เอเจนซี - อัจฉริยะเต้นรำ เพิร์ล ชาน ปูยี วัย 5 ขวบ สอบผ่านการเต้นในระดับนานาชาติถึง 11 รายการ จัดเป็นนักเต้นฯ อายุน้อยที่สุดในเกาะฮ่องกง เตรียมสอบเป็นครูผู้ช่วยฝึกสอนเต้นรำนานาชาติ
เซาท์ไชน่า มอร์นิงโพสต์ รายงาน (27 มี.ค.) ว่า ชาน ปูยี สาวน้อยอัจฉริยะการเต้นรำนี้ เมื่อตอนอายุ 3 ขวบ อันเป็นวัยที่เพิ่งหัดเดิน เธอได้รับการสอนเต้นรำลีลาศ และเต้นละติน พออายุ 4 ขวบ ก็กลายสอบผ่านการเต้นในระดับนานาชาติถึง 11 รายการ จัดเป็นนักเต้นฯ อายุน้อยที่สุดในเกาะฮ่องกง
รายงานข่าวกล่าวว่า ปัจจุบัน หนูน้อยชาน อายุ 5 ปี เธอเป็นนักเต้นอายุน้อยที่สุดของฮ่องกง ที่คว้ารางวัลมาแล้วนับไม่ถ้วน ทั้งเหรียญทอง เงิน ทองแดง จากสมาคมครูสอนเต้นรำนานาชาติ ซึ่งคาดว่าปีหน้า เธอก็จะสอบผ่านได้ใบอนุญาตเป็นครูผู้ช่วยฝึกสอนเต้นรำ ในวัย 6 ขวบ
เซลิน่า แลม วัย 30 ปี มารดาของเพิร์ล ชาน บอกว่าต้องการให้ลูกไปศึกษาต่อที่อเมริกา หรือไม่ก็แคนาดา แต่ปัจจุบันมีการแข่งขันสูง ที่ผ่านมา เธอทุ่มเงินด้านกิจกรรมของลูกไปหลายหมื่นดอลลาร์แล้ว แต่โอกาสและอนาคตของลูกก็ไม่ใช่ว่าจะง่ายนักในยุคนี้ ครั้งหนึ่งเธอเคยยื่นคุณสมบัติของลูกว่า ถ้าลูกสาวได้วุฒิเปียโนระดับ 8 ทางสถานศึกษาจะรับลูกของเธอไหม
ทางสถาบันฯ ตอบกับเธอว่า เดี๋ยวนี้เด็กๆ ที่ไหน ก็ล้วนได้เกรด 8 กันทั้งนั้น ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษ
แม้หนูน้อยเพิร์ล จะมีความสามารถพิเศษโดดเด่นในการเต้นรำ ชนะร้องเพลง เล่นเปียโน พิณ ตีกอล์ฟเก่ง เธอยังเรียนไวโอลินด้วย แต่กระนั้น เซลิน่า แลม แม่วัย 30 ปี ยังบอกว่า เพิร์ล ยังไม่พอถ้าจะแข่งกับคนอื่นๆ
ถ้าหากจะนับถ้วยและเหรียญรางวัลที่เพิร์ล ได้รับจนถึงวันนี้ ก็มากกว่า 45 รายการแล้ว ยังไม่รวมการประกวดประเภทวุฒิบัตรอื่นๆ ซึ่ง แลม บอกว่าความสำเร็จพวกนี้ ไม่ได้มีใครไปบังคับ แต่เพราะลูกชอบเอง ชีวิตเธอคงจะขาดหายถ้าไม่ได้เต้นรำฯ
แลม บอกว่า ชาน ชอบดูหนังการ์ตูนของวอลต์ ดิสนีย์ และมักจะจินตนาการตัวเองเป็นเจ้าหญิง สวมชุดเต้นรำงามสง่า เธออยากจะเป็นเจ้าของชุดเหล่านั้น ซึ่งแลมก็ได้ซื้อให้เธอไปแล้ว 5 ชุด
"เพิร์ล มีดนตรีอยู่ในสายเลือด" แลม กล่าวและว่า สามีของเธอ พ่อของชาน ชอบเต้นรำจังหวะแทงโก้ และซัลซา ชอบเล่นไวโอลิน กับเปียโน ซึ่งลูกสาวของตนก็ทำสิ่งเหล่านั้นตามธรรมชาติ ล่าสุดเธอเขียนเพลงเอง
จากการสนับสนุนกิจกรรมเหล่านี้ ทำให้แลมต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมาก เพิร์ลชอบเครื่องดนตรีมากกว่าของเล่นตามวัยของเด็กๆ "เรื่องแบบนี้จะขัดขวางลูกก็ไม่ได้ซะด้วย" แลม บอกและว่า กิจวัตรแบบนี้ ทำให้เธอต้องลาออกเพื่อเอาเวลามาทุ่มเทให้ลูกทั้งด้านการศึกษา ในโรงเรียนนานาชาติที่แพงที่สุดในเมือง และเฝ้ารับส่งทำกิจกรรมต่างๆ
อย่างไรก็ตาม แลม บอกว่าเธอไม่เคยกดดันลูก และถามลูกเสมอว่า ถ้าลูกแพ้จะเสียใจไหม ซึ่งเพิร์ล มักส่ายศีรษะและว่า ไม่เสียใจค่ะ
รายงานข่าวกล่าวว่า แลมและสามี ใช้เงินต่อเดือนมากกว่า 20,000 ดอลลาร์ฮ่องกง สำหรับกิจกรรมหลังเลิกเรียน แถมยังจ้างแม่บ้านอีกคนเผื่อสำหรับเวลาที่ติดธุระไม่สามารถดูแลได้
ทั้งนี้ การเตรียมการสอบเพื่อเป็นครูผู้ช่วยฝึกสอนเต้นรำนั้น เพิร์ลจะต้องจดจำทุกจังหวะท่าทาง รูปแบบการเต้นและเทคนิคต่างๆ นอกจากนั้นเธอยังมีครูพิเศษมาสอนทฤษฎีดนตรี ซึ่งทั้งหมดนี้แม้จะดูหนักหนาท้าทายสำหรับเด็กอายุเพียง 5 ขวบ แต่แลมบอกว่า เธอให้เวลาลูก 2 ปี สำหรับการสอบครั้งนี้ และด้วยความที่เชื่อมั่นว่าจีนจะยิ่งใหญ่ในโลกเศรษฐกิจ แลมจึงจ้างครูพิเศษมาสอนภาษาจีนกลาง ให้กับลูกสาวด้วย
แลมยืนยันว่า ครูที่สอนเก่งไม่ได้อยู่ในโรงเรียน แต่อยู่นอกโรงเรียน และมีความมั่นใจได้มากทีเดียว เมื่อเรียนกับครูพิเศษฯ
