เอเจนซี - ฝูเจี้ยน ปรับแก้นโยบายลูกคนเดียว โดยผ่อนผันให้สิทธิ์คู่สมรสที่เป็นลุกคนเดียวของครอบครัว สามารถมีบุตรคนที่สองได้
ไชน่า เดลี่ รายงาน (30 มี.ค.) ว่า มณฑลฝูเจี้ยน ได้ผ่อนคลายนโยบายลูกคนเดียว โดยอนุญาตให้คู่สมรสสามารถได้สิทธิในการมีบุตรคนที่สอง หากทั้งคู่มีสถานะเป็นบุตรคนเดียวของครอบครัว
เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่น มณฑลฝูเจี้ยนแถลงว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่ประชุมของคณะกรรมาธิการ สภาประชาชน ประจำมณฑลฝูเจี้ยน ได้เสนอร่างแก้ไขนโยบบายการวางแผนครอบครัวฯ
ทางการท้องถิ่น ได้เผยผลสำรวจฯ พบว่า ร้อยละ 60 ของครอบครัวที่มีสิทธิ์ที่จะมีลูกคนที่สอง มีความยินดีที่จะมีลูกเพิ่มอีกคน และ การเปลี่ยนแปลงนโยบายฯ ดังกล่าว คาดว่า ในอีก 2 ปีข้างหน้า จะมีทารกแรกเกิดเพิ่มขึ้นราว 56,000 คน
ทั้งนี้ นอกจากมณฑลฝูเจี้ยนแล้ว ยังมีเมืองใหญ่ อาทิ ปักกิ่ง เทียนจิน ซั่งไห่ ฉงชิ่ง ตลอดจน มณฑลเจ้อเจียง เจียงซี อันฮุย ซื่อชวน กว่างตง และเจียงซู ที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายลูกคนเดียว
สำหรับนโยบายลูกคนเดียวนั้น กำเนิดจากความคิด “มีลูกมาก ยากจน” โดยผู้นำเติ้ง เสี่ยวผิง คลอดนโยบายลูกคนเดียวในปี 2522 กำหนดให้ครอบครัวเขตเมืองซึ่งมีสัดส่วนเท่ากับ 35.9 เปอร์เซนต์ของประชากรจีนทั้งหมด มีลูกได้คนเดียว โดยมีข้อยกเว้นให้แก่บางครอบครัวในชนบทที่มีลูกคนแรกเป็นผู้หญิงสามารถมีลูกคนที่สองได้ ชนชาติส่วนน้อย และครอบครัวที่ทั้งพ่อแม่เป็นลูกคนเดียว ผู้ฝ่าฝืนจะถูกปรับเป็นจำนวนเงินตามระดับรายได้สุทธิ
ตลอดระยะเวลา 30 กว่าปี นโยบายลูกคนเดียวนี้ ได้หยุดการเกิดได้ถึง 400 ล้านคน รักษาระดับประชากรได้ที่ราว 1,350 ล้านคนในปัจจุบัน แต่นโยบายลูกคนเดียวก็ส่งผลกระทบในเชิงลบอย่างชนิดรอบทิศทาง ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม เพราะสัดส่วนประชากรวัยทำงานในจีน ซึ่งมีอยู่ราว 940 ล้านคน จะลดลง 3.45 ล้านคนต่อปี และคาดการณ์ว่าจะลดลงไปอีก ประมาณ 29 ล้านคนในทศวรรษนี้ ในทางตรงข้าม กลุ่มประชากรวัยชรากว่า 60 ปี จะขยายตัว ถึง 194 ล้านคน เท่ากับ 14.3 เปอร์เซ็นต์ของประชากรจีน เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าจากปี 2525 และคาดการณ์ว่าจะมีสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของประชากรจีนในปี 2593
ความไม่สมดุลระหว่างเพศชายหญิง ก็เป็นอีกผลข้างเคียงหนึ่ง ด้วยพ่อแม่จีนนิยมลูกชาย ทำให้เกิดการทำแท้งทารกที่เป็นเพศหญิง จากตัวเลขเมื่อปีที่แล้ว (2555) อัตราเพศชายมีมากกว่าเพศหญิง เท่ากับ 6:5 และในปี 2573 ชายจีนนับล้านๆ คนจะหาภรรยาไม่ได้
