณะที่เบื้องต้นทีเดียวทางการโซลประกาศว่า สามารถช่วยเหลือผู้อยู่บนเรือเฟอร์รีลำนี้ได้แล้ว 368 คน อย่างไรก็ดี ได้มีการแก้ไขตัวเลขในเวลาต่อมา และ ลี เกียงอ็อก รองรัฐมนตรีด้านความมั่นคงและการบริหารรัฐกิจของเกาหลีใต้ แถลงว่าช่วยเหลือคนขึ้นมาได้ 164 คน จึงยังคงมีผู้สูญหาย 291 คน
การแก้ไขตัวเลขผู้ได้รับการช่วยเหลือเช่นนี้ ทำให้เกิดความกังวลว่า ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดอาจสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ เรือเฟอร์รีที่ชื่อว่าเซวอล ระวางขับน้ำ 6,825 ตัน ลำนี้ ได้เกิดเอียงข้างอย่างรุนแรง จากนั้นก็พลิกคว่ำและในที่สุดก็จมลง ตรงบริเวณห่างจากทางด้านใต้ของเกาะบยุงปุง 20 กิโลเมตร ภายในเวลาราว 2 ชั่วโมงหลังจากส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือเมื่อเวลา 9.00 น.ของวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 7.00 น. ตามเวลาไทย)
หน่วยยามฝั่งเกาหลีใต้แถลงว่า หลังได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือ ได้มีเรือ 34 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 18 ลำเข้าร่วมการปฏิบัติการกู้ภัย
นอกจากนี้กองเรือที่ 7 ของสหรัฐฯ ได้จัดส่งเรือสะเทินน้ำสะเทินบก ยูเอสเอส บอนออมม์ ริชาร์ด ที่กำลังตรวจการณ์อยู่ทางตะวันตกของคาบสมุทรเกาหลีใต้ตามปกติ ไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุครั้งนี้ด้วย
ภาพข่าวทีวีเผยให้เห็นผู้โดยสารที่สวมเสื้อชูชีพและอยู่ในอาการตื่นตกใจ พยายามปีนขึ้นเรือยาง บางคนไถลตัวจากกราบเรือด้านที่จมเพื่อลงสู่ทะเล ขณะที่หน่วยกู้ภัย ซึ่งรวมถึงลูกเรือจากเรือประมงขนาดเล็ก เข้าไปช่วยเหลือ
ลีอธิบายว่า จำนวนผู้ได้รับความช่วยเหลือซึ่งมีการระบุสูงเกินจริงในตอนต้นๆ นั้น เป็นผลจากข้อมูลที่มาจากหลายแหล่งจนเกิดความสับสน
ในบรรดาผู้โดยสาร 429 คนบนเรือเฟอร์รีที่มุ่งหน้าสู่เกาะเจจู ซึ่งเป็นเกาะตากอากาศยอดนิยมที่อยู่ทางใต้ของประเทศลำนี้นั้น มีกว่า 300 คนเป็นนักเรียนที่เดินทางไปกับครูจำนวน 14 คนจากโรงเรียนมัธยมในเมืองอันซาน ทางใต้ของกรุงโซล
ผู้รอดชีวิตจำนวนมากได้รับความช่วยเหลือจากเรือประมงและเรือพาณิชย์อื่นๆ ที่เดินทางไปถึงสถานที่เกิดเหตุก่อนเรือยามฝั่งและเรือจากกองทัพเรือเกาหลีใต้ ขณะที่การปฏิบัติการของเรือทางการโสมขาวเหล่านี้ มีเฮลิคอปเตอร์สิบกว่าลำคอยให้การสนับสนุนด้วย
ลีเผยว่า นักประดาน้ำ 178 คน ซึ่งรวมถึงทีมจากหน่วยซีลของกองทัพเรือ ที่ลงไปค้นหาส่วนที่จมอยู่ในน้ำของเรือ บอกว่า บริเวณใต้น้ำตรงนั้นมีโคลนมากและทัศนวิสัยแย่มาก
ทั้งนี้ เรือเซวอลออกจากท่าเรืออินชอนทางชายฝั่งตะวันตกของเกาหลีใต้เมื่อค่ำวันอังคาร (15) สำหรับสาเหตุของเหตุร้ายคราวนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนในเวลานี้ โดยขณะเกิดเหตุ สภาพอากาศเป็นปกติเช่นเดียวกับกระแสน้ำในทะเล แต่มีผู้โดยสารที่ได้รับการช่วยเหลือหลายคนเล่าว่า เรือได้เกิดหยุดและสั่นอย่างกะทันหัน ซึ่งบ่งชี้ว่า เรืออาจเกยกับหินใต้ทะเล
ผู้โดยสารคนหนึ่งเล่าว่า มีเสียงดังมากและจากนั้นเรือเอียงไปด้านหนึ่งทันที ทำให้ผู้โดยสารกรูกันขึ้นไปบนดาดฟ้า แต่ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เนื่องจากดาดฟ้าเอียงลงตามลำเรือ
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่นำเรือไปถึงสถานที่เกิดเหตุหลังได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือ 1 ชั่วโมง แสดงความกังวลกับผู้ที่ยังสูญหาย เนื่องจากเชื่อว่า มีคนจำนวนมากยังติดอยู่ในส่วนที่จมอยู่ใต้น้ำที่มีอุณหภูมิต่ำเพียง 12.6 องศาเซลเซียส
ที่หอประชุมของโรงเรียนในเมืองอันซาน ที่ส่งนักเรียนขึ้นเรือลำดังกล่าวเพื่อไปทัศนศึกษา บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ผู้ปกครองตะโกนใส่เจ้าหน้าที่และพยายามโทรศัพท์ติดต่อบุตรหลานของพวกตน
ปกติแล้ว มีเรือเฟอร์รีรับ-ส่งผู้โดยสาร ระหว่างแผ่นดินใหญ่กับเกาะมากมายของเกาหลีใต้เป็นประจำทุกวันๆ ละหลายเที่ยว และที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุน้อยมาก
อย่างไรก็ดี หนึ่งในอุบัติเหตุร้ายแรงที่สุดเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 1993 เมื่อเรือฟอร์รีลำหนึ่งจมนอกชายฝั่งด้านตะวันตกและมีผู้เสียชีวิตเกือบ 300 คน
