เอเจนซี----เศรษฐกิจจีนขยายตัวอย่างซึมเซาที่สุดนับจากไตรมาสที่สามของปี 2555 เพิ่มความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะผ่อนปรนนโยบาย แต่ก็ไม่มีวี่แววการใช้แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดมหึมา
สำนักงานสถิติแห่งชาติมังกรแถลงในวันนี้( 16 เม.ย.) อัตราเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ระหว่างไตรมาสแรก ขยายตัวที่ 7.4 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับปีก่อนหน้า โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของทางการที่ประมาณไว้ที่ 7.5 เปอร์เซ็นต์สำหรับปีนี้ และต่ำกว่าอัตราเติบโตที่ 7.7 ของไตรมาสสี่ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ในไตรมาสสามของปี 2555 จีดีพีจีนโตที่ 7.4 เปอร์เซ็นต์ จัดเป็นอัตราต่ำที่สุดนับจากไตรมาสแรกของปี 2552 ซึ่งจีดีพีโตเพียง 6.6 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์เศรษฐกิจไตรมาสที่ผ่านมา จะโตแบบซึมเซาที่สุด ที่ 7.3 เปอร์เซ็นต์
ด้วยสภาพการณ์ที่เศรษฐกิจเช่นนี้ อาจส่งผลกระทบต่อแผนการปฏิรูปภาคการเงินการคลังจีน อย่างมาตรการที่วางแผนไว้จะเดินหน้า เช่น การปล่อยเสรีอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น ดันค่าใช้จ่ายด้านการเงินสูงขึ้น และเพิ่มภาระแก่ภาคธุรกิจ
นอกจากนี้กิจกรรมอุตสาหกรรมที่ฝ่อแฟบในจีนก็อาจกระทบต่อประเทศผู้ส่งออกสินค้าวัตถุดิบ เช่น ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงแถลงในต้นเดือนนี้ กล่าวถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการจ้างงานมากกว่าจีดีพี และว่าจะไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “อย่างแรง” ในระยะสั้น
แต่ในขณะที่ปริมาณเงินขยายในอัตราที่ต่ำที่สุดอย่างเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนที่แล้ว และการค้าก็ร่วงผล็อย อาจกดดันให้รัฐบาลผ่อนปรนนโยบายการเงินการคลังเพื่อป้องกันเศรษฐกิจพุ่งลงไปกว่านี้
“ความเสี่ยงในปฏิบัติการเศรษฐกิจยังมีอยู่มาก ขณะที่ปัจจัยขับเคลื่อนอัตราเติบโต คือ การลงทุน ยังอ่อนอยู่มาก” นาย สีว์ เกา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่ง Everbright Securities กล่าว พร้อมกับทำนายถึงการผ่อนปรนนโยบายการเงิน รวมทั้งความเป็นไปได้ในการหั่นอัตราเงินสดสำรองของกลุ่มธนาคาร
การลงทุนภาคสินทรัพย์ถาวรในไตรมาสแรก สูง 17.6 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า ลดลงจากระดับ 17.9 เปอร์เซ็นต์ของการขยายตัวในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้
ด้านผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนที่แล้ว ก็โตที่ 8.8 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี กระเตื้องขึ้นจากระดับ 8.6 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.
ส่วนยอดค้าปลีกในเดือนที่แล้ว ขยายที่ 12.2 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี เทียบกับอัตราขยายตัวโดยเฉลี่ย ที่ 11.8 เปอร์เซ็นต์ในสองเดือนแรกของปีนี้.
